คดี รับของโจร มีประเด็นข้อต่อสู้ ดังนี้ 1. เจ้าของทรัพย์สินที่นำไปขายนั้น เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่แท้จริงหรือไม่แต่หากว่าทรัพย์สินนั้นผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด กฎหมายไม่รับรองคุ้มครอง 2. ต้องวิเคราะห์ว่าการกระทำของผู้ที่ได้นำเอาทรัพย์สินมาขายให้นั้น มีความผิด 8 ฐานตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เช่น ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง กระโชก รีดเอาทรัพย์ (ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๗)3.ราคาของทรัพย์สินที่ซื้อเทียบกับราคาท้องตลาด หากแตกต่างกันมาก เช่น ซื้อต่ำกว่าราคาปกติมาก อาจมีข้อพิรุธว่าจำเลยรู้ว่าทรัพย์มาจากการกระทำความผิด(ราคาตลาด 130,000บาทรับซื้อแค่ 3,500 บาท) 4.ผู้ขายมีข้อพิรุธหรือไม่ เช่น อายุ อาชีพ รายได้ รูปลักษณ์ลักษณะ บุคลิกภาพ ไม่ได้ขายของเป็นอาชีพ ฯลฯ (ตัวอย่าง เด็กเอาทองไปขายให้ห้างทอง) 5.ลักษณะทรัพย์สิน  มีข้อพิรุธ มีทะเบียนของทรัพย์สิน หรือไม่เช่น มีร่องรอยการ ขูด เขียน ลบ ต่อเติม เสริมแต่ง หรือหากว่าเป็นทรัพย์สินที่มีทะเบียน แต่จำเลยไม่ได้ตรวจสอบ อาจแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ไม่ดี (หากเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีทะเบียนอาจจะยากต่อการตรวสอบ เช่น พระเครื่อง ) 6.มีการออกหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ ในการรับซื้อทรัพย์สิน หรือไม่เช่น เอกสาร สัญญา บัญชี ใบเสร็จรับเงิน ทะเบียน อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีการรับซื้อด้วยความสุจริต แต่หากไม่มีการออกหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ อาจส่อให้เห็นถึงความมีพิรุธหรือเจตนารมณ์ที่ไม่ดีได้7.การกระทำของจำเลยที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ  เช่น การไม่หลบหนี การให้การที่เป็นประโยชน์ ตรงไปตรงมา ไม่ปกปิด ส่อให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจ แต่หากมีการกระทำในลักษณะไม่ให้ความร่วมมือ เช่น ปกปิด หลบเลี่ยง ไม่พูดความจริง อาจแสดงให้เห็นข้อพิรุธทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทนายโทนี่
						 by drsuthichai | Mar 6, 2025 | การศึกษา, ทั่วไป อื่นๆ
												 
				
					
					คดี รับของโจร มีประเด็นข้อต่อสู้ ดังนี้ 1. เจ้าของทรัพย์สินที่นำไปขายนั้น เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่แท้จริงหรือไม่แต่หากว่าทรัพย์สินนั้นผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด กฎหมายไม่รับรองคุ้มครอง 2. ต้องวิเคราะห์ว่าการกระทำของผู้ที่ได้นำเอาทรัพย์สินมาขายให้นั้น มีความผิด 8 ฐานตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เช่น ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง กระโชก รีดเอาทรัพย์ (ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๗)3.ราคาของทรัพย์สินที่ซื้อเทียบกับราคาท้องตลาด หากแตกต่างกันมาก เช่น ซื้อต่ำกว่าราคาปกติมาก อาจมีข้อพิรุธว่าจำเลยรู้ว่าทรัพย์มาจากการกระทำความผิด(ราคาตลาด 130,000บาทรับซื้อแค่ 3,500 บาท) 4.ผู้ขายมีข้อพิรุธหรือไม่ เช่น อายุ อาชีพ รายได้ รูปลักษณ์ลักษณะ บุคลิกภาพ ไม่ได้ขายของเป็นอาชีพ ฯลฯ (ตัวอย่าง เด็กเอาทองไปขายให้ห้างทอง) 5.ลักษณะทรัพย์สิน มีข้อพิรุธ มีทะเบียนของทรัพย์สิน หรือไม่เช่น มีร่องรอยการ ขูด เขียน ลบ ต่อเติม เสริมแต่ง หรือหากว่าเป็นทรัพย์สินที่มีทะเบียน แต่จำเลยไม่ได้ตรวจสอบ อาจแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ไม่ดี (หากเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีทะเบียนอาจจะยากต่อการตรวสอบ เช่น พระเครื่อง ) 6.มีการออกหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ ในการรับซื้อทรัพย์สิน หรือไม่เช่น เอกสาร สัญญา บัญชี ใบเสร็จรับเงิน ทะเบียน อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีการรับซื้อด้วยความสุจริต แต่หากไม่มีการออกหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ อาจส่อให้เห็นถึงความมีพิรุธหรือเจตนารมณ์ที่ไม่ดีได้7.การกระทำของจำเลยที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ เช่น การไม่หลบหนี การให้การที่เป็นประโยชน์ ตรงไปตรงมา ไม่ปกปิด ส่อให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจ แต่หากมีการกระทำในลักษณะไม่ให้ความร่วมมือ เช่น ปกปิด หลบเลี่ยง ไม่พูดความจริง อาจแสดงให้เห็นข้อพิรุธทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทนายโทนี่

					 
					
					
ไม่พร้อมทำเว็บไซต์ แต่คิดชื่อได้แล้ว จดโดเมนเนม .com เพียง 499 บาท พร้อมระบบบริหารโดเมนด้วยตัวคุณเอง ฟรี ระบบจัดการโดเมนเนม domain name, DNS Management, ID Protection, Email Forwarding