WebsiteGang Blog

เขียนบทความฟรี ประชาสัมพันธ์ฟรี ข่าวสารโปรโมชั่นฟรี เพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา หรือทำ  SEO 

คำแนะนำ : การทำเพจของคุณให้น่าติดตามน่าสนใจ ควรใส่ภาพประกอบ

เจาะลึกหน้าที่ของบริษัทบริหารนิติฯ ในการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี

เจาะลึกหน้าที่ของบริษัทบริหารนิติฯ ในการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี

ทำไมการเลือก บริษัทบริหารนิติบุคคล จึงสำคัญต่อคุณภาพของโครงการหมู่บ้านและคอนโด? ในยุคปัจจุบัน...

read more
จำเลยดึงเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลไป ไม่ได้ลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพย์ แต่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2568 จำเลยดึงเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ยังไม่ได้ตรวจไปจากมือของโจทก์ร่วมโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ต่อมาโจทก์ร่วมก็ยินยอมปล่อยให้จำเลยนำสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปตรวจได้โดยจำเลยไม่ได้หลบหนี พฤติการณ์การกระทำของจำเลยที่เอาสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปตรวจรางวัลให้แก่โจทก์ร่วมจึงเป็นการถือวิสาสะเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นการลักสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปโดยการฉกฉวยเอาซึ่งหน้าอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้อง  การที่จำเลยได้รับสลากกินแบ่งรัฐบาลจากโจทก์ร่วมไปครอบครองแล้วจำเลยกลับเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไป เมื่อโจทก์ร่วมทวงถามก็ไม่ยอมคืนให้แก่โจทก์ร่วมโดยปราศจากเหตุผลอันจะอ้างตามกฎหมายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการครอบครองสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมแล้วเบียดบังเอาเป็นของตนเองหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 352 วรรคหนึ่ง  คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปในเวลากลางคืนโดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 335, 336, 352 คือการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยทุจริตเช่นเดียวกัน คงแตกต่างกันเพียงเรื่องการเอาทรัพย์นั้นไปโดยวิธีการใดเท่านั้น ดังนั้น ข้อแตกต่างระหว่างความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์และฐานยักยอกทรัพย์จึงถือได้ว่ามิได้แตกต่างกันในข้อสาระสำคัญ ทั้งคดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เอาทรัพย์ของโจทก์ร่วมไปไม่ได้หลงต่อสู้ ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความนั้นได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

จำเลยดึงเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลไป ไม่ได้ลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพย์ แต่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2568 จำเลยดึงเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ยังไม่ได้ตรวจไปจากมือของโจทก์ร่วมโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ต่อมาโจทก์ร่วมก็ยินยอมปล่อยให้จำเลยนำสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปตรวจได้โดยจำเลยไม่ได้หลบหนี พฤติการณ์การกระทำของจำเลยที่เอาสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปตรวจรางวัลให้แก่โจทก์ร่วมจึงเป็นการถือวิสาสะเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นการลักสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปโดยการฉกฉวยเอาซึ่งหน้าอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้อง การที่จำเลยได้รับสลากกินแบ่งรัฐบาลจากโจทก์ร่วมไปครอบครองแล้วจำเลยกลับเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไป เมื่อโจทก์ร่วมทวงถามก็ไม่ยอมคืนให้แก่โจทก์ร่วมโดยปราศจากเหตุผลอันจะอ้างตามกฎหมายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการครอบครองสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมแล้วเบียดบังเอาเป็นของตนเองหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 352 วรรคหนึ่ง คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปในเวลากลางคืนโดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 335, 336, 352 คือการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยทุจริตเช่นเดียวกัน คงแตกต่างกันเพียงเรื่องการเอาทรัพย์นั้นไปโดยวิธีการใดเท่านั้น ดังนั้น ข้อแตกต่างระหว่างความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์และฐานยักยอกทรัพย์จึงถือได้ว่ามิได้แตกต่างกันในข้อสาระสำคัญ ทั้งคดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เอาทรัพย์ของโจทก์ร่วมไปไม่ได้หลงต่อสู้ ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความนั้นได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

จำเลยดึงเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลไป ไม่ได้ลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพย์ แต่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ คำพิพากษาศาลฎีกาที่...

read more
การกระทำของจำเลยจึงขาดเจตนากระทำความผิดฐานคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9285/2556เมื่อจำเลยสำคัญผิดว่าผู้เสียหายพ้นวัยผู้เยาว์ โดยเข้าใจว่าผู้เสียหายมีอายุเกินกว่า 18 ปี แล้ว จึงเป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริงเรื่องอายุอันเป็นองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา 318 วรรคแรก การกระทำของจำเลยจึงขาดเจตนากระทำความผิดฐานดังกล่าวตาม ป.อ. มาตรา 59 วรรคสามป.อ.มาตรา 318 อาญา”ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาทป.อ.มาตรา ๕๙ วรรค ๓               ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด จะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้               #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

การกระทำของจำเลยจึงขาดเจตนากระทำความผิดฐานคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9285/2556เมื่อจำเลยสำคัญผิดว่าผู้เสียหายพ้นวัยผู้เยาว์ โดยเข้าใจว่าผู้เสียหายมีอายุเกินกว่า 18 ปี แล้ว จึงเป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริงเรื่องอายุอันเป็นองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา 318 วรรคแรก การกระทำของจำเลยจึงขาดเจตนากระทำความผิดฐานดังกล่าวตาม ป.อ. มาตรา 59 วรรคสามป.อ.มาตรา 318 อาญา”ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาทป.อ.มาตรา ๕๙ วรรค ๓ ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด จะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้ #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

การกระทำของจำเลยจึงขาดเจตนากระทำความผิดฐาน คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9285/2556 เมื่อจำเลยสำคัญผิดว่าผู้เสียหายพ้นวัยผู้เยาว์...

read more
จำเลยเอาไม้ที่ปูพื้นเรือนของโจทก์ร่วม 8 แผ่น ไปปูบนร่องสวนเพื่อใช้จัดงานศพชั่วคราว มิได้มีเจตนาเอาไปเลย ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2521 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำคุกจำเลย 1 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 จำเลยฎีกา  ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “บ้านหลังนี้เก่ามีสภาพชำรุดทรุดโทรมปลูกอยู่ในสวน ฝาขัดแตะ เสาไม้จริงผุกร่อนแทบทุกต้น ดังปรากฏตามภาพถ่ายหลังคามุงจาก พื้นกระดาน จำเลยเช่าอยู่อาศัยมากว่า 30 ปี โจทก์ให้จำเลยออกไปภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2519 ก่อนถึงกำหนดจำเลยได้รื้อเอาไม้พื้นกระดานไป 8 แผ่น เมื่อโจทก์ร่วมมาตรวจพบเข้าและไปแจ้งตำรวจ จำเลยก็นำกลับมาคืนให้ตามเดิม แต่ทั้งสองฝ่ายยังโต้เถียงกันอยู่ โดยโจทก์ร่วมอ้างว่าไม่ใช่ไม้ของเดิม แต่ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาซึ่งศาลไปเดินเผชิญสืบว่าไม้ที่จำเลยคืนและไม้กระดานพื้นบ้านของโจทก์เป็นไม้ชนิดเดียวกันมีสภาพเก่าเหมือนกัน แม้บางแผ่นจะสั้นกว่ากันเล็กน้อย ก็เหมือนกับที่ห้องด้านหน้าเชื่อว่าไม้ที่จำเลยนำมาคืนเป็นไม้กระดานแผ่นเดิมมิได้เปลี่ยนไม้อื่นมาให้ โจทก์มิได้ฎีกาในข้อนี้ จึงมีปัญหาต่อไปที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเพียงข้อเดียวว่าจำเลยมีเจตนาลักทรัพย์รายนี้หรือไม่ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเอาไม้ยางมาปูแทนไม้แดงจึงมีเจตนาทุจริต ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้น จ่าสิบตำรวจจรัสได้ไกลเกลี่ยจำเลยก็ยอมคืนไม้ให้โจทก์ร่วมแต่โดยดี ทั้งสองครั้งที่จำเลยเอาไม้ไปให้โจทก์ร่วมก็ยังคงยืนยันว่าไม่ใช่ไม้ของเดิมอยู่นั่นเองแสดงให้เห็นว่ามีความอาฆาตโกรธเคืองจำเลยอยู่ ระหว่างนั้นคือเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2519 ก่อนครบกำหนดวันที่โจทก์ผ่อนผันให้จำเลยอยู่ บิดาของจำเลยได้ถึงแก่กรรมที่บ้านพี่ชายซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน จำเลยว่าจึงมีความจำเป็นต้องเอาไม้กระดานไปปูบนร่องสวนเพื่อจัดงานศพ เพราะหาที่อื่นไม่ได้ ทั้งที่บ้านพี่ชายหลังเล็กไม่พอจัดงานและรับแขก เมื่อร้อยตำรวจโทพินัยสอบถามจำเลยก็ให้การดังนั้นมาแต่ต้น จึงน่าเชื่อว่าจำเลยได้เอาไม้กระดานของโจทก์ร่วมไปใช้แต่เพียงชั่วคราว มิได้เจตนาเอาไปเลยดังที่จำเลยฎีกาพยานจำเลยซึ่งเป็นญาติของทั้งสองฝ่ายก็เบิกความในทำนองนี้ รูปคดียังเป็นที่สงสัยอยู่ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่ ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย”  พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

จำเลยเอาไม้ที่ปูพื้นเรือนของโจทก์ร่วม 8 แผ่น ไปปูบนร่องสวนเพื่อใช้จัดงานศพชั่วคราว มิได้มีเจตนาเอาไปเลย ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2521 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำคุกจำเลย 1 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “บ้านหลังนี้เก่ามีสภาพชำรุดทรุดโทรมปลูกอยู่ในสวน ฝาขัดแตะ เสาไม้จริงผุกร่อนแทบทุกต้น ดังปรากฏตามภาพถ่ายหลังคามุงจาก พื้นกระดาน จำเลยเช่าอยู่อาศัยมากว่า 30 ปี โจทก์ให้จำเลยออกไปภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2519 ก่อนถึงกำหนดจำเลยได้รื้อเอาไม้พื้นกระดานไป 8 แผ่น เมื่อโจทก์ร่วมมาตรวจพบเข้าและไปแจ้งตำรวจ จำเลยก็นำกลับมาคืนให้ตามเดิม แต่ทั้งสองฝ่ายยังโต้เถียงกันอยู่ โดยโจทก์ร่วมอ้างว่าไม่ใช่ไม้ของเดิม แต่ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาซึ่งศาลไปเดินเผชิญสืบว่าไม้ที่จำเลยคืนและไม้กระดานพื้นบ้านของโจทก์เป็นไม้ชนิดเดียวกันมีสภาพเก่าเหมือนกัน แม้บางแผ่นจะสั้นกว่ากันเล็กน้อย ก็เหมือนกับที่ห้องด้านหน้าเชื่อว่าไม้ที่จำเลยนำมาคืนเป็นไม้กระดานแผ่นเดิมมิได้เปลี่ยนไม้อื่นมาให้ โจทก์มิได้ฎีกาในข้อนี้ จึงมีปัญหาต่อไปที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเพียงข้อเดียวว่าจำเลยมีเจตนาลักทรัพย์รายนี้หรือไม่ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเอาไม้ยางมาปูแทนไม้แดงจึงมีเจตนาทุจริต ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้น จ่าสิบตำรวจจรัสได้ไกลเกลี่ยจำเลยก็ยอมคืนไม้ให้โจทก์ร่วมแต่โดยดี ทั้งสองครั้งที่จำเลยเอาไม้ไปให้โจทก์ร่วมก็ยังคงยืนยันว่าไม่ใช่ไม้ของเดิมอยู่นั่นเองแสดงให้เห็นว่ามีความอาฆาตโกรธเคืองจำเลยอยู่ ระหว่างนั้นคือเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2519 ก่อนครบกำหนดวันที่โจทก์ผ่อนผันให้จำเลยอยู่ บิดาของจำเลยได้ถึงแก่กรรมที่บ้านพี่ชายซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน จำเลยว่าจึงมีความจำเป็นต้องเอาไม้กระดานไปปูบนร่องสวนเพื่อจัดงานศพ เพราะหาที่อื่นไม่ได้ ทั้งที่บ้านพี่ชายหลังเล็กไม่พอจัดงานและรับแขก เมื่อร้อยตำรวจโทพินัยสอบถามจำเลยก็ให้การดังนั้นมาแต่ต้น จึงน่าเชื่อว่าจำเลยได้เอาไม้กระดานของโจทก์ร่วมไปใช้แต่เพียงชั่วคราว มิได้เจตนาเอาไปเลยดังที่จำเลยฎีกาพยานจำเลยซึ่งเป็นญาติของทั้งสองฝ่ายก็เบิกความในทำนองนี้ รูปคดียังเป็นที่สงสัยอยู่ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่ ควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย” พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

จำเลยเอาไม้ที่ปูพื้นเรือนของโจทก์ร่วม 8 แผ่น ไปปูบนร่องสวนเพื่อใช้จัดงานศพชั่วคราว มิได้มีเจตนาเอาไปเลย...

read more
ทนายสุทธิชัย  ปัญญโรจน์(ทนายโทนี่) บรรยายวิชา กฎหมายอาญา : ภาคความผิด ให้แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยปทุมธานี เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568  #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์www.drsuthichai.com

ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์(ทนายโทนี่) บรรยายวิชา กฎหมายอาญา : ภาคความผิด ให้แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยปทุมธานี เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568 #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์www.drsuthichai.com

ทนายสุทธิชัย  ปัญญโรจน์(ทนายโทนี่) บรรยายวิชา กฎหมายอาญา : ภาคความผิด ให้แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยปทุมธานี เมื่อ...

read more
เจ้าของธุรกิจ ควรรู้ ! ข้อดี ของ โซ ล่า เซลล์ สำหรับธุรกิจ ประหยัดค่าไฟ เพิ่มกำไรในระยะยาว

เจ้าของธุรกิจ ควรรู้ ! ข้อดี ของ โซ ล่า เซลล์ สำหรับธุรกิจ ประหยัดค่าไฟ เพิ่มกำไรในระยะยาว

เมื่อพูดถึง “ข้อดีของโซล่าเซลล์” หลายคนก็คงอาจจะทราบประโยชน์ หรือรู้ข้อดีของโซล่าเซลล์กันมาบ้างแล้วว่าสิ่ง ๆ...

read more
การครอบครองปรปักษ์ในที่ดิน ต้องเป็นที่ดินของคนอื่น หากบรรยายฟ้องว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ซึ่งรับมรดกมาจากบิดาเช่นนี้ ศาลไม่อาจพิพากษาให้โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4843/2545การครอบครองอสังหาริมทรัพย์ อันจะทำให้ผู้ครอบครองได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น นอกจากจะต้องเป็นการครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลา10 ปีแล้ว ยังจะต้องเป็นการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของบุคคลอื่นด้วย หากเป็นการครอบครองทรัพย์สินของตนเองแล้ว ก็หามีผลที่จะทำให้ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองไม่การที่โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ซึ่งรับมรดกมาจากบิดาเช่นนี้ ศาลไม่อาจพิพากษาให้โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของโจทก์เองได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

การครอบครองปรปักษ์ในที่ดิน ต้องเป็นที่ดินของคนอื่น หากบรรยายฟ้องว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ซึ่งรับมรดกมาจากบิดาเช่นนี้ ศาลไม่อาจพิพากษาให้โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4843/2545การครอบครองอสังหาริมทรัพย์ อันจะทำให้ผู้ครอบครองได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น นอกจากจะต้องเป็นการครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลา10 ปีแล้ว ยังจะต้องเป็นการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของบุคคลอื่นด้วย หากเป็นการครอบครองทรัพย์สินของตนเองแล้ว ก็หามีผลที่จะทำให้ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองไม่การที่โจทก์บรรยายฟ้องยืนยันว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ซึ่งรับมรดกมาจากบิดาเช่นนี้ ศาลไม่อาจพิพากษาให้โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของโจทก์เองได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

การครอบครองปรปักษ์ในที่ดิน ต้องเป็นที่ดินของคนอื่น หากบรรยายฟ้องว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ซึ่งรับมรดกมาจากบิดาเช่นนี้...

read more

จดโดเมนเนม .com เพียง 380 บาท ฟรี! ระบบบริหารจัดการโดเมนด้วยตัวคุณเอง

กรอกชื่อโดเมนเนมที่ต้องการจด:

บทความล่าสุด