ไม่เป็นไร วางเป้าหมายใหม่ วางแผนใหม่  เชื่อว่าหลายคน กำลังเจอเหตุการณ์แบบนี้ ใช้ชีวิตอยู่ไปเรื่อยๆ  แล้วพบว่า ตอนนี้ เรารู้สึกว่า  เส้นทางที่เราเดินอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่เส้นทางของเรา  ไม่ใช่ทางที่เราอยากเดิน ทั้งๆที่ในอดีตเราฝันว่า “ ใช่” #อาจารย์โทนี่ #สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ไม่เป็นไร วางเป้าหมายใหม่ วางแผนใหม่ เชื่อว่าหลายคน กำลังเจอเหตุการณ์แบบนี้ ใช้ชีวิตอยู่ไปเรื่อยๆ แล้วพบว่า ตอนนี้ เรารู้สึกว่า เส้นทางที่เราเดินอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่เส้นทางของเรา ไม่ใช่ทางที่เราอยากเดิน ทั้งๆที่ในอดีตเราฝันว่า “ ใช่” #อาจารย์โทนี่ #สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ไม่เป็นไร วางเป้าหมายใหม่ วางแผนใหม่

เชื่อว่าหลายคน กำลังเจอเหตุการณ์แบบนี้

ใช้ชีวิตอยู่ไปเรื่อยๆ

แล้วพบว่า ตอนนี้ เรารู้สึกว่า

เส้นทางที่เราเดินอยู่ตอนนี้

ไม่ใช่เส้นทางของเรา

ไม่ใช่ทางที่เราอยากเดิน

ทั้งๆที่ในอดีตเราฝันว่า “ ใช่”

#อาจารย์โทนี่ #สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ไม่เป็นไร วางเป้าหมายใหม่ วางแผนใหม่

เชื่อว่าหลายคน กำลังเจอเหตุการณ์แบบนี้

ใช้ชีวิตอยู่ไปเรื่อยๆ

แล้วพบว่า ตอนนี้ เรารู้สึกว่า

เส้นทางที่เราเดินอยู่ตอนนี้

ไม่ใช่เส้นทางของเรา

ไม่ใช่ทางที่เราอยากเดิน

ทั้งๆที่ในอดีตเราฝันว่า “ ใช่”

#อาจารย์โทนี่ #สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ความผิดฐานลักทรัพย์เป็นการเอาทรัพย์ไป เป็นความผิดสําเร็จเมื่อทรัพย์เคลื่อนที่คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2552จำเลยยังมิได้พาเตาอบไฟฟ้าของผู้เสียหายออกไปพ้นนอกห้างสรรพสินค้าของผู้เสียหาย แต่ก็ได้เคลื่อนย้ายเตาอบไฟฟ้าออกจากจุดที่ผู้เสียหายเก็บหรือวางทรัพย์นั้นไว้ ทั้งยังผ่านจุดที่ลูกค้าจะต้องชำระค่าสินค้าแก่พนักงานเก็บเงินไปแล้ว จึงถือได้ว่าจำเลยพาทรัพย์ของผู้เสียหายเคลื่อนที่ไปแล้วโดยมีเจตนาทุจริต การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสำเร็จ#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ความผิดฐานลักทรัพย์เป็นการเอาทรัพย์ไป เป็นความผิดสําเร็จเมื่อทรัพย์เคลื่อนที่คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2552จำเลยยังมิได้พาเตาอบไฟฟ้าของผู้เสียหายออกไปพ้นนอกห้างสรรพสินค้าของผู้เสียหาย แต่ก็ได้เคลื่อนย้ายเตาอบไฟฟ้าออกจากจุดที่ผู้เสียหายเก็บหรือวางทรัพย์นั้นไว้ ทั้งยังผ่านจุดที่ลูกค้าจะต้องชำระค่าสินค้าแก่พนักงานเก็บเงินไปแล้ว จึงถือได้ว่าจำเลยพาทรัพย์ของผู้เสียหายเคลื่อนที่ไปแล้วโดยมีเจตนาทุจริต การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสำเร็จ#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ความผิดฐานลักทรัพย์เป็นการเอาทรัพย์ไป เป็นความผิดสําเร็จเมื่อทรัพย์เคลื่อนที่คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2552จำเลยยังมิได้พาเตาอบไฟฟ้าของผู้เสียหายออกไปพ้นนอกห้างสรรพสินค้าของผู้เสียหาย แต่ก็ได้เคลื่อนย้ายเตาอบไฟฟ้าออกจากจุดที่ผู้เสียหายเก็บหรือวางทรัพย์นั้นไว้ ทั้งยังผ่านจุดที่ลูกค้าจะต้องชำระค่าสินค้าแก่พนักงานเก็บเงินไปแล้ว จึงถือได้ว่าจำเลยพาทรัพย์ของผู้เสียหายเคลื่อนที่ไปแล้วโดยมีเจตนาทุจริต การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสำเร็จ#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ทำสัญญาขายฝาก ขอผ่อนจ่ายดอกเบี้ยและต้นเงิน เป็นรายเดือน คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2514/2561                 ดอกเบี้ยที่โจทก์ผ่อนชำระให้แก่จำเลยที่ 1 ในอัตราร้อยละ 3 ต่อเดือน เป็นเงิน 2,100 บาท หรือเท่ากับ 25,200 บาท ต่อปี เมื่อนำไปรวมกับต้นเงิน 70,000 บาท เป็นเงิน 95,200 บาท เป็นจำนวนใกล้เคียงกับราคาสินไถ่ 95,000 บาท การที่โจทก์ชำระดอกเบี้ยทุกเดือน จึงเป็นการชำระดอกเบี้ยตามสัญญากู้และแสดงว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 มีเจตนาทำสัญญากู้ยืมเงินตั้งแต่ต้น ไม่มีเจตนาที่จะทำสัญญาขายฝาก การนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นเพียงให้จำเลยที่ 1 ยึดถือประกันหนี้เงินกู้ยืมเท่านั้น สัญญาขายฝากที่ทำไว้จึงเป็นนิติกรรมอำพรางการกู้ยืมเงินและตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง ต้องบังคับตามสัญญากู้ยืมเงินซึ่งเป็นนิติกรรมที่ถูกอำพรางตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคสอง              แม้การขายฝากที่ดินจะตกเป็นโมฆะ ต้องเพิกถอนสัญญาขายฝาก เป็นผลให้ที่ดินพิพาทยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ก็ตาม แต่จำเลยที่ 1 ได้ขายที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ 2 ไปก่อนแล้ว ซึ่งจำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้ว่ารับโอนที่ดินพิพาทมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนแล้ว ประกอบกับโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 2 รับโอนที่ดินพิพาทมาโดยไม่สุจริต และจากทางนำสืบของโจทก์ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 จะได้รู้ว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำสัญญาขายฝากที่ดินพิพาทกันจริง จำเลยที่ 2 จึงเป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตและต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวง ย่อมได้รับคุ้มครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง ตอนท้าย โจทก์จึงไม่อาจเพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้ #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ทำสัญญาขายฝาก ขอผ่อนจ่ายดอกเบี้ยและต้นเงิน เป็นรายเดือน คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2514/2561 ดอกเบี้ยที่โจทก์ผ่อนชำระให้แก่จำเลยที่ 1 ในอัตราร้อยละ 3 ต่อเดือน เป็นเงิน 2,100 บาท หรือเท่ากับ 25,200 บาท ต่อปี เมื่อนำไปรวมกับต้นเงิน 70,000 บาท เป็นเงิน 95,200 บาท เป็นจำนวนใกล้เคียงกับราคาสินไถ่ 95,000 บาท การที่โจทก์ชำระดอกเบี้ยทุกเดือน จึงเป็นการชำระดอกเบี้ยตามสัญญากู้และแสดงว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 มีเจตนาทำสัญญากู้ยืมเงินตั้งแต่ต้น ไม่มีเจตนาที่จะทำสัญญาขายฝาก การนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นเพียงให้จำเลยที่ 1 ยึดถือประกันหนี้เงินกู้ยืมเท่านั้น สัญญาขายฝากที่ทำไว้จึงเป็นนิติกรรมอำพรางการกู้ยืมเงินและตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง ต้องบังคับตามสัญญากู้ยืมเงินซึ่งเป็นนิติกรรมที่ถูกอำพรางตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคสอง แม้การขายฝากที่ดินจะตกเป็นโมฆะ ต้องเพิกถอนสัญญาขายฝาก เป็นผลให้ที่ดินพิพาทยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ก็ตาม แต่จำเลยที่ 1 ได้ขายที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ 2 ไปก่อนแล้ว ซึ่งจำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้ว่ารับโอนที่ดินพิพาทมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนแล้ว ประกอบกับโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 2 รับโอนที่ดินพิพาทมาโดยไม่สุจริต และจากทางนำสืบของโจทก์ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 จะได้รู้ว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำสัญญาขายฝากที่ดินพิพาทกันจริง จำเลยที่ 2 จึงเป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตและต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวง ย่อมได้รับคุ้มครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง ตอนท้าย โจทก์จึงไม่อาจเพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้ #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ทำสัญญาขายฝาก ขอผ่อนจ่ายดอกเบี้ยและต้นเงิน เป็นรายเดือน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2514/2561
ดอกเบี้ยที่โจทก์ผ่อนชำระให้แก่จำเลยที่ 1 ในอัตราร้อยละ 3 ต่อเดือน เป็นเงิน 2,100 บาท หรือเท่ากับ 25,200 บาท ต่อปี เมื่อนำไปรวมกับต้นเงิน 70,000 บาท เป็นเงิน 95,200 บาท เป็นจำนวนใกล้เคียงกับราคาสินไถ่ 95,000 บาท การที่โจทก์ชำระดอกเบี้ยทุกเดือน จึงเป็นการชำระดอกเบี้ยตามสัญญากู้และแสดงว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 มีเจตนาทำสัญญากู้ยืมเงินตั้งแต่ต้น ไม่มีเจตนาที่จะทำสัญญาขายฝาก การนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นเพียงให้จำเลยที่ 1 ยึดถือประกันหนี้เงินกู้ยืมเท่านั้น สัญญาขายฝากที่ทำไว้จึงเป็นนิติกรรมอำพรางการกู้ยืมเงินและตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง ต้องบังคับตามสัญญากู้ยืมเงินซึ่งเป็นนิติกรรมที่ถูกอำพรางตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคสอง
แม้การขายฝากที่ดินจะตกเป็นโมฆะ ต้องเพิกถอนสัญญาขายฝาก เป็นผลให้ที่ดินพิพาทยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ก็ตาม แต่จำเลยที่ 1 ได้ขายที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ 2 ไปก่อนแล้ว ซึ่งจำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้ว่ารับโอนที่ดินพิพาทมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนแล้ว ประกอบกับโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 2 รับโอนที่ดินพิพาทมาโดยไม่สุจริต และจากทางนำสืบของโจทก์ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 จะได้รู้ว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำสัญญาขายฝากที่ดินพิพาทกันจริง จำเลยที่ 2 จึงเป็นบุคคลภายนอกผู้กระทำการโดยสุจริตและต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวง ย่อมได้รับคุ้มครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง ตอนท้าย โจทก์จึงไม่อาจเพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้
อย่าได้ดูถูกสิ่งที่ทำเล็กๆ ในทุกๆวัน ความมีวินัยในการทำสิ่งเล็กๆ สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้การเขียนหนังสือ 1 หน้าต่อวัน  1 ปี = 365 หน้า เท่ากับหนังสือ 1 เล่มน้ำแต่ละหยดยังรวมตัวกันเป็นแม่น้ำขอแค่เริ่มลงมือทำและอย่าได้หยุด#อาจารย์โทนี่ #อาจารย์สุทธิชัย ปัญญโรจน์

อย่าได้ดูถูกสิ่งที่ทำเล็กๆ ในทุกๆวัน ความมีวินัยในการทำสิ่งเล็กๆ สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้การเขียนหนังสือ 1 หน้าต่อวัน 1 ปี = 365 หน้า เท่ากับหนังสือ 1 เล่มน้ำแต่ละหยดยังรวมตัวกันเป็นแม่น้ำขอแค่เริ่มลงมือทำและอย่าได้หยุด#อาจารย์โทนี่ #อาจารย์สุทธิชัย ปัญญโรจน์

อย่าได้ดูถูกสิ่งที่ทำเล็กๆ ในทุกๆวัน
ความมีวินัยในการทำสิ่งเล็กๆ สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้
การเขียนหนังสือ 1 หน้าต่อวัน  1 ปี = 365 หน้า เท่ากับหนังสือ 1 เล่ม
น้ำแต่ละหยดยังรวมตัวกันเป็นแม่น้ำ
ขอแค่เริ่มลงมือทำและอย่าได้หยุด
#อาจารย์โทนี่ #อาจารย์สุทธิชัย ปัญญโรจน์

อย่ามัวแต่ “ โหยหาแสงของคนอื่นหรือชื่นชมแต่คนอื่น ”จนลืมไปว่า “เราก็สามารถสร้างแสงสว่างหรือสร้างตนเอง ” ขึ้นมาได้#อาจารย์โทนี่ #สุทธิชัย ปัญญโรจน์

อย่ามัวแต่ “ โหยหาแสงของคนอื่นหรือชื่นชมแต่คนอื่น ”จนลืมไปว่า “เราก็สามารถสร้างแสงสว่างหรือสร้างตนเอง ” ขึ้นมาได้#อาจารย์โทนี่ #สุทธิชัย ปัญญโรจน์

อย่ามัวแต่ “ โหยหาแสงของคนอื่นหรือชื่นชมแต่คนอื่น ”
จนลืมไปว่า “เราก็สามารถสร้างแสงสว่างหรือสร้างตนเอง ” ขึ้นมาได้
#อาจารย์โทนี่ #สุทธิชัย ปัญญโรจน์