by wedigital | Nov 23, 2025 | ทั่วไป อื่นๆ
บ้านโมเดิร์นได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่เรียบง่าย เรียบร้อย และฟังก์ชันใช้งานได้จริง แต่สิ่งที่คนยุคใหม่ให้ความสำคัญไม่แพ้ดีไซน์ก็คือ “การประหยัดพลังงาน” โดยเฉพาะในบ้านเมืองร้อนอย่างประเทศไทย ที่หากออกแบบบ้านไม่เหมาะสมก็อาจทำให้อากาศร้อนอบอ้าวจนต้องเปิดแอร์ทั้งวัน
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า บ้านโมเดิร์นจะประหยัดพลังงานและเย็นได้ทั้งวัน ต้องออกแบบอย่างไร และควรเลือกวัสดุแบบไหนให้ตอบโจทย์ทั้งความสวยและความคุ้มค่าในระยะยาว
1. ดีไซน์บ้านโมเดิร์นให้ประหยัดพลังงาน ต้องเริ่มจาก “ทิศของบ้าน”
การออกแบบบ้านให้เย็นไม่ใช่แค่เรื่องของวัสดุ แต่เริ่มตั้งแต่ การวางตำแหน่งตัวบ้าน ตามทิศแดด
✔ ทิศที่ควรหลีกเลี่ยง
✔ ทิศที่ดีที่สุดสำหรับบ้านโมเดิร์น
2. เสริมความเย็นด้วยดีไซน์ “ช่องแสง – ช่องลม”
บ้านโมเดิร์นจุดเด่นคือกระจกบานใหญ่ หน้าต่างเยอะ แต่ถ้าเลือกผิดบ้านจะร้อนทันที
✔ วางช่องเปิดให้ลมเข้า–ออกได้จริง
✔ ใช้กระจกที่ช่วยลดความร้อน
แนะนำเลือก
3. หลังคาแบบไหนช่วยให้บ้านเย็นสุด?
หลังคาคือส่วนที่รับแดดโดยตรงตลอดวัน การเลือกหลังคาที่ดีช่วยลดอุณหภูมิบ้านได้หลายองศา
✔ หลังคาที่เหมาะกับบ้านโมเดิร์น
-
หลังคาแผ่นเรียบไฟเบอร์ซีเมนต์
-
หลังคาเมทัลชีทแบบมีฉนวน PU/PIR
-
หลังคาทรงแบนหรือสโลปน้อย ที่ระบายน้ำดีและติดฉนวนง่าย
✔ สิ่งที่ควรทำเพิ่ม
-
ติดตั้ง ฉนวนกันความร้อน 2–3 นิ้ว
-
เพิ่มแผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคา
-
ใช้ฝ้าชายคาระบายอากาศ (Vents) ให้ความร้อนออกได้เร็ว
4. ผนังบ้านเย็นขึ้นได้ด้วยการเลือกวัสดุให้เหมาะสม
ผนังคืออีกส่วนที่ทำให้บ้านร้อนสะสม หากเลือกวัสดุดีช่วยลดความร้อนได้มาก
✔ วัสดุผนังที่ช่วยให้บ้านโมเดิร์นเย็น
-
ผนังสำเร็จรูปไฟเบอร์ซีเมนต์ + ฉนวนใยแก้ว
-
ผนัง EPS / PU Sandwich Panel (ฮิตในบ้านโมเดิร์นราคาประหยัด)
-
ผนังปูนฉาบ + ฉนวน XPS แผ่น
✔ ผนังทิศตะวันตกควรเพิ่ม
5. พื้นบ้านที่เย็น เดินสบาย ใช้วัสดุอะไรดี?
พื้นก็ช่วยลดความร้อนสะสมในบ้านเช่นกัน
✔ พื้นที่ช่วยลดอุณหภูมิ
-
กระเบื้องเซรามิก / แกรนิตโต้ เย็นที่สุด
-
พื้นกระเบื้องยาง SPC ไม่อมความร้อน
-
พื้นไม้จริงหรือไม้เทียมสีอ่อน ไม่ดูดความร้อน
✔ สีพื้นและสีผนัง
ใช้โทน สีอ่อน – สีพาสเทล – สีเอิร์ธโทน จะช่วยสะท้อนความร้อนและทำให้ห้องโปร่งขึ้น
6. ใช้ “ต้นไม้ + พื้นที่สีเขียว” เป็นตัวช่วยประหยัดพลังงาน
บ้านโมเดิร์นไม่ต้องมีสวนใหญ่ก็เย็นได้ ใช้เพียง
ช่วยตัดแสงแดดก่อนถึงผนังได้ดีมาก
7. ใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานร่วมด้วย เพิ่มความคุ้มค่า
✔ ขนาดแอร์ให้เหมาะกับห้อง
ห้องร้อนเพราะแอร์เล็กเกินไปก็ทำให้กินไฟ
✔ หลอดไฟประหยัดพลังงาน LED
ลดความร้อนจากหลอดไฟลงได้อย่างมาก
✔ โซล่าเซลล์
ช่วยประหยัดค่าไฟระยะยาว โดยเฉพาะบ้านโมเดิร์นหลังคาแบนติดง่ายที่สุด
สรุป: บ้านโมเดิร์นเย็นได้ง่าย แค่เลือกวัสดุและดีไซน์อย่างเหมาะสม
การทำให้บ้านโมเดิร์นประหยัดพลังงานและเย็นทั้งวันไม่ยาก หากวางแผนตั้งแต่ต้น โดยปรับทั้ง
บ้านจะเย็นขึ้นอย่างรู้สึกได้จริง ลดค่าไฟ และอยู่สบายมากขึ้นในระยะยาว
by wedigital | Nov 22, 2025 | ทั่วไป อื่นๆ
ถ้าพูดถึงทำเลที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ชื่อที่ติดอันดับแรกเสมอคือ “สุขุมวิท” ไม่ว่าจะซื้ออยู่เอง ลงทุน ปล่อยเช่า หรือเก็บเป็นสินทรัพย์ระยะยาว ทำเลสุขุมวิทยังคงเป็น ที่สุดของความน่าอยู่ อย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นโซนที่มีคอนโดคุณภาพระดับ Luxury – Super Luxury มากที่สุดในประเทศ

ภาพประกอบบทความ
หลายคนจึงตั้งคำถามว่า…ทำไมคอนโดสุขุมวิทถึงเป็นทำเลยอดนิยมที่สุดของกรุงเทพฯ? เหมาะกับใครบ้าง? ทำเลไหนในสุขุมวิทน่าอยู่ที่สุด?
บทความนี้จะพาคุณวิเคราะห์แบบลึก แต่เข้าใจง่าย ด้วยมุมมอง AEO ตรงประเด็น พร้อมตอบโจทย์ SEO ครบทุกหัวข้อหลักที่คนค้นหา
1. สุขุมวิทคือทำเลสำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ เพราะอะไร? (ตอบ Intent แบบ AEO)
สุขุมวิทถูกยกให้เป็น “ที่สุดของทำเลเมือง” เพราะมีครบทั้ง
- การเดินทาง
- ไลฟ์สไตล์
- แหล่งงาน
- ชุมชนระดับพรีเมียม
- สิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกมิติ
กล่าวได้ว่า “สุขุมวิท = คุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ”
จุดเด่นสำคัญที่ทำให้สุขุมวิทเหนือกว่าทำเลอื่น:
✔ ศูนย์กลางของรถไฟฟ้า BTS (ใจกลางเมืองจริง)
สุขุมวิทเป็นเส้นหลักที่เชื่อมต่อ
- สายสุขุมวิท
- สายสีเขียว
- สายสีทอง (เชื่อมฝั่งธน)
- ใกล้ MRT
- ใกล้ Airport Rail Link
- เดินทางง่ายที่สุดในกรุงเทพฯ
✔ ไลฟ์สไตล์ระดับโลกครบที่สุดในเมือง
- ห้างใหญ่ (EM District, Terminal 21, Gateway Ekamai)
- คาเฟ่ ร้านอาหารโรงแรมดัง
- ย่านบันเทิง ทองหล่อ – เอกมัย
- โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง
- โรงพยาบาลชั้นนำ
- อยากได้อะไร? สุขุมวิทมีหมด
✔ ชุมชนต่างชาติ (Expat Community) ใหญ่ที่สุดในไทย
เหมาะสำหรับการลงทุน ปล่อยเช่า
และเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาคอนโดสุขุมวิทเติบโตต่อเนื่อง
✔ ทำเลหรูที่สุดของกรุงเทพฯ
เป็นโซนที่มีคอนโด Luxury – Super Luxury มากที่สุด
เพราะเป็นทำเลที่ดินราคาสูงและมี Demand ตลอดเวลา
2. สุขุมวิทแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ทำเลไหนเหมาะกับใคร?
เพื่อเลือกคอนโดสุขุมวิทให้เหมาะที่สุด ต้องรู้จักแต่ละโซนก่อน
(1) สุขุมวิทตอนต้น – Prime CBD – ความนิยมสูงสุด
โซน: นานา – อโศก – พร้อมพงษ์
เหมาะกับ: ผู้บริหาร, expat, คนชอบความสะดวกสูงสุด
จุดเด่น:
- ติดแหล่งงานสำคัญ
- ใกล้ BTS + MRT + ทางด่วน
- ร้านอาหาร–ห้าง–ไลฟ์สไตล์ครบมาก
- มีคอนโดพรีเมียมจำนวนมาก
- ราคาคอนโดโดยประมาณ: 180,000 – 350,000 บาท/ตร.ม.
- โซนนี้ถือเป็น “ที่สุดของสุขุมวิท” สำหรับการใช้ชีวิตในเมือง
(2) สุขุมวิทตอนกลาง – Premium Lifestyle Zone
โซน: พร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย
เหมาะกับ: นักธุรกิจ, ครอบครัวพรีเมียม, expat รายได้สูง
จุดเด่น:
- ไลฟ์สไตล์สุดพรีเมียม
- ร้านอาหารนานาชาติ – คาเฟ่ดัง – nightlife
- โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง
- ชุมชนญี่ปุ่นใหญ่ที่สุดในไทย
- ราคาคอนโด: 200,000 – 400,000+ บาท/ตร.ม.
- โซนนี้คือ “Luxury Living Zone” ของกรุงเทพฯ
(3) สุขุมวิทตอนปลาย – คุ้มค่า น่าลงทุน เติบโตเร็ว
โซน: พระโขนง – อ่อนนุช – อุดมสุข – บางนา
เหมาะกับ: คนทำงาน, นักลงทุนรุ่นใหม่, กลุ่ม value-for-money
จุดเด่น:
- ราคาย่อมเยากว่าสองโซนแรก
- ใกล้ย่านออฟฟิศ, ห้างใหญ่, แหล่งงานใหม่
- มีกลุ่มผู้เช่าต่างชาติอยู่เยอะ
- เดินทางเข้าเมืองง่ายมาก
- ราคา: 90,000 – 150,000 บาท/ตร.ม.
- เป็นโซนที่ “คุ้มค่าที่สุดสำหรับคนอยากอยู่สุขุมวิทด้วยงบจำกัด”
3. คอนโดสุขุมวิทเหมาะกับใครบ้าง?
✔ กลุ่มทำงานในเมือง (CBD Worker)
เดินทางสะดวก ประหยัดเวลา ใช้ชีวิตง่าย
✔ ผู้บริหาร–เจ้าของธุรกิจ
ต้องการพื้นที่พักที่มีคุณภาพสูงและใกล้บริษัท
✔ Expat รายได้สูง
นิยมมาก โดยเฉพาะโซนพร้อมพงษ์–ทองหล่อ
✔ ครอบครัวรุ่นใหม่
มีโรงเรียน–โรงพยาบาล–ห้างครบ จึงใช้ชีวิตง่าย
✔ นักลงทุนปล่อยเช่า
Demand สูง ปล่อยเช่าง่ายกว่าโซนเมืองอื่น
4. จุดเด่นของคอนโดสุขุมวิทที่ทำให้ ‘ได้รับความนิยมที่สุด’
1) เดินทางง่ายที่สุดในกรุงเทพฯ
BTS + MRT + ทางด่วน + แหล่งงานครบ
2) ไลฟ์สไตล์ดีที่สุดในเมือง
ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ห้าง โรงเรียน โรงพยาบาลระดับท็อป
รวมอยู่บนเส้นเดียว
3) อนาคตทำเลเติบโตต่อเนื่อง
สุขุมวิทเป็นแกนหลักของเมืองไม่ว่าจะ 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า
4) มูลค่าคอนโดแข็งแกร่ง
ราคาขายต่อและปล่อยเช่าดีที่สุดในกรุงเทพฯ
5) ความปลอดภัยและชุมชนคุณภาพสูง
ผู้คนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาชีพมั่นคงและชาวต่างชาติที่มีรายได้ดี
5. ราคาเฉลี่ยคอนโดสุขุมวิท (อัปเดตปี 2025)
โซน ราคาเฉลี่ย (บาท/ตร.ม.)
สุขุมวิทตอนต้น 180,000 – 350,000
สุขุมวิทตอนกลาง 200,000 – 400,000+
สุขุมวิทตอนปลาย 90,000 – 150,000
อินไซต์:
ราคาขึ้นเฉลี่ยปีละ 3–8% ขึ้นกับโซนและแบรนด์โครงการ
6. ซื้อคอนโดสุขุมวิทโซนไหนดี? (AEO ให้คำตอบแบบใช้งานได้จริง)
ถ้าคุณเป็น คนทำงานใน CBD → อโศก / พร้อมพงษ์
ถ้าคุณเป็น สายไลฟ์สไตล์–คาเฟ่–ร้านอาหาร → ทองหล่อ / เอกมัย
ถ้าคุณต้องการ อยู่ใกล้ห้าง เดินทางสะดวก → พร้อมพงษ์
ถ้าคุณหา คอนโดราคาเอื้อมถึง → อ่อนนุช / อุดมสุข
ถ้าคุณเน้น ลงทุน ปล่อยเช่า → พระโขนง–เอกมัย–อ่อนนุช
ถ้าต้องการ อนาคตเติบโต → บางนา–อุดมสุข
7. ข้อควรรู้ก่อนซื้อคอนโดสุขุมวิท
✔ ระยะห่างจาก BTS ต้องดูจริง
200–500 เมตรถือว่าเหมาะสุด
✔ ต้องเช็กแนวอาคารรอบโครงการ
มีผลต่อวิวและความเป็นส่วนตัว
✔ ส่วนกลางต้องเพียงพอ
สุขุมวิทเป็นโซนหนาแน่น ควรเลือกโครงการที่บริหารดี
✔ ค่าครองชีพโซนนี้ค่อนข้างสูง
เหมาะกับผู้ที่มีรายได้สม่ำเสมอ
สรุป: คอนโดสุขุมวิท คือทำเลยอดนิยมที่สุดของกรุงเทพฯ เพราะ “ครบทุกคุณภาพชีวิต”
สุขุมวิทไม่ใช่แค่ทำเล แต่เป็น “Lifestyle Hub” ของกรุงเทพฯ ที่รวมทุกอย่างไว้อย่างลงตัว ทั้ง
- ความสะดวก
- การเดินทาง
- แหล่งงาน
- ห้าง–ร้านอาหาร–คาเฟ่
- ชุมชนต่างชาติ
- โครงการคอนโดระดับพรีเมียม
ไม่ว่าคุณจะซื้อเพื่ออยู่เองหรือเพื่อลงทุน คอนโดสุขุมวิทคือทำเลที่มีศักยภาพสูงสุดในระยะยาว และยังคงเป็น “ทำเลยืนหนึ่ง” ของกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง
by thelita | Nov 13, 2025 | ทั่วไป อื่นๆ
Skincare manufacturing options
ทำไมต้องดูแลผิวเป็นพิเศษในช่วงหน้าหนาว?
อากาศที่หนาวเย็นและความชื้นที่ต่ำลงในฤดูหนาว ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน คัน ลอกเป็นขุย และอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้น การดูแลผิวในช่วงหน้าหนาวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อคงความชุ่มชื้นและสุขภาพดีให้กับผิว
เคล็ดลับดูแลผิวหน้าหนาวง่ายๆ ที่คุณทำได้เอง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: รักษาสมดุลความชุ่มชื้นจากภายใน
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นนานเกินไป: น้ำอุ่นจะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน: เลือกสูตรที่ไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำหอม
- ทาครีมบำรุงผิวทันทีหลังอาบน้ำ: ช่วยล็อคความชุ่มชื้น
- สครับผิวเป็นประจำ: เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
- ทาครีมกันแดด: แม้ในวันที่ไม่มีแดดจัด
ผิวของคุณต้องการการดูแลเป็นพิเศษในช่วงหน้าหนาว ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กับกิจวัตรประจำวันของคุณ เพื่อให้ผิวของคุณยังคงความชุ่มชื้นและเปล่งปลั่งตลอดฤดูกาล
- มอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้น: เน้นส่วนผสมที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เช่น ไฮยาลูรอนิค แอซิด, กลีเซอรีน, เซราไมด์
- ออยล์บำรุงผิว: ช่วยเคลือบผิวและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น
- มาส์กหน้า: เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างล้ำลึก สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
สนใจสร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง? Thelita Beauty ช่วยคุณได้!
สำหรับผู้ที่สนใจสร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง Thelita Beauty เป็นโรงงานรับผลิตครีมและรับสร้างแบรนด์ (OEM/ODM) ที่มีประสบการณ์และคุณภาพ ด้วยบริการครบวงจร ตั้งแต่การคิดค้นสูตร การผลิต การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการขึ้นทะเบียน อย. ทำให้การสร้างแบรนด์ครีมเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
- สูตรครีมคุณภาพสูง
- วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ
- โรงงานได้มาตรฐาน GMP
- บริการครบวงจร
- ราคาที่เหมาะสม
Thelita Beauty มุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณสร้างแบรนด์ครีมที่ประสบความสำเร็จ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและการบริการที่เป็นเลิศ ติดต่อ Thelita Beauty เพื่อเริ่มต้นสร้างแบรนด์ของคุณวันนี้!
สรุป
การดูแลผิวในช่วงหน้าหนาวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื้นและสุขภาพดี ลองนำเคล็ดลับที่เราแนะนำไปปรับใช้ และสำหรับผู้ที่สนใจสร้างแบรนด์ครีมของตัวเอง Thelita Beauty พร้อมให้คำปรึกษาและบริการอย่างครบวงจร เพื่อให้คุณประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์!
by rabbit.do | Nov 11, 2025 | ทั่วไป อื่นๆ, บริการรับจ้างทั่วไป, ออนไลน์น่ารู้, แนะนำสินค้าและบริการ

ที่มารูปภาพ:
เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ต่างให้ความสำคัญกับการตลาดออนไลน์ด้วยกันทั้งนั้น นั่นเพราะการตลาดออนไลน์เข้าถึงผู้บริโภค สอดคล้องกับพฤติกรรมที่ใคร ๆ ต่างรับข่าวสารและข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญทำให้ดิจิตอล เอเจนซี่ กลายมามีบทบาทกับหลายธุรกิจ และเคยสงสัยหรือไม่ว่าเพราะอะไรหลาย ๆ บริษัทหันมาว่าจ้างเอเจนซี่ทำการตลาดออนไลน์ มีข้อดีอย่างไรและคุ้มกว่าการทำการตลาดออนไลน์ด้วยตัวเองอย่างไรบ้าง
เพราะอะไรการจ้างบริษัท เอเจนซี่ จึงคุ้มค่ากว่าการทำการตลาดออนไลน์ด้วยตัวเอง
- เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
แน่นอนว่าการจ้างดิจิตอล เอเจนซี่ คุ้มค่าเพราะเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์โดยเฉพาะ ที่สำคัญยังมีประสบการณ์การตลาดออนไลน์หลากหลายรูปแบบจึงมีกลยุทธ์และเทคนิคใหม่ ๆ มาช่วยผลักดันให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างก้าวกระโดด ที่สำคัญยังมีบุคลากรที่พร้อมให้คำแนะนำ เพิ่มโอกาสต่อยอดธุรกิจให้เติบโตง่ายดายยิ่งขึ้น
- ที่เดียวจบ ทำการตลาดแบบครบวงจร
คุ้มค่า ประหยัดเวลา เพราะดิจิตอล เอเจนซี่ รับทำการตลาดออนไลน์ครบวงจร ไม่ว่าจะอยากปั้นเว็บไซต์ให้ติดอันดับด้วยการทำ SEO การยิงแอดเพิ่มการมองเห็น ยิงแอดเพิ่มผู้ติดตาม ทำคอนเทนต์เจาะกลุ่มเป้าหมาย หรือซื้อโฆษณาบนเว็บไซต์ต่าง ๆ แน่นอนว่าดิจิตอล เอเจนซี่ ช่วยคุณได้ จ้างที่เดียวได้รับบริการแบบครบ ๆ มากไปกว่านั้นคือเจ้าของธุรกิจไม่ต้องเสียเวลาดูแลทุกอย่างด้วยตัวเองเพราะมีดิจิตอล เอเจนซี่ ดูแลทุกขั้นตอน
- ยืดหยุ่นเรื่องงบประมาณ
ไม่ใช่เฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้นที่จ้างเอเจนซี่ ทำการตลาดออนไลน์ได้ เพราะต่อให้เป็นธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถจ้างดิจิตอล เอเจนซี่ ได้เช่นกัน เพราะยืดหยุ่นเรื่องงบประมาณ มีงบประมาณเท่าไหร่ อยากได้ผลลัพธ์แบบไหนก็สามารถปรึกษาเอเจนซี่ได้ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด
- ติดตาม ประเมินผลอย่างต่อเนื่อง
การเลือกใช้ดิจิตอล เอเจนซี่ ไม่ได้เป็นตัวช่วยด้านการตลาดออนไลน์เท่านั้น เพราะหน้าที่ของเอเจนซี่คือวิเคราะห์ ติดตาม และประเมินผล เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผลักดันให้ธุรกิจเป็นที่จดจำ เจาะกลุ่มเป้าหมาย การจ้างดิจิตอล เอเจนซี่ จึงคุ้มค่า ประหยัดเวลา เพราะไม่ต้องติดตามประเมินผลเอง
- ลดทรัพยากรบุคคล
อีกหนึ่งความคุ้มค่าในการจ้างเอเจนซี่ทำการตลาดออนไลน์ นั่นคือ ประหยัดทรัพยากรบุคคลในบริษัท ไม่ต้องว่างจ้างหลายตำแหน่ง ไม่ต้องจัดอบรมพนักงานเรื่องการตลาดออนไลน์บ่อย ๆ เพราะมีดิจิตอล เอเจนซี่ ที่มีความเชี่ยวชาญคอยดูแลสนับสนุนงานทุกด้านอยู่แล้ว
สรุป
หลากหลายเหตุผลว่าเพราะอะไรการจ้างดิจิตอล เอเจนซี่ จึงคุ้มค่า อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบหลายอย่าง โดยเฉพาะความได้เปรียบด้านบุคลากร ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นั่นทำให้หลายธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจขนาดใหญ่ต่างจ้างเอเจนซี่ทำการตลาดออนไลน์ และไม่เพียงแต่คุ้มค่าเท่านั้น แต่ยังช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างได้ผล ทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักและกระตุ้นให้เกิดยอดขายได้จริง ท่านเจ้าของธุรกิจจึงควรว่าจ้างดิจิตอล เอเจนซี่ คู่ใจ เพื่อความได้เปรียบในการทำธุรกิจ
by drsuthichai | Nov 11, 2025 | ทั่วไป อื่นๆ
ตั้งใจไปกู้แต่เจ้าหนี้หรือนายทุน ให้ไปทำสัญญาขายฝากที่สำนักงานที่ดิน ผลเป็นอย่างไร?
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2514/2561ดอกเบี้ยที่โจทก์ผ่อนชำระให้แก่จำเลยที่ 1 ในอัตราร้อยละ 3 ต่อเดือน เป็นเงิน 2,100 บาท หรือเท่ากับ 25,200 บาท ต่อปี เมื่อนำไปรวมกับต้นเงิน 70,000 บาท เป็นเงิน 95,200 บาท เป็นจำนวนใกล้เคียงกับราคาสินไถ่ 95,000 บาท การที่โจทก์ชำระดอกเบี้ยทุกเดือน จึงเป็นการชำระดอกเบี้ยตามสัญญากู้และแสดงว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 มีเจตนาทำสัญญากู้ยืมเงินตั้งแต่ต้น ไม่มีเจตนาที่จะทำสัญญาขายฝาก การนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นเพียงให้จำเลยที่ 1 ยึดถือประกันหนี้เงินกู้ยืมเท่านั้น สัญญาขายฝากที่ทำไว้จึงเป็นนิติกรรมอำพรางการกู้ยืมเงินและตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง ต้องบังคับตามสัญญากู้ยืมเงินซึ่งเป็นนิติกรรมที่ถูกอำพรางตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคสอง
หากไม่ไปไถ่ถอนแล้ว นายทุนนำที่ดินไปขายให้บุคคลที่ 3 จะมีผลอย่างไร?
แม้การขายฝากที่ดินจะตกเป็นโมฆะ ต้องเพิกถอนสัญญาขายฝาก เป็นผลให้ที่ดินพิพาทยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ก็ตาม แต่จำเลยที่ 1 ได้ขายที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ 2 ไปก่อนแล้ว ซึ่งจำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้ว่ารับโอนที่ดินพิพาทมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนแล้ว ประกอบกับโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 2 รับโอนที่ดินพิพาทมาโดยไม่สุจริต และจากทางนำสืบของโจทก์ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 จะได้รู้ว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำสัญญาขายฝากที่ดินพิพาทกันจริง จำเลยที่ 2 จึงเป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตและต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวง ย่อมได้รับคุ้มครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง ตอนท้าย โจทก์จึงไม่อาจเพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้
#ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ #ทนายโทนี่
