by Y | Aug 21, 2024 | ข่าวสารเว็บไซต์, ข่าวโปรโมชั่น, ทั่วไป อื่นๆ, สุขภาพ, ออนไลน์น่ารู้, แนะนำสินค้าและบริการ
ครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญสำหรับการปกป้องผิวจากรังสี UV (Ultraviolet) ซึ่งสามารถทำให้เกิดความเสียหายแก่ผิวหนัง เช่น ผิวไหม้จากแดด, การเกิดจุดด่างดำ, ริ้วรอยก่อนวัย, และความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง นี่คือข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับครีมกันแดด 
ประเภทของครีมกันแดด
ครีมกันแดดแบบ Physical (Mineral) ใช้ส่วนผสมเช่น ซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) หรือ ไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) เพื่อสะท้อนรังสี UV ออกจากผิว มักเหมาะสำหรับผิวที่บอบบางและอ่อนโยน
ครีมกันแดดแบบ Chemical ใช้สารเคมีที่ดูดซับรังสี UV เช่น ออกซิเบนโซน (Oxybenzone), ออกซีลิก (Octocrylene), และเอทิลเฮกซิล เมธอกซีซินนาเมต (Ethylhexyl Methoxycinnamate) ซึ่งช่วยป้องกันการทำลายผิว
SPF (Sun Protection Factor)
SPF คืออะไร เป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงระดับการป้องกันจากรังสี UVB ค่าสูงหมายถึงการป้องกันที่มากขึ้น
การเลือก SPF สำหรับการใช้งานประจำวัน SPF 30-50 มักเพียงพอ แต่สำหรับการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานหรือในแสงแดดจัด ควรใช้ SPF สูงขึ้น
การใช้ครีมกันแดด
ปริมาณที่ใช้ ควรใช้ประมาณ 1-2 ช้อนชาสำหรับผิวหน้าและลำคอ และ 1-2 ออนซ์ (ประมาณ 30 มล.) สำหรับร่างกาย
การทา ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 15-30 นาที เพื่อให้มีเวลาในการดูดซึมและเริ่มทำงาน
การทาซ้ำ ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังจากการว่ายน้ำ, การออกกำลังกาย, หรือการเช็ดตัวด้วยผ้าเช็ดตัว
การเลือกครีมกันแดดตามประเภทผิว
ผิวมัน ควรเลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อเจลหรือโลชั่นที่ไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้า
ผิวแห้ง ควรเลือกครีมกันแดดที่มีความชุ่มชื้นหรือมีเนื้อครีมที่ให้ความชุ่มชื้น
ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกครีมกันแดดที่ปราศจากน้ำหอมและสารกันเสียที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง
ข้อควรระวัง
การแพ้ หากมีอาการแพ้หรือระคายเคืองหลังใช้ครีมกันแดด ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์
การเก็บรักษา ควรเก็บครีมกันแดดในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ร้อนหรือแสงแดดโดยตรง
การใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผิวที่สำคัญ ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากการเกิดความเสียหายและริ้วรอยก่อนวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทาครีมกันแดดมีข้อดีหลายประการที่สำคัญสำหรับการดูแลรักษาผิวและสุขภาพโดยรวม นี่คือข้อดีหลัก ๆ ของการทาครีมกันแดด
1. ปกป้องจากรังสี UV
ป้องกันรังสี UVB ครีมกันแดดช่วยป้องกันรังสี UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดผิวไหม้จากแดด (Sunburn)
ป้องกันรังสี UVA ครีมกันแดดยังช่วยป้องกันรังสี UVA ซึ่งสามารถทำให้เกิดความเสียหายแก่ผิวลึก ๆ และเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและจุดด่างดำ
2. ลดความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง
ลดความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง การใช้ครีมกันแดดช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนังประเภทต่าง ๆ เช่น มะเร็งผิวหนังชนิดฐานเซลล์ (Basal Cell Carcinoma) และมะเร็งผิวหนังชนิดสแกวมัสเซลล์ (Squamous Cell Carcinoma) โดยการป้องกันการถูกทำลายจากรังสี UV
3. ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
ลดการเกิดริ้วรอย รังสี UVA มีส่วนทำให้เกิดการแก่ก่อนวัย เช่น ริ้วรอยและความหยาบกร้าน การใช้ครีมกันแดดช่วยลดความเสี่ยงนี้และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ยาวนานขึ้น
4. ป้องกันการเกิดจุดด่างดำ
ลดจุดด่างดำ รังสี UV สามารถกระตุ้นการผลิตเม็ดสีในผิว ซึ่งอาจทำให้เกิดจุดด่างดำหรือกระ การทาครีมกันแดดช่วยลดโอกาสในการเกิดจุดด่างดำเหล่านี้
5. การรักษาผิว
การรักษาผิว สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวบางประเภท เช่น สิว หรือผิวแพ้ง่าย การทาครีมกันแดดช่วยป้องกันการระคายเคืองจากรังสี UV และช่วยให้การรักษาผิวเป็นไปได้ดีขึ้น
6. ป้องกันความเสียหายจากแดด
การป้องกันความเสียหาย การทาครีมกันแดดช่วยป้องกันความเสียหายจากรังสี UV ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อสัมผัสแสงแดด โดยเฉพาะหากต้องออกไปอยู่ในที่ที่มีแสงแดดจัด
7. คงความชุ่มชื้น
ความชุ่มชื้นของผิว บางสูตรของครีมกันแดดมีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวไม่แห้งกร้านจากการสัมผัสกับแดด
8. เพิ่มความมั่นใจ
ความมั่นใจในความสวยงาม การใช้ครีมกันแดดช่วยรักษาผิวให้ดูดีและสุขภาพดี ซึ่งสามารถเพิ่มความมั่นใจในรูปลักษณ์ภายนอก
เคล็ดลับการใช้ครีมกันแดดอย่างมีประสิทธิภาพ
ทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 15-30 นาที เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีเวลาในการทำงานอย่างเต็มที่
ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังจากว่ายน้ำ, การออกกำลังกาย, หรือการเช็ดตัวด้วยผ้าเช็ดตัว
ใช้ปริมาณที่เพียงพอ ใช้ประมาณ 1-2 ช้อนชา สำหรับใบหน้าและลำคอ และ 1-2 ออนซ์ (ประมาณ 30 มล.) สำหรับร่างกาย

การใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเป็นการดูแลที่สำคัญเพื่อปกป้องผิวจากความเสียหายที่อาจเกิดจากการสัมผัสแสงแดด และช่วยรักษาผิวให้อ่อนเยาว์และสุขภาพดีในระยะยาว
การทาครีมกันแดดที่ดีควรใช้ควบคู่กับการดูแลผิวอย่างครบถ้วน รวมถึงการดื่มน้ำและการใช้ครีมสกินแคร์ที่ดีเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หากต้องการโรงานที่รับผลิตสกินแคร์หรือรับผลิตเครื่องสำอาง ทางเรามีแนะนำ เป็นโรงงานที่มารตราฐานและมีคุณภาพสูง 
Cn corporation Co.,LTD. รับผลิตเครื่องสำอาง โดย โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ที่ทันสมัย ผลิตตามมาตรฐาน ของกระทรวงสาธารณสุข มีสูตรมาตรฐานให้เลือกหลากหลายสูตร อาทิ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้ากระจ่างใส ลดเลือนฝ้ากระ, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว,
ช่องทางการติดต่อ 
บริษัท ซีเอ็น คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด
เลขที่ 41 ลาดพร้าว101 ซอย 42 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. 10240
เบอร์โทรศัพท์ : 062-949-8888
แอดไลน์ : 0629498888
Facebookpage : Cn corporation Lab รับผลิตเครื่องสำอาง ครบวงจร
อีเมล : info@cncorporation.co.th
by SompitMekmok | Aug 20, 2024 | ทั่วไป อื่นๆ, แนะนำสินค้าและบริการ
“ผนังไม้” ไม่ได้มีแค่สีน้ำตาล! ปลดปล่อยสีสันสุดปัง เปลี่ยนผนังธรรมดาให้กลายเป็นผนังสุดว้าว
ใครว่าผนังไม้ต้องจำเจอยู่กับสีน้ำตาลเดิมๆ? ถึงเวลาฉีกกฎเดิมๆ แล้วมาเติมสีสันสุดจี๊ดให้ผนังไม้ธรรมดา กลายเป็นมุมสุดชิค โดดเด่นสะดุดตา
พาสเทลละมุน: เติมความหวานละไม สไตล์ละมุนนี
ลองจินตนาการถึงห้องนอนสีชมพูอ่อนหวาน ตกแต่งด้วยผนังไม้สีชมพูพาสเทล หรือห้องเด็กเล็กแสนอบอุ่น ด้วยผนังสีเขียวมิ้นท์ โทนสีพาสเทล จะช่วยเติมความสดใส ผ่อนคลาย ให้ผนังไม้ดูซอฟต์ลง ชวนให้น่าพักผ่อน
นีออนสะท้อนแสง: สไตล์จัดจ้าน บ่งบอกความเป็นคุณ
สำหรับสายแฟ ที่ชอบความโดดเด่น ต้องลองแต่งผนังไม้ด้วยสีนีออนสุดจี๊ด เช่น ผนังไม้เก่ากับลวดลายกราฟิกสีฟ้า เขียว รับรองว่าสะดุดตา เป็นมุมโชว์ความเป็นตัวเองได้เต็มที่
กราฟิกล้ำ สไตล์โมเดิร์น: ปลดปล่อยความเป็นศิลปินในตัวคุณ
เปลี่ยนผนังไม้ให้เป็นเหมือนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ ใช้สีสันสดใส สร้างสรรค์ลวดลายกราฟิก ลวดลายเรขาคณิต หรือจะเพ้นท์เป็นภาพกราฟฟิตี้ ก็เพิ่มความเก๋ สไตล์โมเดิร์น ไม่ซ้ำใคร
เคล็ดลับ: เพื่อผนังสวย ปิ๊ง ปัง
-
เตรียมพื้นผิวให้พร้อม: ขัดและทำความสะอาดผนังไม้ให้เรียบร้อย เพื่อให้สีติดทน เรียบเนียน
-
รองพื้น ขั้นตอนสำคัญ: เลือกรองพื้นสำหรับไม้โดยเฉพาะ ช่วยปิดรูพรุน ป้องกันสีซีดจาง
-
เลือกสีให้เหมาะ: แนะนำเป็นสีอะครีลิค ทนทาน ใช้งานง่าย และมีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก
มากกว่าแค่สีพื้น:
อย่าหยุดแค่สีพื้น! ลองเทคนิคสนุกๆ เช่น:
-
ไล่เฉดสี แบบ Ombre: ผสมผสานสี 2 เฉด ค่อยๆ ไล่สี สร้างมิติให้ผนัง ดูมีศิลปะ
-
แต่งแต้มลวดลายด้วยลายฉลุ: ใช้ลายฉลุ สร้างลวดลายเก๋ๆ ไม่ว่าจะเป็นลายดอกไม้ ลายเรขาคณิต
-
ทำสี Distress โชว์เนื้อไม้: ทาสี แล้วขัดออกบางส่วน เผยให้เห็นเนื้อไม้ สร้างลุควินเทจ เท่ ไม่เหมือนใคร
ถึงเวลา ปลดปล่อยจินตนาการ แล้วเปลี่ยนผนังไม้ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นมุมสุดว้าว บ่งบอกสไตล์ และความเป็นคุณอย่างแท้จริง!
by Y | Aug 20, 2024 | ข่าวสารเว็บไซต์, ข่าวโปรโมชั่น, ทั่วไป อื่นๆ, ที่พัก, แนะนำสินค้าและบริการ
อัตราดอกเบี้ยสำหรับการกู้ซื้อบ้านอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจล่าสุด ดังนั้นการตรวจสอบข้อมูลดอกเบี้ยล่าสุดจากธนาคารเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน 
ข้อมูลที่ให้ไว้เป็นการอัปเดตตามข้อมูลที่มี ณ ขณะล่าสุดในปี 2024 และควรตรวจสอบกับธนาคารโดยตรงหรือเว็บไซต์ของธนาคารเพื่อรับข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
1. ธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank)
อัตราดอกเบี้ย: ประมาณ 5.00% – 5.50% ต่อปี
รายละเอียด: ธนาคารกรุงเทพมักเสนออัตราดอกเบี้ยที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามระยะเวลาและโปรแกรมต่างๆ
2. ธนาคารกสิกรไทย (Kasikornbank)
อัตราดอกเบี้ย: ประมาณ 4.75% – 5.25% ต่อปี
รายละเอียด: ธนาคารกสิกรไทยมักมีโปรโมชั่นที่แตกต่างกันสำหรับลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิม
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ (Siam Commercial Bank)
อัตราดอกเบี้ย: ประมาณ 4.90% – 5.40% ต่อปี
รายละเอียด: ธนาคารไทยพาณิชย์มีโปรแกรมที่หลากหลาย รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่คงที่และแบบลอยตัว
4. ธนาคารออมสิน (Government Savings Bank)
อัตราดอกเบี้ย: ประมาณ 4.80% – 5.20% ต่อปี
รายละเอียด: ธนาคารออมสินมีการให้ดอกเบี้ยที่แข่งขันได้สำหรับผู้กู้บ้าน
5. ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Bank)
อัตราดอกเบี้ย: ประมาณ 4.85% – 5.30% ต่อปี
รายละเอียด: ธนาคารกรุงไทยมีโปรแกรมดอกเบี้ยที่แตกต่างกันตามประเภทของสินเชื่อ
6. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Krungsri Bank)
อัตราดอกเบี้ย: ประมาณ 4.95% – 5.35% ต่อปี
รายละเอียด: ธนาคารกรุงศรีอยุธยามักจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่สามารถปรับได้ตามเงื่อนไขของโปรแกรมสินเชื่อ
7. ธนาคารยูโอบี (UOB Bank)
อัตราดอกเบี้ย: ประมาณ 5.00% – 5.40% ต่อปี
รายละเอียด: ธนาคารยูโอบีเสนอสินเชื่อที่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยตามระยะเวลาของสัญญา
8. ธนาคารซิตี้แบงก์ (Citi Bank)
อัตราดอกเบี้ย: ประมาณ 5.10% – 5.50% ต่อปี
รายละเอียด: ธนาคารซิตี้แบงก์มักจะมีโปรแกรมสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว
คำแนะนำเพิ่มเติม
โปรโมชั่น: หลายธนาคารมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นต่ำ หรือข้อเสนอที่ดีสำหรับการกู้เงินครั้งแรก
เปรียบเทียบ: เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายธนาคารและพิจารณาเงื่อนไขอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมและค่าบริการ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือที่ปรึกษาสินเชื่ออาจช่วยให้คุณเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุดข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น การตรวจสอบข้อมูลที่อัปเดตและติดต่อธนาคารโดยตรงจะให้ข้อมูลที่แม่นยำที่สุดในการตัดสินใจเกี่ยวกับการกู้ซื้อบ้าน
การกู้ซื้อบ้านคือการลงทุนที่สำคัญและต้องการการวางแผนที่รอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงอัตราดอกเบี้ยซึ่งมีผลต่อค่าใช้จ่ายในการกู้เงินทั้งหมด อัตราดอกเบี้ยที่คุณได้รับสามารถมีผลอย่างมากต่อการผ่อนชำระและต้นทุนรวมของบ้านที่คุณซื้อ
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านล่าสุด (ปี 2024)
โปรดทราบว่าข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและนโยบายของธนาคาร ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องก่อนการตัดสินใจ
1. ธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank)
อัตราดอกเบี้ย: 5.00% – 5.50% ต่อปี
ประเภท: ดอกเบี้ยแบบคงที่หรือแบบลอยตัว
2. ธนาคารกสิกรไทย (Kasikornbank)
อัตราดอกเบี้ย: 4.75% – 5.25% ต่อปี
ประเภท: ดอกเบี้ยเริ่มต้นต่ำในช่วงโปรโมชั่น
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ (Siam Commercial Bank)
อัตราดอกเบี้ย: 4.90% – 5.40% ต่อปี
ประเภท: ดอกเบี้ยคงที่ 1-3 ปี จากนั้นเป็นดอกเบี้ยลอยตัว
4. ธนาคารออมสิน (Government Savings Bank)
อัตราดอกเบี้ย: 4.80% – 5.20% ต่อปี
ประเภท: ดอกเบี้ยคงที่และดอกเบี้ยลอยตัว
5. ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Bank)
อัตราดอกเบี้ย: 4.85% – 5.30% ต่อปี
ประเภท: ดอกเบี้ยคงที่หรือแบบลอยตัว
6. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (Krungsri Bank)
อัตราดอกเบี้ย: 4.95% – 5.35% ต่อปี
ประเภท: ดอกเบี้ยคงที่ 1-2 ปี หลังจากนั้นเป็นแบบลอยตัว
7. ธนาคารยูโอบี (UOB Bank)
อัตราดอกเบี้ย: 5.00% – 5.40% ต่อปี
ประเภท: ดอกเบี้ยลอยตัว
8. ธนาคารซิตี้แบงก์ (Citi Bank)
อัตราดอกเบี้ย: 5.10% – 5.50% ต่อปี
ประเภท: ดอกเบี้ยลอยตัว
ประเภทดอกเบี้ยที่ควรทราบ
ดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate): อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 1-3 ปี) หลังจากนั้นอาจเปลี่ยนเป็นแบบลอยตัว
ดอกเบี้ยลอยตัว (Variable Rate): อัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงตามตลาดหรืออัตราดอกเบี้ยอ้างอิง เช่น MRR (Minimum Retail Rate) หรือ MLR (Minimum Loan Rate)
ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Reducing Balance Rate): ดอกเบี้ยคำนวณจากยอดเงินที่คงเหลือในแต่ละงวด
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม
เงื่อนไขและค่าธรรมเนียม: ตรวจสอบค่าธรรมเนียมการกู้เงิน, ค่าธรรมเนียมการโอน, และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น
โปรโมชั่น: บางธนาคารมีโปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับลูกค้าใหม่ หรือโปรแกรมที่มีข้อเสนอพิเศษ
ระยะเวลาการกู้: ระยะเวลาในการกู้เงินมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยและยอดผ่อนชำระรายเดือน
การทำการบ้านก่อนกู้
เปรียบเทียบ: เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายธนาคารและเลือกสิ่งที่เหมาะกับความต้องการของคุณ
ประเมินความสามารถในการผ่อน: ตรวจสอบความสามารถในการชำระเงินของคุณโดยคำนึงถึงรายได้และค่าใช้จ่าย
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาการเงินหรือตัวแทนอสังหาริมทรัพย์เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
การเลือกอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมและการวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณสามารถซื้อบ้านได้อย่างมั่นใจและมีความเสี่ยงน้อยที่สุด
การเตรียมตัวก่อนซื้อบ้านอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการซื้อและการอยู่อาศัยในบ้านใหม่ของคุณ ดังนั้นเราควรมีโครงการบ้านที่ครบครันเช่น ..
โครงการบ้าน นนทบุรี ทาวน์โฮม นนทบุรี
ตอบโจทย์ชีวิตของคุณ ด้วยโครงการบ้าน ทาวน์โฮม นนทบุรี VISION GROUP เล็งเห็นประสิทธิภาพของทำเลทองนนทบุรี เมื่อเมืองได้ขยายไปยังนนทบุรี เป็นย่านที่มี Facility ที่ครบวงจร ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน รถไฟฟ้าสีม่วง และสถานที่อื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต เรามีหลายโครงการให้เลือก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
ติดต่อเรา
บริษัท วิชั่นสมาร์ทซิตี้ จำกัด
78/260 ม. 5 ถ. บางกรวย – กรุงเทพ
ตำบล บางบัวทอง อำเภอ บางบัวทอง นนทบุรี 11110
โทร : 02-149-1234
by Y | Aug 20, 2024 | ข่าวโปรโมชั่น, ทั่วไป อื่นๆ, ออนไลน์น่ารู้, แนะนำสินค้าและบริการ
Caring for jewelry properly helps maintain its appearance and longevity. Here are some essential tips for keeping your jewelry in top condition 
Regular Cleaning 
For Gold and Silver Jewelry Use a mild soap solution and a soft cloth or a non-abrasive brush. Gently scrub and rinse with warm water, then dry thoroughly.
For Gemstones Check the care instructions specific to each gemstone. Generally, warm soapy water and a soft brush work well. Avoid harsh chemicals.
For Pearls Wipe with a soft, damp cloth after wearing and keep them away from chemicals. Pearls should be cleaned with a solution of mild soap and water if needed.
Proper Storage
Separate Compartments Store jewelry pieces separately to avoid scratching. Use soft pouches or lined jewelry boxes.
Avoid Humidity Store jewelry in a dry place. Humidity can cause tarnishing, especially in silver jewelry.
Avoid Sunlight Prolonged exposure to sunlight can affect certain gemstones and materials.
Avoid Chemicals
Personal Care Products Remove jewelry before applying lotions, perfumes, or hairspray, as these can cause damage or tarnishing.
Cleaning Products Avoid exposing jewelry to cleaning agents, bleach, and other harsh chemicals.
Wear and Handling
Remove During Activities Take off jewelry when exercising, swimming, or engaging in strenuous activities to avoid damage.
Check for Loose Stones Regularly inspect settings to ensure stones are secure and not loose. 5.Professional Maintenance
Regular Check-Ups Have your jewelry inspected and professionally cleaned periodically, especially for valuable or heirloom pieces.
Resizing and Repair If your jewelry needs resizing or repair, consult a professional jeweler.
Specific Care for Materials
Gold and Platinum: Less prone to tarnishing but still need regular cleaning and polishing.
Silver Can tarnish over time. Use a silver polish or anti-tarnish cloth to restore shine.
Gemstones Different gemstones have specific care needs. For example, avoid exposing opals and turquoise to water.
By following these care tips, you can ensure that your jewelry remains beautiful and in excellent condition for years to come.
Cleaning jewelry is important to maintain its appearance and to ensure it remains in good condition. Here are some effective methods for cleaning different types of jewelry:
General Tips for Cleaning Jewelry
Check the Manufacturer’s Instructions Always refer to any care instructions provided by the jeweler, especially for delicate or high-value pieces.
Avoid Harsh Chemicals Steer clear of bleach or strong chemicals, as these can damage the metal or stones.
Use Soft Cloths When cleaning, use a soft, lint-free cloth to avoid scratching.
Test Solutions Test cleaning solutions on a small, inconspicuous area before applying them to the entire piece. Cleaning Different Types of Jewelry
Gold Jewelry
Method Mix a few drops of mild dish soap with warm water. Soak the jewelry for about 15 minutes. Gently scrub with a soft brush (like a toothbrush) to remove dirt from crevices. Rinse with warm water and dry with a soft cloth.
Tip For extra shine, you can use a gold polishing cloth.
Silver Jewelry
Method Silver can tarnish over time. Use a silver polishing cloth to remove tarnish. For deeper cleaning, mix a small amount of baking soda with water to form a paste. Apply the paste with a soft cloth, gently rub, then rinse and dry thoroughly.
Tip Store silver in a cool, dry place and consider using anti-tarnish pouches.
Platinum Jewelry
Method Platinum is durable but can accumulate dirt. Use a mixture of mild dish soap and warm water. Soak, gently scrub with a soft brush, rinse with warm water, and dry with a soft cloth.
Tip Regular polishing with a platinum polishing cloth can help maintain its luster.
Diamond Jewelry
Method Diamonds can be cleaned with a solution of mild dish soap and warm water. Soak the jewelry, then gently scrub with a soft brush. Rinse thoroughly and dry with a lint-free cloth.
Tip For the best results, have diamonds professionally cleaned to remove any built-up residue.
Pearls
Method Pearls are delicate and should not be soaked. Clean them by wiping gently with a damp, soft cloth. Avoid soaps or cleaners. After cleaning, allow the pearls to dry completely before storing.
Tip Store pearls in a soft pouch and avoid exposing them to perfumes or chemicals.
Gemstones
Method The cleaning method depends on the type of gemstone. Generally, use a mild soap and water solution, then rinse and dry. For specific gemstones, such as emeralds or opals, consult a professional jeweler as they may require special care.
Tip Avoid ultrasonic cleaners for gemstones with inclusions or treatments. Ultrasonic Cleaners
Use Ultrasonic cleaners can be used for many types of jewelry, but not for delicate or porous stones.
Method Follow the manufacturer’s instructions for adding cleaning solution and setting the time. Ensure your jewelry is safe for ultrasonic cleaning. Professional Cleaning
For high-value or delicate pieces, it’s often best to have them professionally cleaned. Jewelers can provide a thorough cleaning and check for any issues that need addressing.
By following these guidelines, you can keep your jewelry looking beautiful and ensure it stays in excellent condition. 

by SompitMekmok | Aug 19, 2024 | ทั่วไป อื่นๆ, แนะนำสินค้าและบริการ
เผยเทคนิคเลือกพื้นไม้จริง: คู่มือสำหรับนักออกแบบตกแต่งภายใน เพื่อความงดงามที่ลงตัวกับทุกสไตล์บ้าน
ในฐานะนักออกแบบตกแต่งภายใน ฉันเชื่อว่าพื้นเปรียบเสมือนรากฐานของการออกแบบห้อง เป็นตัวกำหนดสุนทรียภาพและบรรยากาศโดยรวม ท่ามกลางตัวเลือกมากมาย พื้นไม้จริงครองตำแหน่งสูงสุด มอบความสง่างามเหนือกาลเวลาและความหลากหลายที่สามารถเปลี่ยนโฉมพื้นที่ใดก็ได้
อย่างไรก็ตาม ด้วยชนิดของไม้ ขนาดแผ่นไม้ และการตกแต่งที่มีให้เลือกมากมาย การเลือกพื้นที่เหมาะสมอาจดูเหมือนเป็นเรื่องน่ากังวล ไม่ต้องกังวลไป! มาเจาะลึกศิลปะการเลือกพื้นไม้จริงที่กลมกลืนกับสไตล์สถาปัตยกรรมและรสนิยมส่วนตัวของบ้านคุณกัน:
1. กำหนดสไตล์ของคุณ:
-
ร่วมสมัยทันสมัย: สำหรับการตกแต่งภายในที่เรียบหรู ทันสมัย ลองพิจารณาแผ่นไม้ขนาดกว้างในโทนสีอ่อน เช่น ไม้โอ๊คสีขาวหรือไม้เมเปิล ตัวเลือกเหล่านี้สร้างบรรยากาศที่โปร่งสบาย เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์มินิมอลและเส้นสายที่เรียบง่าย
-
หรูหราแบบดั้งเดิม: โอบรับความสง่างามแบบคลาสสิกด้วยไม้สีเข้ม อบอุ่น เช่น เชอร์รี่หรือมะฮอกกานี เลือกแผ่นไม้ที่มีความกว้างแคบถึงปานกลาง และพิจารณาลวดลายที่สลับซับซ้อน เช่น ลายก chevron หรือ herringbone เพื่อเพิ่มความหรูหราเหนือกาลเวลา
-
เสน่ห์แบบเรียบง่าย: เติมเต็มพื้นที่ของคุณด้วยความอบอุ่นเป็นกันเองโดยใช้พื้นไม้รีเคลม ตาไม้ ลวดลาย และตำหนิที่เป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกเล่าเรื่องราว เพิ่ม มิติ และประวัติศาสตร์ให้กับการตกแต่งภายในสไตล์ฟาร์มเฮาส์หรืออินดัสเทรียล
2. เล่นกับขนาดและรูปแบบการจัดวางแผ่นไม้:
-
แผ่นไม้กว้าง: สร้างภาพลุกตาให้กว้างขวาง โปร่งสบายมากขึ้น เหมาะสำหรับสุนทรียภาพแบบร่วมสมัยหรือแบบมินิมอล
-
แผ่นไม้แคบ: ให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีเสน่ห์แบบดั้งเดิม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับห้องขนาดเล็ก
-
ลวดลาย Herringbone หรือ Chevron: สร้างความน่าสนใจและความซับซ้อนทางสายตา เหมาะสำหรับทางเข้าหรือพื้นที่รับประทานอาหาร
3. พลังของสีและการตกแต่งผิว:
-
ไม้สีอ่อน: สะท้อนแสง ทำให้พื้นที่ดูใหญ่ขึ้นและสว่างขึ้น เหมาะสำหรับการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ร่วมสมัยหรือสแกนดิเนเวีย
-
ไม้สีเข้ม: เพิ่มความโดดเด่น และความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง ดูสวยงามเป็นพิเศษในห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอและกว้างขวาง
-
การตกแต่งผิว: พื้นผิวแบบด้านให้ความรู้สึกเรียบหรู ทันสมัย ขณะที่พื้นผิวแบบมันเงาให้ความรู้สึกที่เป็นทางการและดูหรูหรากว่า
4. คำนึงถึงไลฟ์สไตล์และความทนทาน:
-
บริเวณที่มีการสัญจรสูง: เลือกไม้เนื้อแข็งที่ทนทาน เช่น ไม้โอ๊ค ฮิกโครี หรือเมเปิล ที่มีผิวทนต่อรอยขีดข่วน
-
บริเวณที่ชื้น: พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับห้องครัวหรือห้องน้ำ ให้เสถียรภาพที่เพิ่มขึ้นต่อความชื้น
5. ความสำคัญของความกลมกลืน:
สรุป:
การเลือกพื้นไม้จริงเป็นการลงทุนในความสง่างามเหนือกาลเวลาและความงามที่ยั่งยืน ด้วยการทำความเข้าใจสไตล์ของคุณ สำรวจตัวเลือกการออกแบบ และพิจารณาปัจจัยในทางปฏิบัติ คุณสามารถเลือกพื้นที่สมบูรณ์แบบที่ช่วยยกระดับพื้นที่ของคุณตั้งแต่พื้นขึ้นไป อย่ากลัวที่จะทดลองและเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของคุณ เพราะท้ายที่สุดแล้ว บ้านของคุณควรสะท้อนบุคลิกและวิสัยทัศน์ด้านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ
by Y | Aug 19, 2024 | ข่าวสารเว็บไซต์, ข่าวโปรโมชั่น, ที่พัก, ออนไลน์น่ารู้, แนะนำสินค้าและบริการ
การซื้อบ้านเป็นการลงทุนที่สำคัญและต้องการการวางแผนอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อคุณมีงบประมาณที่จำกัด เช่น
ไม่เกิน 4 ล้านบาท นี่คือขั้นตอนและคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนซื้อบ้าน 

1.กำหนดงบประมาณที่ชัดเจน
งบประมาณทั้งหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น เงินดาวน์, ค่าธรรมเนียมการโอน, ค่าจดจำนอง, ค่าบริการอื่นๆ เช่น ค่าบริการทนายความการจัดการการเงิน ตรวจสอบฐานะการเงินของคุณ รวมถึงการประเมินเงินสดและรายได้ประจำเดือนตรวจสอบเครดิตและความสามารถในการกู้เงิน
2. เครดิตสกอร์
ตรวจสอบเครดิตสกอร์ของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่ามีประวัติทางการเงินที่ดี
การกู้เงิน ตรวจสอบวงเงินกู้ที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินสามารถให้ได้ และอัตราดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้อง
3.วางแผนการซื้อ
สถานที่ เลือกทำเลที่คุณต้องการอยู่ เช่น ใกล้ที่ทำงาน โรงเรียน หรือสิ่งอำนวยความสะดวก
ประเภทบ้าน ตัดสินใจว่าจะซื้อบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, หรือคอนโดมิเนียม ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ
4.ค้นหาบ้านที่ตรงตามความต้องการ
การสำรวจ ใช้แหล่งข้อมูลออนไลน์, ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์, หรือการเดินสำรวจพื้นที่เพื่อค้นหาบ้านที่ตรงกับงบประมาณและความต้องการ
การเปรียบเทียบ เปรียบเทียบบ้านหลายๆ หลังในแง่ของราคา, ขนาด, ทำเล, และสภาพแวดล้อม
5.ตรวจสอบสภาพบ้านและโครงการ
สภาพบ้าน ตรวจสอบสภาพบ้านอย่างละเอียด รวมถึงโครงสร้าง, ระบบไฟฟ้า, ระบบประปา, และการบำรุงรักษา
โครงการ ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ เช่น การจัดการสิ่งแวดล้อม, บริการหลังการขาย, และข้อบังคับต่างๆ
6.เจรจาต่อรองราคา
การต่อรอง พยายามเจรจาต่อรองราคากับผู้ขาย หรือขอส่วนลดเพื่อให้เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
ข้อเสนอพิเศษ สอบถามเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษหรือสิ่งของที่สามารถแถมได้
7.ตรวจสอบเอกสารและทำสัญญา
เอกสาร ตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย เช่น สัญญาซื้อขาย, ใบอนุญาตก่อสร้าง, และเอกสารการจดทะเบียน
การทำสัญญา อ่านและเข้าใจเงื่อนไขในสัญญาอย่างละเอียด หากจำเป็นให้ปรึกษาทนายความเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม
8.เตรียมการโอนกรรมสิทธิ์
ค่าธรรมเนียม เตรียมเงินสำหรับค่าธรรมเนียมการโอน, ค่าจดจำนอง, และค่าธรรมเนียมอื่นๆ
การโอน ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน หรือผ่านตัวแทนที่เชี่ยวชาญ
9.ตรวจสอบการจัดเตรียมบ้าน
การตกแต่ง หากต้องการการตกแต่งหรือการปรับปรุงบ้านใหม่ ควรวางแผนและเตรียมงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายนี้
การย้ายเข้า วางแผนการย้ายเข้าพร้อมกับการจัดหาผู้รับเหมาและการซื้อเฟอร์นิเจอร์
10.การบำรุงรักษาหลังการซื้อ
การดูแลรักษา ทำการบำรุงรักษาบ้านอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและรักษามูลค่าของบ้าน
การเตรียมตัวก่อนซื้อบ้านอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการซื้อและการอยู่อาศัยในบ้านใหม่ของคุณ ดังนั้นเราควรมีโครงการบ้านที่ครบครันเช่น ..
โครงการ Vision Grop บ้านนนทบุรี 
โครงการบ้าน นนทบุรี ทาวน์โฮม นนทบุรี
ตอบโจทย์ชีวิตของคุณ ด้วยโครงการบ้าน ทาวน์โฮม นนทบุรี VISION GROUP เล็งเห็นประสิทธิภาพของทำเลทองนนทบุรี เมื่อเมืองได้ขยายไปยังนนทบุรี เป็นย่านที่มี Facility ที่ครบวงจร ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน รถไฟฟ้าสีม่วง และสถานที่อื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต เรามีหลายโครงการให้เลือก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
ติดต่อเรา
บริษัท วิชั่นสมาร์ทซิตี้ จำกัด
78/260 ม. 5 ถ. บางกรวย – กรุงเทพ
ตำบล บางบัวทอง อำเภอ บางบัวทอง นนทบุรี 11110
โทร : 02-149-1234