การเติมสะโพกเป็นกระบวนการศัลยกรรมอย่างหนึ่งโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่เป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผลต่อรูปทรงบั้นท้ายของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนของน้ำหนัก อายุ และพันธุกรรม ล้วนส่งผลต่อขนาดและรูปร่างของบั้นท้ายของคุณ ดังนั้นการควบคุมรูปร่างจึงมักเป็นสิ่งที่ทำได้ค่อนข้างยาก อย่างไรก็ตาม หากคุณสนใจที่จะมีก้นที่กลมและอวบอิ่มขึ้น เติมสะโพกให้รูปร่างมีสัดส่วนสวยงาม สามารถทำได้หลายวิธี แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการใช้ไขมันของตัวเองกัน

การฉีดไขมันเสริมสะโพก

วิธีการนี้ ศัลยแพทย์จะนำไขมันออกจากบริเวณที่ไม่ต้องการ เช่น หน้าท้องหรือต้นขา และนำไปใส่ในบั้นท้ายและสะโพก โดยหลักการแล้ว วิธีการเสริมสะโพกนี้เป็นการผสมผสานเทคนิค ระหว่างการดูดไขมันและการเสริมก้น แม้ว่าปริมาณที่ใช้เสริมจะไม่สูงเท่ากับการเสริมหน้าอก แต่ก็ช่วยอธิบายได้ว่าทำไมจึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนเสริมความงามที่เติบโตเร็วมากในปัจจุบัน เพราะไม่ใช่แค่การเพิ่มขนาดของบั้นท้ายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ได้บั้นท้ายที่เข้ารูปขึ้น และปรับสัดส่วนใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเอว หน้าท้อง หรือต้นขา

ขั้นตอนการเติมสะโพกด้วยไขมัน

คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับการฉีดไขมันมาบ้าง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างขั้นตอนนี้ สำหรับขั้นตอนเริ่มต้น โดยปกติจะต้องดมยาสลบก่อน จากนั้นใช้เทคนิคการดูดไขมัน ซึ่งเป็นการนำไขมันออกจากร่างกายส่วนล่าง ไขมันนี้จะถูกทำให้บริสุทธิ์และฉีดเข้าไปในบริเวณเป้าหมาย ที่บั้นท้ายของผู้ป่วยเพื่อเติมสะโพก ก่อนการทำหัตถการ คุณสามารถพูดคุยปรึกษากับศัลยแพทย์เกี่ยวกับรูปลักษณ์และขนาดที่คุณต้องการได้ 

การดูแลตัวเองหลังเติมสะโพก

กระบวนการเสริมก้นนี้จะส่งผลให้คุณรู้สึกเจ็บระบมบ้าง แต่ยาแก้ปวดตามร้านขายยาทั่วไปสามารถช่วยบรรเทาได้ หรือในบางกรณี แพทย์อาจสั่งจ่ายยาแก้ปวดที่จำเป็นเพิ่มเติมให้ ผู้ป่วยจะไม่สามารถนั่งหรือออกแรงกดที่บริเวณนั้นเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ หากดูตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำในการฟื้นฟูร่างกายได้ดี คุณจะสามารถกลับมานั่งปกติได้ในเวลาไม่นาน นอกจากนี้ เบาะรองนั่งหรือหมอนทรงโดนัท จะช่วยลดแรงกดทับจากบั้นท้ายของคุณหลังการเติมสะโพกได้ ช่วยทำให้คุณนั่งสบายขึ้น 

สรุป

ปัจจุบันการเติมสะโพกเป็นกระบวนการเสริมความงามที่เป็นที่ต้องการมาก มีหลายวิธีการในการทำให้สะโพกของคุณดูกลมโตและได้สัดส่วน แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 1 ใน 2 ในการทำเช่นนี้คือการย้ายไขมัน หากคุณสนใจจะทำอาจต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาแพทย์สำหรับการเสริมความงามด้วยวิธีการนี้