GMP และ HACCP คือ อะไร?

GMP และ HACCP คือ อะไร?

gmphaccp

GMP และ HACCP คือ อะไร? เรามาทำความรู้จักกันดีกว่า ว่าทั้ง 2 มีความเหมือน และความแตกต่างกันอย่างไร ?

GMP และ HACCP คือ อะไร?

GMP คือ ?

GMP คือ

Good Manufacturing Practice หรือ GMP คือ หลักเกณฑ์และกรรมวิธีที่ดีในการผลิตอาหาร เป็นกฏระเบียบ เบื้องต้น ที่สำคัญมากสำหรับการผลิต รวมทั้งควบคุม เพื่อควบคุมให้ผู้ผลิตอาหารปฏิบัติตาม และทำให้สามารถผลิตอาหารได้อย่างปลอดภัย โดยเน้นการป้องกันและกำจัดความเสี่ยง ที่อาจก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษ เกิดอันตราย หรือ เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

 GMP เป็นระบบประกันคุณภาพที่มีการปฏิบัติ และพิสูจน์จากกลุ่มนักวิชาการด้านอาหารทั่วโลก แล้วว่าสามารถทำให้อาการเกิดความปลอดภัย เป็นที่ไว้ใจ และเป็นที่ยอมรับจากผู้ซื้อสินค้า หรือผู้บริโภค

หลักการของ GMP จึงครอบคลุมตั้งแต่สถานที่ตั้งของสถานประกอบการ โครงสร้างอาคาร ระบบการผลิตที่ดี มีความปลอดภัย รวมทั้งมีคุณภาพ ตามมาตรฐานทุกขั้นตอน นับจากเริ่มต้นกำหนดแผนการผลิต ระบบควบคุมตั้งแต่วัตถุดิบระหว่างการผลิต ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป การจัดเก็บ การควบคุมคุณภาพ และการขนส่งจรกระทั่งถึงผู้ซื้อสินค้า โดยมีระบบ บันทึกข้อมูล พิจารณา ตรวจสอบ และติดตามคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึง ระบบการจัดการที่ดีในเรื่องสุขอนามัย และสุขลักษณะ (Sanitation and Hygiene) ทั้งนี้ เพื่อให้สินค้าในขั้นตอนสุดท้าย มีคุณภาพ แล้วก็ปลอดภัย เป็นที่มั่นใจเมื่อถึงมือผู้บริโภค และ GMP ยังคงเป็นระบบระบบประกันคุณภาพพื้นฐานก่อนที่จะพัฒนาไปสู่ระบบประกันคุณภาพอื่น ๆ ถัดไป เช่น HACCP (Hazards Analysis and Critical Control Points) และ ISO 9000 อีกด้วย

ที่มา: www.revomed.co.th

HACCP คือ ?

HACCP คือ

 HACCP หรือ Hazards Analysis and Critical Points คือ ระบบการจัดการประสิทธิภาพ ด้านความปลอดภัย ซึ่งใช้สำหรับควบคุมกระบวนการผลิตให้ได้อาหารที่ปราศจากอันตรายจากเชื้อจุลินทรีย์ สารเคมี และสิ่งเจือปนต่าง ๆ อาทิเช่น เศษแก้ว โลหะ ฯลฯ ปัจจุบัน HACCP นับว่า เป็นมาตรฐานสากลที่ใช้สร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมอาหารทั้งโดยผู้ผลิต และผู้บริโภค และได้รับการยอมรับ อย่างมากมายในปัจจุบัน

ระบบ HACCP มีหลักการ 7 ข้อ ดังต่อไปนี้

  1. ดำเนินการวิเคราะห์อันตราย (Conduct a hazards analysis)
  2. หาจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (Determine the Critical Control Point (CCPs))
  3. กำหนดค่าวิกฤต (Establish critical Limit (s))
  4. กำหนดระบบเพื่อตรวจติดตามการควบคุมจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (Establish a system to monitor control of the CCP)
  5. กำหนดวิธีการแก้ไข เมื่อตรวจพบว่าจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งไม่อยู่ภายใต้การควบคุม (Establish the corrective action to be taken when monitoring indicates that particular CCP is not under control)
  6. กำหนดวิธีการทวนสอบเพื่อยืนยันประสิทธิภาพการดำเนินงานของระบบ HACCP (Establish procedures for verification to confirm that the HACCP system is working effectively)
  7. กำหนดวิธีการจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับวิธีการปฏิบัติและบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ที่เหมาะสมตามหลักการเหล่านี้ และการประยุกต์ใช้ (Establish documentation concerning all procedures and records appropriate to these principles and their application)

 

https://fi.co.th/article/what-is-gmp-and-haccp/

ข้อดีของหลังคาเมทัลชีท ที่มีดีมากกว่าหลังคากระเบื้อง

ข้อดีของหลังคาเมทัลชีท ที่มีดีมากกว่าหลังคากระเบื้อง

11.ข้อดีของหลังคาเมทัลชีท ที่มีดีมากกว่าหลังคากระเบื้อง 2024 1040

หากว่าท่านต้องการที่จะสร้างบ้าน หรืออาคารต่าง ๆ ส่วนประกอบที่สำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นนั่นก็คือ หลังคา (Roof) เนื่องจากหลังคาเป็นปราการด่านแรกที่จะปกป้องเราจากแสง ความร้อน สภาพอากาศในสภาพต่าง ๆ หลังคาจึงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอาคารบ้านเรือน

ในปัจจุบันหลังคาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนั้นมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ หลังคากระเบื้อง และ หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet) ซึ่งในบทความนี้ FATEK Group ของเรา จะพาทุกท่านไปรู้จักกับหลังคาทั้งสองประเภทให้มากขึ้น และมาดูกันว่าหลังคาประเภทไหนจะสามารถตอบโจทย์ของท่านได้มากกว่า

หลังคากระเบื้อง คือ?

หลังคากระเบื้องนั้นก็จะมีการแบ่งแยกย่อยออกมาได้อีกหลายประเภทด้วยกัน FATEK Group ได้คัดหลังคากระเบื้องที่เป็นที่นิยมมา 2 ประเภท ได้แก่

กระเบื้องหลังคาคอนกรีต

จากชื่อก็พอจะทราบว่าหลังคากระเบื้องชนิดนี้นั้นทำมาจากคอนกรีต ซึ่งเป็นวัสดุที่มีส่วนผสม คือ ปูนซีเมนต์ หิน ทราย และน้ำ โดยนำมาผสมกันและขึ้นรูปเป็นแผ่นแบบมีลอน โดยมีหลากหลายรูปทรงในปัจจุบัน เช่น ทรงแผ่นเรียบสี่เหลี่ยม ทรงหางว่าว หรือทรงข้าวหลามตัด

ข้อดี

  • มีความแข็งแรง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศและระบายน้ำได้ดี
  • มีการรั่วซึมน้อย เพราะมีความหนาแน่นสูง
  • มีหลากหลายรูปทรงและรูปแบบให้เลือก
  • สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
  • สามารถทาสีทับได้หากต้องการเปลี่ยนสีหลังคา

ข้อสังเกต

  • มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ จึงต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงรองรับ
  • คอนกรีตสามารถสะสมความร้อนได้ดี จึงอาจมีการอมและคายความร้อนออกมา
  • ผิวหยาบ ทำให้ฝุ่นละอองสามารถมาเกาะติดได้ง่าย
tile roof 1
หลังคากระเบื้องคอนกรีต
Source: Natural Red Natural Matti Roof Tiles, Shubhlaxmi Ceramics | ID: 20679290748 (indiamart.com)

กระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์

หลังคากระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือที่รู้จักกันดีในนามหลังคากระเบื้องลอนคู่นั่นเอง หลังคาชนิดนี้ทำมาจากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ โดยมีการผสมกับเส้นใยสังเคราะห์ โดยแต่ก่อนนี้ใช้เส้นใยหินก่อนเปลี่ยนมาใช้วัสดุแบบปัจจุบัน

หลังคาชนิดนี้ปัจจุบันได้รับความนิยมในการนำไปสร้างอาคารบ้านเรือนมากที่สุด เนื่องด้วยน้ำหนักที่เบากว่ากระเบื้องหลังคาคอนกรีต และตัวแผ่นหลังคาเองสามารถประยุกต์ให้เกิดความหลากหลายซึ่งสามารถนำมาใช้ได้กับหลากหลายโครงสร้าง

ข้อดี

  • แข็งแกร่งทนทานต่อหลากหลายสภาพแวดล้อม
  • สะสมความร้อนต่ำกว่าหลังคาคอนกรีต
  • แผ่นบาง มีน้ำหนักที่เบากว่าหลังคาคอนกรีต
  • มีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง
  • มีหลากหลายสีสัน

ข้อสังเกต

  • ต้นทุนสูง เปลืองวัสดุแปเหล็ก
  • เหมาะกับการติดตั้งอาคารบ้านเรือนที่เป็นที่พักอาศัย ที่มีความสูงไม่มากนัก
  • สีสันแตกต่างกันในแต่ละล็อต จึงทำให้เวลาซื้อมาเปลี่ยนของเดิม สีสันอาจจะแตกต่างกัน

หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet) คือ?

หลังคาเหล็กเมทัลชีท คือ หลังคาที่ผลิตมาจากเหล็กแผ่นบางที่มีส่วนผสมระหว่าง อลูมิเนียม และสังกะสี แล้วนำมาเคลือบด้วยสารป้องกันการเกิดสนิม นำมาขึ้นรูปลอนเพื่อความสวยงาม และเพื่อการระบายน้ำที่ดี ปัจจุบันเมทัลชีทมีให้เลือกมามายหลายรุ่น หลายเกรด ท่านจึงต้องเลือกให้สอดคล้องกับรูปแบบของอาคารและจุดประสงค์

ข้อดี

  • สามารถสั่งความยาวได้ตามต้องการ จึงลดปัญหาจุดรอยต่อ รวมไปถึงลดปัญหาของการรั่วซึมที่น่ารำคาญได้อย่างดี
  • ระบายและคายความร้อนได้ดีกว่าหลังคาประเภทอื่น จึงทำให้ไม่เกิดการอมความร้อนแบบหลังคาคอนกรีต ทำให้ภายในอาคารบ้านเรือนอุณหภูมิจะปรับเปลี่ยนให้เย็นได้ไวยิ่งกว่า
  • หลังคาชนิดนี้มีน้ำหนักเบา ทำให้สามารถทำหลังคาได้หลายรูปแบบ ทั้งยื่นออกมาเป็นหน้าจั่ว หรือทำทรงปั้นหยา
  • สามารถติดตั้งได้ในองศาที่ต่ำ โดยรองรับความชันได้ถึง 4-5 องศา ซึ่งบางรุ่นสามารถทำให้ต่ำกว่านี้ได้อีก หลังคากระเบื้องนั้นไม่สามารถรองรับองศาที่ต่ำแบบนี้ได้
  • ต้นทุนในการก่อสร้างนั้นต่ำกว่าหลังคากระเบื้อง เนื่องจากน้ำหนักเบากว่า โครงสร้างของอาคารจึงน้อยกว่า ไม่จำเป็นต้องเสริมโครงสร้างเพื่อรับน้ำหนักที่มากแบบหลังคากระเบื้อง
  • ใช้เวลาก่อสร้างรวดเร็ว จบงานไว เพราะเป็นแผ่นใหญ่ทั้งผืน ไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดเรียงแผ่นหลังคาแบบหลังคากระเบื้อง
  • มีความยืดหยุ่นสูง รองรับการบิดงอได้ตามต้องการ ทำให้ตอบรับกับทุกการดีไซน์ ซึ่งถ้าเป็นหลังคากระเบื้องจะไม่สามารถยืดหยุ่นได้ขนาดนี้

ข้อสังเกต

  • หลังคากระเบื้องจะป้องกันความร้อนได้ดีกว่าเมทัลชีท
  • เมทัลชีทจะมีเสียงดังมากกว่าหลังคากระเบื้องในเวลาฝนตก หรือลมกรรโชกแรง
  • หากต้องการเปลี่ยนแผ่นหลังคา จะยากกว่าหลังคากระเบื้อง เพราะหลังคากระเบื้องสามารถเปลี่ยนได้แค่แผ่นที่ชำรุด
  • อายุการใช้งานต่ำกว่าหลังคากระเบื้อง
Metal sheet roof 01
หลังคาเมทัลชีท
Source: Free photo Flowers Roof Sheet Metal Roof Window Geranium – Max Pixel

ท่านจะสังเกตเห็นได้ว่า หลังคากระเบื้อง กับ หลังเหล็กคาเมทัลชีท ต่างก็มีข้อดีและข้อสังเกตที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ และการออกแบบ ดังนั้นการเลือกชนิดประเภทหลังคาต้องวิเคราะห์เพื่อหาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อนำมาปรับให้เหมาะสมกับอาคารบ้านเรือนของท่านให้มากที่สุด

แผ่นฉนวนหลังคาเมทัลชีท PS Foam ที่สุดแห่งหลังคาของยุคนี้

แต่หากท่านสนใจหลังเหล็กคาเมทัลชีท FATEK Group ของเราก็มีผลิตภัณฑ์ที่มาหักล้างข้อสังเกตของหลังคาชนิดนี้ เพื่อให้ท่านได้ใช้หลังคาชนิดนี้อย่างมีความสุข นั่นก็คือ หลังฉนวนคาเมทัลชีท ชนิดไม่ลามไฟ ด้วยฉนวน PS Foam (PS Insulated Metal Sheet Roof) ซึ่งมีคุณสมบัติที่น่าทึ่ง

  • ไม่ลามไฟ ทนความร้อนสูง
  • ควันน้อย ป้องกันการเกิดเพลิงไหม้
  • แข็งแรง ทนทาน
  • ฝนตกเสียงไม่ดัง

เมื่อท่านต้องการหลังเหล็กคาเมทัลชีทพร้อมฉนวนกันความร้อนที่มีคุณภาพ สามารถติดต่อทีมงาน FATEK Group ได้ตลอดเวลาในทุก ๆ ช่องทาง แล้วท่านจะไม่ผิดหวังที่เลือกใช้บริการกับเรา

ที่มาของข้อมูล: กระเบื้องมุงหลังคา มีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ( Types of roofing materials) | Wazzaduเมทัลชีท คืออะไร? เรื่องน่ารู้ก่อนซื้อวัสดุมุงหลังคา | บลูสโคป แซคส์ (nsbluescope.com)ข้อดีข้อเสียของหลังคาเหล็กเมทัลชีท (ekkhouse.com)

https://fi.co.th/article/pros-of-metalsheet-which-is-better-than-tileroof/

รู้หรือไม่? Rockwool (ใยหิน) ปลูกต้นไม้ได้ด้วย!

รู้หรือไม่? Rockwool (ใยหิน) ปลูกต้นไม้ได้ด้วย!

Rockwool can plant trees too

Rockwool หรือ ใยหิน คืออะไร?

อย่างที่หลายท่านได้ทราบไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าฉนวนใยหินนั้นมีคุณสมบัติมากมายหลายหลากขนาดไหน จาก บทความ ฉนวนร็อควูล ฉนวนใยหิน คือ อะไร?

แต่ถ้าท่านใดยังไม่เคยรู้จัก ฉนวนใยหิน มาก่อน FATEK Group ของเราก็มีคำอธิบายสั้น ๆ ให้แก่ท่าน
ฉนวนใยหิน คือ วัตถุดิบที่ได้มาจากธรรมชาติ ซึ่งต้นกำเนิดนั้นมาจากหินภูเขาไฟที่ปะทุออกมานั่นคือหินบาซอลท์

โดยใยหิน นั้นใช้หินปูนและหินบาซอลท์ นำมาหลอมรวมในเตาเผาที่ใช้ถ่านโค้กเป็นเชื้อเพลิง ด้วยอุณภูมิที่สูงกว่า 1,300 องศาเซลเซียส วัสดุที่ถูกหลอมนั้นจะถูกปั่นให้กลายเป็นเส้นใยหิน และนำมาใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างอย่างแพร่หลาย

ได้ทำความรู้จัก ใยหิน กันไปคร่าว ๆ แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ใครหลาย ๆ คน รวมไปถึงตัวผู้เขียนเองก็เพิ่งได้ทราบ ถึงประโยชน์อีกหนึ่งอย่างของเจ้าร็อควูล สิ่ง ๆ นั้นก็คือ ฉนวนใยหิน สามารถนำมาใช้ในการเพาะปลูกพืช และต้นไม้ได้ด้วย

ทำไมจู่ ๆ ใยหินจึงถูกนำมาเป็นวัสดุเพาะปลูก? แล้วมีข้อดีอย่างไร? มาหาคำตอบกันดีกว่า

เนื้อแผ่นฉนวนใยหิน Rockwool
ภาพแสดงลักษณะของ Rockwool หรือ ใยหิน

ทำไม Rockwool Cube จึงถูกนำมาเป็นวัสดุเพาะปลูก?

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า ใยหิน นั้นได้มาจากหินภูเขาไฟที่ปะทุออกมาแล้วจึงค่อยนำมาแปรรูป ดังนั้นแร่ธาตุต่าง ๆ ที่อยู่ใน ร็อควูล จึงมีมากมายหลายอย่าง และแร่ธาตุเหล่านั้นเป็นแร่ธาตุสำคัญที่พืชต้องการ แล้วด้วยตัวของใยหินนั้นมีลักษณะที่อุ้มน้ำได้อย่างดี ทั้งหมดนี้ ใยหิน จึงเหมาะสมกับการนำมาเป็นวัสดุเพาะปลูก

โดยในปัจจุบัน ใยหิน มีการถูกตัดและอัดขึ้นรูปหลากหลายขนาด เพื่อให้สะดวกและเหมาะสมกับการเพาะปลูกพืช ใยหินแบบนี้มีเชื่อเรียกว่า Rockwool Cubes หรือ ก้อนใยหิน

ก้อนใยหิน นั้นประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ดังนี้ ซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2), อะลูมิเนียมออกไซด์ (Al2O3), แคลเซียมออกไซด์ (CaO) , แมกนีเซียมออกไซด์ (MgO) และ ธาตุเหล็ก (Fe)

นอกจากนี้ยังมีหินปูน และถ่านหินซึ่งเป็นวัสดุสะอาด สามารถดูดซับน้ำได้ดี ปราศจากเชื้อโรค มีปริมาตรช่องว่าง 97% มีการปลดปล่อยธาตุแคลเซียม, แมกนีเซียม รวมไปถึง โซเดียม เล็กน้อย

ใยหิน เป็นวัสดุที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพที่ดีต่อพืช นิยมใช้เป็นวัสดุชำและวัสดุปลูก ในแถบทวีปยุโรป, อเมริกาและออสเตรเลีย โดยในต่างประเทศมีการทดลองนำใยหินมาผสมกับวัสดุปลูกชนิดอื่น เช่น พีทมอส, เวอมิคูไลท์, เพอไลท์ มีการผสมใยหินในสัดส่วน 10, 20 และ 30% ตามลำดับ

ผลการทดลองปรากฏว่าดินที่ผสมใยหิน 20% นั้นทำให้ต้นพืชที่ทดสอบเจริญเติบโตได้ดีที่สุด ในประเทศไทยก็เริ่มมีการใช้ใยหินมาเพาะปลูกเช่นเดียวกัน โดยมีการใช้ใยหินล้วน ๆ เพียงอย่างเดียว และการใช้ร่วมกับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอื่น ๆ มาผสมเป็นวัสดุปลูกพืช เช่น มะเขือเทศ หรือแคนตาลูป

การใช้เทคโนโลยีแบบไฮโดรโปนิกส์ โดยใช้ใยหินภูเขาไฟในการเพาะปลูก นั้นมีความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถนำน้ำส่วนที่เกินความจำเป็นหมุนกลับมาใช้ใหม่ได้ นั่นหมายความว่ามีการใช้น้ำลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์

รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยยังช่วยให้การเพาะปลูกมีความเที่ยงตรงมากขึ้น สามารถตรวจวัดน้ำ, ควบคุมปริมาณน้ำ และปริมาณปุ๋ยได้อีกด้วย

Rockwool Cubes 04
Rockwool Cubes หรือ ก้อนใยหิน
Source: File:Rockwool cubes-envelope

ข้อดี ของการใช้ Rockwool Cube ปลูกต้นไม้มีอะไรบ้าง?

นอกจากนี้ ก้อนใยหิน ยังมีประโยชน์และข้อดีอีกหลายอย่าง ที่เหมาะกับการเป็นวัสดุปลูกที่ดี

– มีสารอาหารที่พืชต้องการอย่างครบถ้วน: ใยหินนั้นมีแร่ธาตุที่ประกอบไปด้วย ซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2), อะลูมิเนียมออกไซด์ (Al2O3), แคลเซียมออกไซด์ (CaO) , แมกนีเซียมออกไซด์ (MgO),ธาตุเหล็ก (Fe) และ อื่น ๆ อีกมายมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อพืชทั้งสิ้น

– มีความพรุนสูง 98% ทำให้เก็บอากาศ และเก็บน้ำได้ดี: เนื่องจากมีความพรุนสูง ทำให้มีน้ำและอากาศถูกกักเก็บอยู่ภายในก้อนใยหิน และมีปริมาณที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืช ก้อนใยหินสามารถอุ้มน้ำได้ถึง 70 – 80 % ทำให้เหมาะสมกับการทำฟาร์มไฮโดรโปนิกส์ที่สุด

– ป้องกันไม่ให้รากของพืชแห้ง พร้อมกับการมีอากาศให้รากได้หายใจ: เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของก้อนใยหินนั้นสามารถระบายน้ำส่วนเกินได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีช่องว่างที่สามารถให้อากาศแทรกเข้ามา ให้รากได้หายใจ มีอากาศหมุนเวียนอยู่ตลอด

– ไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับธาตุอาหารของพืช: เนื่องจากผลิตมาจากธรรมชาติ จึงไม่มีสารเคมีที่สามารถเป็นอันตรายต่อพืช ปลอดภัยทั้งกับรากและลำต้น นอกจากนี้ยังมีภูมิคุ้มกันเชื้อจุลินทรีย์ เป็นวัสดุที่ปลอดโรคและแมลง จึงไว้วางใจได้ว่าพืชที่เพาะปลูกจะไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน

– สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้: ในฐานะที่เป็นอนุพันธ์ของหิน ใยหินจึงไม่แตกหัก หรือสึกกร่อนเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นจึงสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้งด้วยกัน แต่แนะนำให้ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อน ไม่ว่าจะต้มหรือนึ่งก่อนที่จะนำมาใช้ใหม่อีกครั้ง

Rockwool Cubes 02
ก้อนใยหิน ที่มีลักษณะเหมาะกับการเพาะปลูกพืช
Source: File:Hydroponic Farming.jpg

การปลูกพืชใน Rockwool Cubes ทำอย่างไร?

ขั้นตอนการเตรียมการ: เนื่องจากก้อนใยหินนั้นมีค่า pH หรือความเป็นกรดด่าง โดยก้อนใยหินมีความเป็นด่างสูงมากตามธรรมชาติ อยู่ที่ระดับ 7.5-8.5 ซึ่งอาจจะยังไม่เหมาะกับการนำมาเพาะปลูกพืชในทันที ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกควรจะอยู่ที่ 5-7 จะดีที่สุด จึงต้องนำก้อนใยหินไปปรับค่าความเป็นกรดด่างก่อนนั่นเอง

วิธีการปรับค่า pH อย่างง่ายคือการนำก้อนใยหินที่เราต้องการใช้เป็นวัสดุเพาะปลูกมาแช่น้ำให้ท่วม และบีบมะนาวลงไปเพื่อปรับค่าความเป็นด่างให้กลับมาอยู่ที่ปกติ และแช่ทิ้งไว้ครู่หนึ่ง การแช่น้ำที่ผสมกับน้ำมะนาวเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอต่อการปรับค่าความเป็นด่างให้กลับมาเหมาะสมกับการเพาะปลูกแล้ว

การหว่านเมล็ด: สามารถนำเมล็ดพืชที่ต้องการเพาะพันธุ์มาใส่ลงในหลุมของก้อนใยหินที่ชุ่มน้ำ ประมาณ 2-3 เมล็ดต่อ 1 หลุม เมื่อต้นอ่อนงอกสูงออกมาประมาณ 2-3 นิ้ว ก็สามารถนำต้นอ่อนไปปลูกลงดิน ปลูกในสวนไฮโดรโปนิกส์ หรือแม้แต่การปลูกในก้อนใยหินต่อไปก็สามารถทำได้

Rockwool Cubes 03
ต้นอ่อนของพืชที่ขึ้นบน ก้อนใยหิน
Source: File:Diagonal Hydroponic Pattern.jpg

โดยก้อนใยหินนั้นเหมาะสมมากที่จะเป็นสารตั้งต้นของฟาร์มไฮโดรโปนิกส์ หรือแม้แต่การเพาะปลูกในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นการปลูกแบบขวดโหล หรือแบบทำเป็นระบบเพาะปลูกในระบบใหญ่ ๆ ซึ่งการใช้ก้อนใยหินในการปลูกจะทำให้พืชของคุณมีความแข็งแรง ได้สารอาหารที่ครบถ้วน และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

หากว่าท่านสนใจผลิตภัณฑ์แผ่นฉนวนสำเร็จรูปที่มีไส้ฉนวนเป็น ใยหิน ที่มีคุณสมบัติที่หลากหลายในหลาย ๆ ด้าน สามารถติดต่อสอบถามทาง FATEK Group ของเราได้ทุกช่องทาง เราพร้อมจะดูแลทุกท่านอย่างสุดกำลัง

 

https://fi.co.th/article/rockwool-can-plant-trees-too/

4 เทคนิคแก้บ้านร้อน ปรับบ้านให้เย็นด้วย Sandwich Panel

4 เทคนิคแก้บ้านร้อน ปรับบ้านให้เย็นด้วย Sandwich Panel

4 เทคนิคแก้บ้านร้อน ปรับบ้านให้เย็นด้วย Sandwich Panel 2024 1040

กำลังจะเข้าสู่หน้าร้อน หรือฤดูร้อนกันแล้ว หลาย ๆ ท่านคงกังวลใจเกี่ยวกับอุณหภูมิภายในบ้านที่อาจจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น ยิ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ในเขตใกล้เส้นศูนย์สูตรของโลกอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้ร้อนกว่าประเทศอื่น ๆ ในโลกกันเลยทีเดียว

ด้วยปัญหาด้านอุณหภูมิที่สูงขึ้นนั้น ทำให้หลาย ๆ บ้าน หลายครัวเรือนกังวลในเรื่องของค่าไฟที่ต้องปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากอากาศร้อนส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก สิ่งหนึ่งที่เราสามารถที่จะพอช่วยลดค่าไฟที่สูงขึ้นได้ นั่นก็คือการทำให้อุณหภูมิในบ้านลดลงได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นเอง เพื่อลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

จะลดอุณหภูมิบ้าน แก้บ้านร้อนยังไงดี?

ก่อนอื่นเลย การที่จะแก้บ้านร้อน ปรับบ้านให้เย็น ลดอุณหภูมิของบ้านนั้น เราจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุภายในบ้าน เนื่องจากวัสดุแต่ละประเภทมีการคายความร้อน – กักเก็บความร้อน และนำความร้อนที่แตกต่างกัน

 

อ่านเพิ่มเติม

https://fi.co.th/article/reduce-heat-of-house-with-sandwich-panel/

F-Grade vs P-Grade | 2 เกรดโฟม EPS ต่างกันยังไง?

F-Grade vs P-Grade | 2 เกรดโฟม EPS ต่างกันยังไง?

ทุกท่านเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไม EPS Foam ถึงมีหลายเกรด? ตอนที่จะเลือกซื้อแผ่นฉนวนสำเร็จรูปโฟมขาว (EPS) เขามีเกรดมาให้เลือก แต่โอ๊ยปวดหัว หัวจะปวด… งงไปหมดอะไรคือ F เกรด อะไรคือ P เกรด แล้วเกรดพวกนี้มันหมายถึงอะไร? แตกต่างกันอย่างไร? FATEK Group จะอธิบายให้อ่าน ไม่ต้องไปตามหาที่ไหน ข้อมูลมีอยู่ที่นี่แล้ว เข้าใจง่าย ๆ แบบกระชับ ๆ อ่านด้านล่างได้เลย!

F-Grade vs P-Grade สองเกรดโฟม EPS ต่างกันยังไง?

F-Grade Foam (Expandable Polystyrene)

F – Grade Foam คือ โฟม EPS ชนิดไม่ลามไฟ (Self Extinguish) เป็นโฟมเกรดพิเศษที่มีความปลอดภัยสำหรับการป้องกันอัคคีภัย นิยมใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดย F-Grade Foam จะเติมสารที่ชื่อว่า Hexabromocyclododecane (HBCD) ซึ่งสารชนิดนี้มีคุณสมบัติหน่วงการติดไฟ (Brominated Flame Retardant) ดังนั้นเมื่อโฟมมีไฟลุกไหม้จะสามารถชะลอการลามไฟได้เพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น โดยไฟที่ลุกไหม้ และจะดับเองภายใน 10 วินาที
นอกจากจะมีการนำสาร HBCD ไปใช้ในการผลิตโฟมฉนวนแล้วนั้นยังมีการนำไปใช้ในการผลิตสิ่งทอต่าง ๆ เช่น ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์, ฟูก, เบาะรถยนต์, ผ้าม่านและสิ่งทอในรถยนต์ เป็นต้น

 

อ่านเพิ่มเติม

 

https://fi.co.th/article/eps-foam-f-grade-vs-p-grade/