คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่ง

คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่ง

คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่งที่ถูกน้ำเซาะพังคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 2744/2546จำเลยปลูกบ้านในที่ดินพิพาทที่เช่าจากโจทก์ ต่อมาที่ดินพิพาทใต้อาคารบ้านที่จำเลยปลูกสร้างถูกน้ำกัดเซาะเป็นเหตุให้ตลิ่งพังทลายลงสู่แม่น้ำ ที่ดินพิพาทกลายสภาพเป็นที่ชายตลิ่งโดยที่จำเลยยังคงทำสัญญาเช่าที่ดินพิพาทกับโจทก์ตลอดมาซึ่งโจทก์ก็ยังคงสงวนสิทธิแห่งความเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทโดยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เป็นค่าเช่าที่ดินพิพาทอยู่ มิได้ปล่อยทิ้งให้เป็นที่ชายตลิ่งที่ประชาชนทั่วไปจะเข้ามาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ดังนั้น ที่ดินพิพาทจึงมิใช่ที่ชายตลิ่งอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2) เมื่อสัญญาเช่าที่ดินพิพาทสิ้นสุดลงและล่วงเลยเวลาที่โจทก์ผ่อนผันให้จำเลยอยู่ในที่ดินพิพาทได้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในที่ดินพิพาทของโจทก์อีกต่อไป โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้ทนายโทนี่ ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่ง

คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่ง

คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่งที่ถูกน้ำเซาะพัง
คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๕๓ – ๓๖๐/๒๕๐๗ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๔ นั้น การที่จะตีความว่า ถ้าที่ใดเป็นที่ชายตลิ่งแล้วย่อมเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เสมอไปนั้น
ย่อมไม่ถูกต้อง เพราะจะต้องมีสภาพเป็นทรัพย์สินสําหรับพลเมืองใช้ร่วมกันด้วย
จําเลยปลูกอาคารลงในที่ดินของจําเลยแม้ภายใต้อาคารนั้นถูกน้ำเซาะพังลงกลายสภาพเป็น ที่ชายตลิ่ง แต่จําเลยก็ยังใช้สิทธิแห่งความเป็นเจ้าของ คงครอบครองอาคารและที่ดินนั้นอยู่ มิได้ทอดทิ้ง ปล่อยให้เป็นที่ชายตลิ่งสําหรับพลเมืองใช้ร่วมกันแล้ว ที่พิพาทนั้นยังหาเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่
ทนายโทนี่ ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่งที่ถูกน้ำเซาะพัง

คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่งที่ถูกน้ำเซาะพัง

คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่งที่ถูกน้ำเซาะพัง

คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๐๙๓/๒๕๒๓ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดินพิพาทยังเป็นของโจทก์
กับพวกอยู่ แม้น้ำจะเซาะที่ดินโจทก์กับพวกตรงที่พิพาทจนกลายสภาพเป็นที่ชายตลิ่งไปแล้วก็ตาม แต่โจทก์
กับพวกก็ยังใช้สิทธิเป็นเจ้าของโดยใช้เป็นทางเข้าออกอยู่ มิได้ทอดทิ้งให้เป็นที่สําหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ที่พิพาท จึงไม่เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน

ทนายโทนี่ ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่งที่ถูกน้ําเซาะพังคําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๙๑๕/๒๔๗๕ที่ดินที่ ถูกทางน้ําเซาะดินพัง แต่ไม่ปรากฏว่าเป็นลําคลองสาธารณะ เจ้าของที่ดินยังมีกรรมสิทธิ์อยู่ทนายโทนี่ ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่งที่ถูกน้ําเซาะพังคําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๙๑๕/๒๔๗๕ที่ดินที่ ถูกทางน้ําเซาะดินพัง แต่ไม่ปรากฏว่าเป็นลําคลองสาธารณะ เจ้าของที่ดินยังมีกรรมสิทธิ์อยู่ทนายโทนี่ ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

คําพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับกรณีที่ดินชายตลิ่งที่ถูกน้ําเซาะพังคําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๙๑๕/๒๔๗๕ที่ดินที่ ถูกทางน้ําเซาะดินพัง แต่ไม่ปรากฏว่าเป็นลําคลองสาธารณะ เจ้าของที่ดินยังมีกรรมสิทธิ์อยู่ทนายโทนี่ ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ผู้ที่มีชื่อในทะเบียนที่ดินได้รับข้อสันนิษฐานว่า

ผู้ที่มีชื่อในทะเบียนที่ดินได้รับข้อสันนิษฐานว่า

ผู้ที่มีชื่อในทะเบียนที่ดินได้รับข้อสันนิษฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามกฎหมายดีกว่าคำพิพากษาฎีกาที่ 4679/2559 ที่ดินตามสำเนาหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) โจทก์ซื้อมาเมื่อปี 2535 ตามสารบัญจดทะเบียนในเอกสารดังกล่าวอันเป็นทะเบียนที่ดิน โจทก์จึงได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตาม ป.พ.พ. มาตรา 1373 ว่าเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง จำเลยต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนั้นทนายโทนี่ ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์