by RobRuThai | Jan 8, 2025 | ออนไลน์น่ารู้
สร้างพื้นที่นอกบ้านให้ลูกหลานได้วิ่งเล่น ใช้อะไรบ้าง หาซื้อได้ด้วยตัวเอง
พื้นที่นอกบ้านเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับเด็กๆ ในการพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจ การมีพื้นที่นอกบ้านที่ปลอดภัยและน่าสนใจจะช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยในบทความนี้ เราจะพาคุณสำรวจอุปกรณ์และวิธีการที่ใช้ในการสร้างพื้นที่นอกบ้านที่เหมาะสำหรับเด็ก รวมถึงวิธีติดตั้งรั้วคาวบอยเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการสร้างพื้นที่นอกบ้านสำหรับเด็ก
- ความปลอดภัย พื้นที่นอกบ้านควรปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ เช่น รถยนต์ หรือของมีคม
- ความหลากหลาย พื้นที่นอกบ้านควรมีกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ทำหลากหลาย เช่น สนามเด็กเล่น สวนผัก สระน้ำ หรือพื้นที่สำหรับปิกนิก
- ความสะดวกสบาย พื้นที่นอกบ้านควรสะดวกสบายสำหรับเด็กๆ และผู้ปกครอง เช่น มีที่นั่งพักผ่อน มีห้องน้ำ และมีแหล่งน้ำสะอาด
- ความสวยงาม พื้นที่นอกบ้านควรสวยงามและน่าดึงดูดใจ เพื่อให้เด็กๆ อยากใช้เวลาอยู่ที่นั่น

สิ่งที่สามารถใช้ในการสร้างพื้นที่นอกบ้านสำหรับเด็ก
- สนามเด็กเล่น สนามเด็กเล่นเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับเด็กๆ ในการเล่นและออกกำลังกาย มีอุปกรณ์เล่นต่างๆ เช่น สไลเดอร์ ชิงช้า และบ้านบอล
- สระน้ำ สระน้ำตื้น ๆ เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ในการเล่นน้ำและคลายร้อน
- พื้นที่สำหรับปิกนิก พื้นที่สำหรับปิกนิกเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ในการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง
- รั้ว รั้วเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันเด็กๆ ไม่ให้หลุดออกไปนอกพื้นที่
- ต้นไม้ การมีต้นไม้หรือพืชพรรณในพื้นที่วิ่งเล่นช่วยสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นและสดชื่น คุณสามารถปลูกต้นไม้ขนาดเล็กที่ไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก เช่น ต้นโมก หรือต้นไม้ที่ให้ร่มเงา เช่น ต้นชมพู่ หรือปลูกสนามหญ้าเพื่อให้เด็กสามารถเล่นได้อย่างสบาย
- ดอกไม้ ดอกไม้ช่วยเพิ่มสีสันและความสวยงามให้กับพื้นที่นอกบ้าน

เพิ่มรั้วคาวบอยเพื่อความปลอดภัย
ประโยชน์ของรั้วคาวบอย
รั้วคาวบอยเป็นรั้วที่มีดีไซน์เรียบง่ายแต่แข็งแรง สามารถช่วยกำหนดขอบเขตพื้นที่วิ่งเล่นของเด็กให้ชัดเจน และป้องกันเด็กเล็กจากการวิ่งออกไปยังพื้นที่อันตราย เช่น ถนนหรือพื้นที่ลาดชัน
วัสดุสำหรับรั้วคาวบอย
วัสดุที่ใช้สำหรับรั้วคาวบอยสามารถเลือกได้หลายชนิด เช่น ไม้จริง ไม้เทียม หรือเหล็กเคลือบสี คุณสามารถซื้อชุดรั้วสำเร็จรูปได้จากร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างหรือร้านค้าออนไลน์ที่ให้บริการจัดส่งถึงบ้าน
สรุป
การสร้างพื้นที่นอกบ้านให้ลูกหลานได้วิ่งเล่นไม่จำเป็นต้องยุ่งยากหรือใช้งบประมาณมาก หากมีการวางแผนอย่างรอบคอบและเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม เช่น ชุดเครื่องเล่น พื้นยางกันกระแทก และรั้วคาวบอย คุณก็สามารถสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยและสนุกสนานสำหรับเด็กได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวและจัดสรรพื้นที่ให้มีร่มเงายังช่วยให้พื้นที่วิ่งเล่นมีความน่าอยู่และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
by RobRuThai | Jan 8, 2025 | ออนไลน์น่ารู้
วิธีรับมือกับไฟป่า

ไฟป่าเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งสภาพอากาศแห้งแล้งและมีลมแรงจะทำให้ไฟป่าลุกลามได้อย่างรวดเร็ว ไฟป่าสามารถสร้างความเสียหายต่อป่าไม้ สัตว์ป่า และทรัพย์สินของประชาชนได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศและสุขภาพของประชาชนอีกด้วย
สาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่า
ไฟป่าส่วนใหญ่เกิดจากสองสาเหตุหลัก ได้แก่:
- สาเหตุจากธรรมชาติ เช่น ฟ้าผ่า หรือสภาพอากาศที่แห้งแล้งร่วมกับลมแรง ซึ่งเป็นปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดไฟป่าได้ง่าย
- สาเหตุจากมนุษย์ เช่น การเผาไร่เผาป่า การทิ้งก้นบุหรี่ หรือการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับไฟในพื้นที่ป่าโดยขาดความระมัดระวัง
วิธีป้องกันไฟป่าก่อนที่จะเกิด
1. หลีกเลี่ยงการเผาในพื้นที่ป่า
การเผาเศษวัสดุหรือขยะในพื้นที่ใกล้ป่าสามารถนำไปสู่การเกิดไฟป่าที่ลุกลามได้ง่าย ควรหาวิธีจัดการขยะหรือเศษวัสดุอย่างปลอดภัย เช่น การนำไปรีไซเคิลหรือฝังกลบแทนการเผา
2. ให้ความรู้กับชุมชน
การสร้างความตระหนักรู้ในชุมชนเกี่ยวกับผลกระทบของไฟป่าและวิธีป้องกัน เช่น การจัดอบรมหรือการให้ข้อมูลผ่านสื่อที่เข้าถึงได้ง่าย จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไฟป่าจากกิจกรรมของมนุษย์
3. สร้างแนวกันไฟ
การสร้างแนวกันไฟในพื้นที่เสี่ยง เช่น การตัดหญ้าและกำจัดวัสดุที่ติดไฟง่ายในพื้นที่รอบบ้านหรือชุมชน สามารถช่วยลดโอกาสที่ไฟป่าจะลุกลามเข้าสู่พื้นที่ที่อยู่อาศัยได้

วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดไฟป่า
1. แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หากพบเห็นไฟป่า ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ เช่น กรมป่าไม้ หน่วยดับเพลิง หรือหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้โดยเร็ว
2. เตรียมอพยพ
เมื่อไฟป่าใกล้เข้ามา ควรเตรียมสิ่งของจำเป็น เช่น เอกสารสำคัญ ยา อาหารแห้ง น้ำดื่ม และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลไว้ล่วงหน้า รวมถึงวางแผนเส้นทางการอพยพที่ปลอดภัย
3. ปิดประตูและหน้าต่าง
หากไม่สามารถอพยพได้ทันที ควรปิดประตู หน้าต่าง และช่องระบายอากาศทั้งหมดเพื่อป้องกันควันไฟและความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน
ผลกระทบจากไฟป่า
1. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไฟป่าทำลายพื้นที่ป่าไม้ ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และการลดลงของคุณภาพดินในพื้นที่ที่ถูกเผา
2. ผลกระทบต่อสุขภาพ ควันจากไฟป่ามีสารพิษที่สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคทางเดินหายใจและโรคหัวใจ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว
3. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การสูญเสียทรัพยากรป่าไม้และค่าใช้จ่ายในการดับไฟป่า รวมถึงผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่เสี่ยงไฟป่า เป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก
สรุป
การรับมือกับไฟป่าอย่างมีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการป้องกัน การสร้างความตระหนักรู้ และการเตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์ การปฏิบัติตามวิธีการที่ถูกต้องจะช่วยลดผลกระทบจากไฟป่าต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก หากทุกคนร่วมมือกันในการดูแลป่าไม้และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ปัญหาไฟป่าก็จะลดลงอย่างยั่งยืน
by RobRuThai | Jan 7, 2025 | ออนไลน์น่ารู้
หากกลัวบ้านทรุด สามารถใช้เสาเข็มไมโครไพล์เสริมความแข็งแรง
บ้านที่มีอายุการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนตัวของดินและสภาพอากาศที่ไม่คงที่ อาจเผชิญกับปัญหาบ้านทรุดตัวได้อย่างไม่คาดคิด ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายครอบครัวต้องเผชิญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีดินอ่อนหรือพื้นที่ที่มีการบีบอัดของน้ำใต้ดินที่มีผลต่อการทรุดตัวของบ้าน ดังนั้นการเสริมความแข็งแรงให้กับบ้านจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ้านทรุด คือ การใช้เสาเข็มไมโครไพล์ ซึ่งเป็นวิธีการที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างบ้านในระยะยาว

เสาเข็มไมโครไพล์คืออะไร และทำไมถึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเสริมความแข็งแรง
เสาเข็มไมโครไพล์ (Micro Pile) คือ เสาเข็มที่มีขนาดเล็กและมีการเจาะลงไปในดินเพื่อฝังเสาเข็มที่สามารถรับน้ำหนักได้ดี แม้ในพื้นที่ที่มีพื้นที่จำกัดหรือพื้นที่ที่มีความซับซ้อนทางด้านโครงสร้าง เช่น บริเวณที่มีอาคารตั้งอยู่หรือสถานที่ที่มีความอ่อนตัวของดิน การใช้เสาเข็มไมโครไพล์จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับฐานรากของบ้านและสามารถป้องกันการทรุดตัวของโครงสร้างบ้านในระยะยาวได้
วิธีการทำงานของเสาเข็มไมโครไพล์
การทำงานของเสาเข็มไมโครไพล์จะเริ่มต้นจากการเจาะดินลงไปที่บริเวณที่ต้องการเสริมความแข็งแรง โดยการใช้เครื่องมือพิเศษในการเจาะและฝังเสาเข็มลงไปจนถึงชั้นดินที่มีความแข็งแรงพอสมควร หลังจากนั้นจะทำการติดตั้งเสาเข็มไมโครไพล์ลงไปในหลุมที่เจาะไว้ โดยเสาเข็มจะมีการยึดเกาะดินที่ชั้นลึก และสามารถรับน้ำหนักจากบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เสาเข็มไมโครไพล์มักจะใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง เช่น เหล็กหรือคอนกรีต เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักของโครงสร้างบ้านได้อย่างมั่นคง ซึ่งวิธีการนี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาบ้านทรุดได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องทำการขุดลอกพื้นที่บริเวณฐานรากทั้งหมดเหมือนกับการใช้เสาเข็มแบบทั่วไป

ข้อดีของการแก้ไขบ้านทรุดด้วยเสาเข็มไมโครไพล์
- แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด สามารถแก้ไขปัญหาการทรุดตัวได้ตรงจุดที่เกิดปัญหา
- เพิ่มความแข็งแรงให้กับฐานราก ทำให้ฐานรากของอาคารมีความแข็งแรงมากขึ้น
- ยืดอายุการใช้งานของอาคาร ช่วยให้อาคารสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น
- ไม่รบกวนผู้อาศัย การติดตั้งเสาเข็มไมโครไพล์ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่นๆ ของอาคาร และไม่รบกวนผู้อาศัย
สรุป
หากคุณกังวลเกี่ยวกับปัญหาบ้านทรุด การใช้เสาเข็มไมโครไพล์เสริมความแข็งแรงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เสาเข็มไมโครไพล์ช่วยให้โครงสร้างบ้านมั่นคงและทนทานต่อการเคลื่อนตัวของดินและสภาพแวดล้อมที่ไม่คงที่ ด้วยประโยชน์หลายประการ เช่น การติดตั้งที่รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย และการเสริมความแข็งแรงในพื้นที่จำกัด การเลือกใช้เสาเข็มไมโครไพล์จึงเป็นวิธีที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของบ้าน และสร้างความมั่นใจให้กับผู้อยู่อาศัยได้ในระยะยาว
by RobRuThai | Jan 7, 2025 | ออนไลน์น่ารู้
ส่องชีวิตใต้ท่อระบายน้ำ โลกเล็กๆ ของสัตว์น้อยใหญ่
ท่อระบายน้ำ อาจดูเหมือนเป็นเพียงช่องทางระบายน้ำเสีย แต่แท้จริงแล้ว ใต้ท่อระบายน้ำแห่งนี้ซ่อนเร้นโลกเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยชีวิตของสัตว์นานาชนิด ที่อาศัยและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มืดและชื้นแห่งนี้ได้อย่างน่าทึ่ง สำหรับบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปสำรวจและรู้จักกับสัตว์ที่อาศัยอยู่ใต้ท่อระบายน้ำ รวมถึงพฤติกรรมและการปรับตัวที่ทำให้พวกมันสามารถอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก

สัตว์อะไรบ้างที่อาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำ?
สัตว์ที่อาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำนั้นมีความหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและภูมิศาสตร์ของแต่ละพื้นที่ แต่โดยทั่วไปแล้ว เราจะพบสัตว์กลุ่มต่อไปนี้
- หนู หนึ่งในสัตว์ที่พบบ่อยที่สุดใต้ท่อระบายน้ำคือ “หนู” โดยเฉพาะหนูบ้านหรือหนูท่อที่มีการปรับตัวได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มืดและแคบ หนูสามารถหาทรัพยากรได้จากขยะและเศษอาหารที่ทิ้งลงไปในท่อระบายน้ำ รวมถึงแมลงหรือสัตว์เล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในท่อ ระบายน้ำยังช่วยให้หนูสามารถหลีกเลี่ยงการถูกล่าจากสัตว์นักล่าอื่น ๆ เช่น แมวหรือสุนัข หนูเหล่านี้มักมีพฤติกรรมที่ปรับตัวได้ดีในการเจริญเติบโตในพื้นที่แคบ โดยสามารถขยายพันธุ์ได้รวดเร็วและอาศัยอยู่ได้ในทุกสภาพอากาศ แม้ในช่วงที่น้ำท่วม ก็สามารถหาที่หลบภัยได้จากการเคลื่อนที่ไปในท่อที่สูงขึ้นหรือหลบซ่อนในมุมที่แห้ง
- ปลาหมอสี บางครั้งท่อระบายน้ำไม่เพียงแต่มีน้ำที่ไหลเร็วจากฝนเท่านั้น แต่ยังมีน้ำขังอยู่ในบางพื้นที่ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่สัตว์น้ำบางชนิดอาจจะเลือกอาศัยอยู่ เช่น ปลาหมอสีที่สามารถทนต่อสภาพน้ำที่ไม่สะอาดหรือขาดออกซิเจนได้ดี โดยทั่วไปปลาหมอสีจะเจริญเติบโตในแหล่งน้ำที่มีความชื้นสูงและมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ปลาหมอสีสามารถใช้ท่อระบายน้ำที่มีน้ำขังเป็นแหล่งหลบภัยจากศัตรู หรือแม้แต่การขยายพันธุ์ในสถานที่ที่มีความสงบและปราศจากการรบกวนจากมนุษย์
- แมลงต่าง ๆ ท่อระบายน้ำไม่ได้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับสัตว์ใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งที่พักพิงของแมลงหลากหลายชนิด เช่น แมลงสาบ มด หรือแมลงวัน ซึ่งสามารถหาทรัพยากรอาหารจากเศษอาหารที่ทิ้งลงในท่อได้ แมลงเหล่านี้มีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มืดและชื้นได้ดี ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่ทำให้มันสามารถเจริญเติบโตได้ในที่นี้
- กิ้งก่าหรือสัตว์เลื้อยคลาน แม้ว่าสัตว์เลื้อยคลานเช่น กิ้งก่าหรืออีกัวน่าไม่ใช่สัตว์ที่พบเห็นได้บ่อยในท่อระบายน้ำ แต่บางครั้งพวกมันก็อาจจะอาศัยอยู่ในท่อที่มีอุณหภูมิและความชื้นเหมาะสม สัตว์ประเภทนี้มักจะใช้ท่อระบายน้ำในการหาอาหาร เช่น การจับแมลง หรือพวกมันอาจจะใช้ท่อระบายน้ำเป็นที่หลบซ่อนจากสัตว์นักล่าหรือศัตรู

วิธีป้องกันปัญหาสัตว์ในท่อระบายน้ำ
เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดจากสัตว์ในท่อระบายน้ำ เราสามารถทำได้ดังนี้
- รักษาความสะอาด หมั่นทำความสะอาดท่อระบายน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อลดแหล่งอาหารของสัตว์
- ปิดช่องทางเข้า ปิดช่องทางเข้าออกของท่อระบายน้ำให้มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เข้าไปอาศัย
- ติดตั้งฝาท่อระบายน้ำ ติดตั้งตะแกรงที่ปากท่อระบายน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของขนาดใหญ่ตกลงไปอุดตัน
- กำจัดแหล่งน้ำขัง กำจัดแหล่งน้ำขังบริเวณรอบบ้าน เพื่อลดจำนวนยุงและแมลงอื่นๆ
by RobRuThai | Jan 7, 2025 | ทั่วไป อื่นๆ
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) อนุมัติยาใหม่สำหรับเด็กที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง

วันที่ 20 ธันวาคม 2567 – สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ได้อนุมัติยา remestemcel-L ซึ่งเป็นการรักษาใหม่สำหรับเด็กอายุ 2 เดือนขึ้นไปที่มีโรค graft-versus-host disease แบบเฉียบพลันที่ดื้อต่อสเตียรอยด์ (SR-aGVHD) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของการปลูกถ่ายไขกระดูกจากผู้บริจาค การอนุมัติดังกล่าวถือเป็นการบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิดครั้งแรกสำหรับโรคนี้ และจะวางจำหน่ายภายใต้ชื่อแบรนด์ Ryoncil
SR-aGVHD ซึ่งเป็นภาวะที่คุกคามชีวิต มีผลกระทบต่อเด็กประมาณ 25% จากจำนวนเด็ก 1,500 คนในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกในแต่ละปี การปลูกถ่ายเหล่านี้แทนที่ไขกระดูกที่ไม่แข็งแรงด้วยเซลล์ต้นกำเนิดที่สร้างเม็ดเลือดที่มีสุขภาพดีจากผู้บริจาค ซึ่งมักใช้เพื่อรักษามะเร็งในกระแสเลือด โรคเลือด หรือโรคภูมิคุ้มกัน แต่ในประมาณ 50% ของกรณี เซลล์ที่บริจาคจะโจมตีร่างกายของผู้รับในไม่ช้าหลังการปลูกถ่าย ทำให้เกิด aGVHD ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ของร่างกายหลายระบบ รวมถึงผิวหนัง ตับ กระเพาะอาหาร และลำไส้ สำหรับผู้ป่วยเกือบครึ่งหนึ่ง ภาวะนี้ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยสเตียรอยด์มาตรฐานและเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ที่ไม่ดี
Remestemcel-L สกัดจากเซลล์ต้นกำเนิดพิเศษที่สกัดจากไขกระดูกของผู้บริจาคและให้แก่ผู้ป่วยผ่านการฉีดยาทางหลอดเลือดดำหลายครั้ง ช่วยควบคุมการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยที่มี SR-aGVHD โดยลดการอักเสบที่เป็นอันตรายและเพิ่มกระบวนการต้านการอักเสบตามธรรมชาติของร่างกาย ยานี้ยังเป็นการรักษาที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ครั้งแรกสำหรับเด็กอายุ 2 เดือนขึ้นไป รวมถึงวัยรุ่นและวัยรุ่น ตามข่าวประชาสัมพันธ์จาก Mesoblast บริษัทผู้ผลิต Ryoncil

การอนุมัติครั้งนี้ขึ้นอยู่กับการทดลองทางคลินิกที่ทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิผลของ Ryoncil ในเด็ก 54 คนที่มี SR-aGVHD หลังการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดจากผู้บริจาค เด็กๆ ได้รับการฉีดยา Ryoncil สองครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลาสี่สัปดาห์ หลังจาก 28 วัน ผู้ป่วย 70% ตอบสนองต่อการรักษา โดย 30% แสดงให้เห็นการตอบสนองที่สมบูรณ์ (การปรับปรุงในอวัยวะที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด) และ 41% แสดงให้เห็นการตอบสนองบางส่วน (การปรับปรุงในอวัยวะหนึ่ง อวัยวะอื่นไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือแย่ลง) ต่อการรักษา เด็กที่แสดงอาการดีขึ้นบางส่วนได้รับการฉีดยาหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลาอีกสี่สัปดาห์ โดยเฉลี่ยแล้ว การปรับปรุงจะคงอยู่เป็นเวลา 54 วันก่อนที่อาการจะแย่ลง จำเป็นต้องได้รับการรักษาใหม่ หรือผู้ป่วยเสียชีวิต ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่ การติดเชื้อ ไข้ เลือดออก บวม ปวดท้อง และความดันโลหิตสูง อาการแทรกซ้อนอื่นๆ อาจรวมถึงอาการแพ้หรืออาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดยา และการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อที่ผิดปกติ
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า ไม่ควรใช้ยา Ryoncil ในผู้ที่มีอาการแพ้ไดเมทิลซัลฟอกไซด์ (DMSO) หรือโปรตีนจากสัตว์ เช่น หมูหรือวัว
แปลบทความจาก https://www.webmd.com/children/news/20241220/fda-approves-new-drug-for-kids-with-severe-immune-disease