ขณะเกิดเหตุจำเลยไม่ได้อยู่กินฉันสามีภริยากับมารดาผู้เสียหายแล้ว แต่จำเลยเคยอุปการะผู้เสียหายเสมือนบิดา เมื่อมารดาพาผู้เสียหายไปฝากพักอาศัยอยู่ และจำเลยได้มีพฤติการณ์ล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหาย จึงมีลักษณะเป็นการกระทำที่จำเลยมีอำนาจบังคับเหนือผู้เสียหาย จำเลยจึงต้องรับโทษหนักขึ้นคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5524/2567(เล่ม 9 หน้า 2038) หลักกฎหมาย ป.อ. มาตรา 285แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยไม่ได้อยู่กินฉันสามีภริยากับ ก. แล้ว และอำนาจปกครองของผู้เสียหายตามกฎหมายเป็นของ ก. ก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่า ขณะเกิดเหตุ ก. พาผู้เสียหายไปฝากให้พักอาศัยอยู่กับจำเลยซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายเคยพักอาศัยอยู่กับจําเลยหลายปีโดยจำเลยอุปการะเลี้ยงผู้เสียหายเสมือนเป็นบิดา เช่นนี้ พฤติการณ์ล่วงละเมิดทางเพศที่จำเลยกระทำต่อผู้เสียหายจึงมีลักษณะเป็นการกระทำที่จำเลยมีอำนาจบังคับเหนือผู้เสียหาย ซึ่งก่อนเกิดเหตุเคยอยู่ในความอุปการะของจำเลย และขณะเกิดเหตุ ก. ได้ฝากให้ผู้เสียหายอยู่ในความดูแลของจำเลย ทำให้ผู้เสียหายต้องมีความเคารพยำเกรงและเชื่อฟังจำเลย ผู้เสียหายจึงเป็นผู้อยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใดของจำเลยตามความหมายของ ป.อ. มาตรา 285 แล้ว ดังนี้ เมื่อจำเลยพยายามกระทำชำเราผู้เสียหายในระหว่างที่ผู้เสียหายอยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใดของจำเลยแล้ว จำเลยจึงต้องรับโทษหนักขึ้น