แผงโซล่าเซลล์แตก สาเหตุ และวิธีการตรวจสอบ

แผงโซล่าเซลล์แตก สาเหตุ และวิธีการตรวจสอบ

แผงโซล่าเซลล์แตก ได้ รู้หรือไม่ว่า แผงโซล่าเซลล์ที่สามารถอยู่ได้นาน ก็มีโอกาสเกิดความเสียหายได้เช่นกัน โดยเฉพาะ “รอยแตก” ที่ไม่ได้แค่ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าที่ลดลงเท่านั้น แต่ยังอาจสร้างอันตรายต่อผู้ใช้งานอีกด้วย

บทความนี้ SOLAR WING ขอนำเสนอความรู้เกี่ยวกับ สาเหตุ และวิธีการตรวจสอบ เมื่อแผงโซล่าเซลล์แตก เพื่อป้องกันความเสียหาย รักษาประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานของระบบให้ยาวนานที่สุด

 

สาเหตุที่ทำให้ แผงโซล่าเซลล์แตก

 

สาเหตุที่ทำให้แผงโซล่าเซลล์แตก Solar wing

 

โดยทั่วไปแผงโซล่าเซลล์มีความทนทานสูงสามารถอยู่ได้นานกว่า 25 ปี แต่ถึงอย่างนั้นแผงโซล่าเซลล์เองก็มีความเสี่ยงที่จะแตกหักเสียหายได้เช่นกัน โดยสาเหตุทั่วไปของ แผงโซล่าเซลล์แตก มีดังนี้

1. แรงกระแทก

สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด คือ แรงกระแทกจากวัตถุภายนอก เช่น เศษวัสดุ กิ่งไม้ หิน หรือลูกเห็บ ซึ่งแรงกระแทกเหล่านี้อาจทำให้เกิดรอยแตกบนแผงเซลล์ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน หรืออาจทำให้แผงโซล่าเซลล์แตกหักเสียหายจนใช้งานไม่ได้

2. สภาพอากาศ

สภาพอากาศรุนแรงผิดปกติ เช่น ลมพายุ ฝนตกหนัก หรือความร้อนจัด ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อแผงโซล่าเซลล์ แรงลมที่รุนแรงอาจทำให้แผงโซล่าเซลล์งอ หรือหัก รวมไปถึงความร้อนจัดจากแสงแดดที่สะสมอาจทำให้แผงเซลล์เสื่อมสภาพ เกิดรอยแตกร้าว หรือเสียรูปได้

3. การติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง

การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน  อาจทำให้เกิดปัญหาโครงสร้าง ซึ่งส่งผลต่อความแข็งแรงของแผง ทำให้เสี่ยงต่อการแตกหัก

4. อายุการใช้งาน

เช่นเดียวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป  แผงโซล่าเซลล์ก็มีอายุการใช้งานจำกัด  เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ประสิทธิภาพของแผงเซลล์จะลดลง ซึ่งอาจเกิดรอยแผงโซล่าเซลล์แตก หรือเสื่อมสภาพตามกาลเวลาได้

สาเหตุเหล่านี้ส่งผลให้ระบบมีการผลิตไฟฟ้าที่ลดลง เนื่องจากแผงโซล่าเซลล์แตกจะสูญเสียประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าในส่วนที่แตกหักไป อีกทั้งส่วนที่แตกอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน เศษแก้วจากแผงโซล่าเซลล์แตกอาจบาดผู้ใช้งานได้ รวมไปถึงอาจมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลจากแผงโซล่าเซลล์แตกหัก ดังนั้นจำเป็นต้องคอยดูแล ตรวจสอบแผง และระบบโซล่าเซลล์อยู่เสมอ

 

วิธีการตรวจสอบ แผงโซล่าเซลล์แตก

การตรวจสอบแผงโซล่าเซลล์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ  เพื่อหาจุดที่แตกหรือเสียหาย  และดำเนินการแก้ไขได้ทันท่วงที โดยสามารถทำได้ดังนี้

1. วิธีการตรวจสอบด้วยตาเปล่า

  • ตรวจสอบสภาพภายนอก มองหาจุดรอยร้าว รอยขีดข่วน รอยบุ๋ม หรือรอยแตกบนแผงโซล่าเซลล์ ตรวจสอบว่ามีเซลล์ที่เปลี่ยนสีจากเดิม มีรอยไหม้ หรือไม่
  • ตรวจสอบกรอบ และกระจกบนแผงว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ หากมีรอยแตก ร้าว หรือบิ่น อาจทำให้ความชื้นเข้าไปในแผงโซล่าเซลล์ และทำให้เกิดการกัดกร่อนได้
  • ตรวจสอบสายไฟที่เชื่อมต่อกับแผงโซล่าเซลล์ โดยปกติแล้วสายไฟไม่ควรฉีกขาด บวม หรือเปลือย

2. วิธีการตรวจสอบด้วยเครื่องมือ

  • กล้องถ่ายภาพความร้อน เพื่อตรวจจับจุดร้อนบนแผงโซล่าเซลล์ จุดร้อนอาจเป็นสัญญาณของเซลล์ที่เสียหาย
  • เครื่องทดสอบแรงดันไฟฟ้า เพื่อวัดแรงดันไฟฟ้าของแผงโซล่าเซลล์ หากแรงดันไฟฟ้าที่ต่ำกว่าปกติอาจเป็นสัญญาณของเซลล์ที่เสียหาย
  • เครื่องวัดความต้านทาน เพื่อวัดความต้านทานของแผงโซล่าเซลล์ ความต้านทานที่สูงกว่าปกติอาจเป็นสัญญาณของเซลล์ที่เสียหาย

ทั้งนี้หากไม่มั่นใจว่าแผงโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งเสียหายหรือไม่ ควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการตรวจสอบระบบการทำงานของโซล่าเซลล์ทั้งหมด เนื่องจากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีเครื่องมือ และความรู้ที่จำเป็นในการวินิจฉัยปัญหา จะช่วยแนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมให้ได้

 

ทำอย่างไรเมื่อพบ แผงโซล่าเซลล์แตก?

 

ทำอย่างไรเมื่อพบแผงโซล่าเซลล์แตก Solar wing

 

เมื่อพบแผงโซล่าเซลล์แตก สิ่งสำคัญคือต้องดำเนินการแก้ไขโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันอันตราย และรักษาประสิทธิภาพการทำงานของระบบ โดยสิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ

  1. ตัดกระแสไฟฟ้าปิดสวิตช์ไฟหลักของระบบโซล่าเซลล์ทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย และป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าชอร์ต หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผงโซล่าเซลล์แตก เนื่องจากเศษกระจกอาจทำให้เกิดบาดแผลได้ หากแผงโซล่าเซลล์ร้อน อย่าสัมผัสจนกว่าจะเย็นลง
  2. ประเมินความเสียหายเบื้องต้น ตรวจสอบขอบเขตของรอยแตกบนแผงโซล่าเซลล์ทั้งหมดรวมถึงแผงที่อยู่ข้างเคียง โดยรอยแตกเล็ก ๆ อาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแผงใหม่ แต่หากรอยแตกใหญ่ มีรอยร้าว หรือรู จำเป็นต้องเปลี่ยนแผงใหม่
  3. ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ หรือติดต่อบริษัทที่ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ เพื่อเข้าทำการตรวจดูบริเวณที่ติดตั้ง และทำการประเมินตรวจสอบ หาวิธีการแก้ไขที่เหมาะสมต่อไป

 

คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อป้องกัน แผงโซล่าเซลล์แตก

  1. ควรตรวจสอบแผงโซล่าเซลล์เป็นประจำ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี เพื่อป้องกัน และหาสัญญาณของความเสียหาย เช่น รอยแตก รอยร้าว หรือรอยชำรุดอื่น ๆ
  2. ติดตั้งระบบป้องกันภัย เช่น ฟิวส์หรือ ตัวตัดวงจร เพื่อช่วยป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าชอร์ต และไฟไหม้
  3. ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยของแผงโซล่าเซลล์เบื้องต้น เพื่อทราบถึงวิธีป้องกันอันตราย และวิธีการจัดการกับแผงโซล่าเซลล์ที่แตกหัก
  4. ทำความสะอาดแผงโซล่าเซลล์เป็นประจำ เนื่องจากสิ่งสกปรก และเศษซากใบไม้ ปฏิกูลสัตว์ ที่สะสมสามารถลดประสิทธิภาพการทำงานของแผง และทำให้เกิดความเสียหายได้

 

เพื่อความปลอดภัย และป้องกันแผงโซล่าเซลล์แตกตั้งแต่เริ่มต้น ควรเลือกติดตั้งกับบริษัทได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ ขอแนะนำ SOLAR WING ผู้ให้บริการออกแบบ ติดตั้ง และดูแล บำรุงรักษาระบบโซล่าเซลล์ออนกริดแบบครบวงจร ตั้งแต่ที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรมขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่

  • มีบริการแบบ One Stop Service ที่พร้อมดูแลตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบ และรับติดตั้ง ขออนุญาตหน่วยงานต่าง ๆ ไปจนถึงการดูแลหลังการขาย เช่น การทำความสะอาดระบบ เป็นต้น
  • รับประเมินหน้างาน ก่อนติดตั้งด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านระบบวิศวกรรมไฟฟ้า และโยธา
  • มีแผงโซล่าเซลล์ให้บริการที่นำเข้ามาจากบริษัทชั้นนำระดับโลก คุณภาพสูง และมีขนาด ราคาแผงโซล่าเซลล์สำหรับบ้านให้เลือกหลากหลาย เหมาะสมกับขนาดพื้นที่
  • อุปกรณ์ได้รับการยอมรับ ตามมาตรฐานสากล International Electrotechnical Commission หรือ IEC
  • รับประกันแผงโซล่าเซลล์สูงสุด 12 ปี และประสิทธิภาพไม่ต่ำกว่า 87.40% ตลอดระยะเวลา 30 ปี

สำหรับใครที่สนใจจะติดตั้งโซลาร์เซลล์ไว้ที่บ้าน ร้านค้า หรือสำนักงาน แต่ยังไม่แน่ใจในเรื่องของทำเลการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสมที่สุด สามารถสอบถามข้อมูลของบริการติดตั้ง และบำรุงซ่อมแซมระบบโซลาร์เซลล์เพิ่มเติมกับ SOLAR WING ได้เสมอ ยินดีให้คำปรึกษาครบทุกเรื่องโซลาร์เซลล์ [คลิกเลยที่นี่]

SOLAR WING ผู้ให้บริการออกแบบ ติดตั้ง และดูแล บำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร เราคือผู้นำ ด้านธุรกิจโซลาร์เซลล์ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยได้เข้าถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ อย่างแพร่หลาย มั่นคง และยั่งยืน ทุกขั้นตอนจะเป็นเรื่องง่ายไม่ยุ่งยาก เราพร้อมดูแลจัดการ ประเมินออกแบบให้ลูกค้าพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจติดตั้ง Solar Cell พลังงานเพื่ออนาคต ติดต่อขอรับคำปรึกษาจาก SOLAR WING ได้ที่ Email: info@solarwing.co หรือ โทร 080-3299777

ข้อความที่จำเลยกล่าวจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องพิจารณาถึงความรู้สึกของวิญญูชนทั่วๆไป มิใช่พิจารณาตามความรู้สึกของผู้ถูกหมิ่นประมาทแต่ฝ่ายเดียว คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2531 ข้อความที่กล่าวจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องพิเคราะห์ถึงความรู้สึกของวิญญูชนทั่ว ๆ ไปเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าข้อความที่กล่าวนั้นถึงขั้นที่ทำให้ผู้ถูกหมิ่นประมาทน่าจะเสียชื่อเสียง ถูกบุคคลอื่นดูหมิ่นเกลียดชังหรือไม่ ไม่ใช่พิจารณาตามความรู้สึกของผู้ถูกหมิ่นประมาทแต่ฝ่ายเดียวการที่จำเลยเบิกความเป็นพยานไปตามที่ทนายความซักถามว่า โจทก์ไม่ค่อยทำหน้าที่ธนาคารได้ลงโทษตัดเงินเดือนโจทก์ 10 เปอร์เซ็นต์ ฐานไม่ค่อยมาทำงาน ซึ่งโจทก์ก็รับว่าเป็นความจริงเพียงแต่เลี่ยงไปว่าถูกลงโทษฐานออกไปนอกสถานที่นั้น จำเลยมีเจตนาจะให้ความจริงต่อศาลในการพิจารณาคดี มิได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งใส่ความโจทก์ให้ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังแต่อย่างใด ส่วนที่จำเลยเบิกความว่าโจทก์เป็นหัวหน้าแผนกประจำธนาคารนั้น โจทก์จะมีตำแหน่งที่แท้จริงเป็นหัวหน้าแผนกประจำกองหรือหัวหน้าแผนกประจำธนาคาร วิญญูชนทั่วไปได้ยินได้ฟังแล้วหามีความเข้าใจในข้อแตกต่างของความหมายแห่งถ้อยคำของตำแหน่งหน้าที่ทั้งสองไม่ ผู้ได้ยินได้ฟังก็ไม่ถือหรือเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีอันเป็นการใส่ความ คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท. #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ข้อความที่จำเลยกล่าวจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องพิจารณาถึงความรู้สึกของวิญญูชนทั่วๆไป มิใช่พิจารณาตามความรู้สึกของผู้ถูกหมิ่นประมาทแต่ฝ่ายเดียว คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2531 ข้อความที่กล่าวจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องพิเคราะห์ถึงความรู้สึกของวิญญูชนทั่ว ๆ ไปเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าข้อความที่กล่าวนั้นถึงขั้นที่ทำให้ผู้ถูกหมิ่นประมาทน่าจะเสียชื่อเสียง ถูกบุคคลอื่นดูหมิ่นเกลียดชังหรือไม่ ไม่ใช่พิจารณาตามความรู้สึกของผู้ถูกหมิ่นประมาทแต่ฝ่ายเดียวการที่จำเลยเบิกความเป็นพยานไปตามที่ทนายความซักถามว่า โจทก์ไม่ค่อยทำหน้าที่ธนาคารได้ลงโทษตัดเงินเดือนโจทก์ 10 เปอร์เซ็นต์ ฐานไม่ค่อยมาทำงาน ซึ่งโจทก์ก็รับว่าเป็นความจริงเพียงแต่เลี่ยงไปว่าถูกลงโทษฐานออกไปนอกสถานที่นั้น จำเลยมีเจตนาจะให้ความจริงต่อศาลในการพิจารณาคดี มิได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งใส่ความโจทก์ให้ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังแต่อย่างใด ส่วนที่จำเลยเบิกความว่าโจทก์เป็นหัวหน้าแผนกประจำธนาคารนั้น โจทก์จะมีตำแหน่งที่แท้จริงเป็นหัวหน้าแผนกประจำกองหรือหัวหน้าแผนกประจำธนาคาร วิญญูชนทั่วไปได้ยินได้ฟังแล้วหามีความเข้าใจในข้อแตกต่างของความหมายแห่งถ้อยคำของตำแหน่งหน้าที่ทั้งสองไม่ ผู้ได้ยินได้ฟังก็ไม่ถือหรือเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีอันเป็นการใส่ความ คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท. #ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ข้อความที่จำเลยกล่าวจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องพิจารณาถึงความรู้สึกของวิญญูชนทั่วๆไป มิใช่พิจารณาตามความรู้สึกของผู้ถูกหมิ่นประมาทแต่ฝ่ายเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1064/2531

ข้อความที่กล่าวจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ ต้องพิเคราะห์ถึงความรู้สึกของวิญญูชนทั่ว ๆ ไปเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าข้อความที่กล่าวนั้นถึงขั้นที่ทำให้ผู้ถูกหมิ่นประมาทน่าจะเสียชื่อเสียง ถูกบุคคลอื่นดูหมิ่นเกลียดชังหรือไม่ ไม่ใช่พิจารณาตามความรู้สึกของผู้ถูกหมิ่นประมาทแต่ฝ่ายเดียวการที่จำเลยเบิกความเป็นพยานไปตามที่ทนายความซักถามว่า โจทก์ไม่ค่อยทำหน้าที่ธนาคารได้ลงโทษตัดเงินเดือนโจทก์ 10 เปอร์เซ็นต์ ฐานไม่ค่อยมาทำงาน ซึ่งโจทก์ก็รับว่าเป็นความจริงเพียงแต่เลี่ยงไปว่าถูกลงโทษฐานออกไปนอกสถานที่นั้น จำเลยมีเจตนาจะให้ความจริงต่อศาลในการพิจารณาคดี มิได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งใส่ความโจทก์ให้ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังแต่อย่างใด ส่วนที่จำเลยเบิกความว่าโจทก์เป็นหัวหน้าแผนกประจำธนาคารนั้น โจทก์จะมีตำแหน่งที่แท้จริงเป็นหัวหน้าแผนกประจำกองหรือหัวหน้าแผนกประจำธนาคาร วิญญูชนทั่วไปได้ยินได้ฟังแล้วหามีความเข้าใจในข้อแตกต่างของความหมายแห่งถ้อยคำของตำแหน่งหน้าที่ทั้งสองไม่ ผู้ได้ยินได้ฟังก็ไม่ถือหรือเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีอันเป็นการใส่ความ คำเบิกความของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท.

#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ขอขอบคุณสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงราย สาขาพานที่เชิญบรรยาย ณ โรงเรียนพานพิทยาคม เชียงราย หัวข้อ ” กฎหมายจราจร การขับขี่อย่างปลอดภัย ” ให้กับน้องๆนักเรียน

ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ขอขอบคุณสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงราย สาขาพานที่เชิญบรรยาย ณ โรงเรียนพานพิทยาคม เชียงราย หัวข้อ ” กฎหมายจราจร การขับขี่อย่างปลอดภัย ” ให้กับน้องๆนักเรียน

ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ บรรยายเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ขอขอบคุณสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงราย สาขาพานที่เชิญบรรยาย ณ โรงเรียนพานพิทยาคม เชียงราย หัวข้อ ” กฎหมายจราจร การขับขี่อย่างปลอดภัย ” ให้กับน้องๆนักเรียน

คดี รับของโจร มีประเด็นข้อต่อสู้ ดังนี้ 1. เจ้าของทรัพย์สินที่นำไปขายนั้น เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่แท้จริงหรือไม่แต่หากว่าทรัพย์สินนั้นผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด กฎหมายไม่รับรองคุ้มครอง 2. ต้องวิเคราะห์ว่าการกระทำของผู้ที่ได้นำเอาทรัพย์สินมาขายให้นั้น มีความผิด 8 ฐานตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เช่น ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง กระโชก รีดเอาทรัพย์ (ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๗)3.ราคาของทรัพย์สินที่ซื้อเทียบกับราคาท้องตลาด หากแตกต่างกันมาก เช่น ซื้อต่ำกว่าราคาปกติมาก อาจมีข้อพิรุธว่าจำเลยรู้ว่าทรัพย์มาจากการกระทำความผิด(ราคาตลาด 130,000บาทรับซื้อแค่ 3,500 บาท) 4.ผู้ขายมีข้อพิรุธหรือไม่ เช่น อายุ อาชีพ รายได้ รูปลักษณ์ลักษณะ บุคลิกภาพ ไม่ได้ขายของเป็นอาชีพ ฯลฯ (ตัวอย่าง เด็กเอาทองไปขายให้ห้างทอง) 5.ลักษณะทรัพย์สิน  มีข้อพิรุธ มีทะเบียนของทรัพย์สิน หรือไม่เช่น มีร่องรอยการ ขูด เขียน ลบ ต่อเติม เสริมแต่ง หรือหากว่าเป็นทรัพย์สินที่มีทะเบียน แต่จำเลยไม่ได้ตรวจสอบ อาจแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ไม่ดี (หากเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีทะเบียนอาจจะยากต่อการตรวสอบ เช่น พระเครื่อง ) 6.มีการออกหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ ในการรับซื้อทรัพย์สิน หรือไม่เช่น เอกสาร สัญญา บัญชี ใบเสร็จรับเงิน ทะเบียน อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีการรับซื้อด้วยความสุจริต แต่หากไม่มีการออกหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ อาจส่อให้เห็นถึงความมีพิรุธหรือเจตนารมณ์ที่ไม่ดีได้7.การกระทำของจำเลยที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ  เช่น การไม่หลบหนี การให้การที่เป็นประโยชน์ ตรงไปตรงมา ไม่ปกปิด ส่อให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจ แต่หากมีการกระทำในลักษณะไม่ให้ความร่วมมือ เช่น ปกปิด หลบเลี่ยง ไม่พูดความจริง อาจแสดงให้เห็นข้อพิรุธทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทนายโทนี่

คดี รับของโจร มีประเด็นข้อต่อสู้ ดังนี้ 1. เจ้าของทรัพย์สินที่นำไปขายนั้น เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่แท้จริงหรือไม่แต่หากว่าทรัพย์สินนั้นผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด กฎหมายไม่รับรองคุ้มครอง 2. ต้องวิเคราะห์ว่าการกระทำของผู้ที่ได้นำเอาทรัพย์สินมาขายให้นั้น มีความผิด 8 ฐานตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เช่น ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง กระโชก รีดเอาทรัพย์ (ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๗)3.ราคาของทรัพย์สินที่ซื้อเทียบกับราคาท้องตลาด หากแตกต่างกันมาก เช่น ซื้อต่ำกว่าราคาปกติมาก อาจมีข้อพิรุธว่าจำเลยรู้ว่าทรัพย์มาจากการกระทำความผิด(ราคาตลาด 130,000บาทรับซื้อแค่ 3,500 บาท) 4.ผู้ขายมีข้อพิรุธหรือไม่ เช่น อายุ อาชีพ รายได้ รูปลักษณ์ลักษณะ บุคลิกภาพ ไม่ได้ขายของเป็นอาชีพ ฯลฯ (ตัวอย่าง เด็กเอาทองไปขายให้ห้างทอง) 5.ลักษณะทรัพย์สิน มีข้อพิรุธ มีทะเบียนของทรัพย์สิน หรือไม่เช่น มีร่องรอยการ ขูด เขียน ลบ ต่อเติม เสริมแต่ง หรือหากว่าเป็นทรัพย์สินที่มีทะเบียน แต่จำเลยไม่ได้ตรวจสอบ อาจแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ไม่ดี (หากเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีทะเบียนอาจจะยากต่อการตรวสอบ เช่น พระเครื่อง ) 6.มีการออกหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ ในการรับซื้อทรัพย์สิน หรือไม่เช่น เอกสาร สัญญา บัญชี ใบเสร็จรับเงิน ทะเบียน อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีการรับซื้อด้วยความสุจริต แต่หากไม่มีการออกหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ อาจส่อให้เห็นถึงความมีพิรุธหรือเจตนารมณ์ที่ไม่ดีได้7.การกระทำของจำเลยที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ เช่น การไม่หลบหนี การให้การที่เป็นประโยชน์ ตรงไปตรงมา ไม่ปกปิด ส่อให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจ แต่หากมีการกระทำในลักษณะไม่ให้ความร่วมมือ เช่น ปกปิด หลบเลี่ยง ไม่พูดความจริง อาจแสดงให้เห็นข้อพิรุธทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทนายโทนี่

คดี รับของโจร มีประเด็นข้อต่อสู้ ดังนี้ 1. เจ้าของทรัพย์สินที่นำไปขายนั้น เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่แท้จริงหรือไม่แต่หากว่าทรัพย์สินนั้นผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด กฎหมายไม่รับรองคุ้มครอง 2. ต้องวิเคราะห์ว่าการกระทำของผู้ที่ได้นำเอาทรัพย์สินมาขายให้นั้น มีความผิด 8 ฐานตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เช่น ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง กระโชก รีดเอาทรัพย์ (ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๗)3.ราคาของทรัพย์สินที่ซื้อเทียบกับราคาท้องตลาด หากแตกต่างกันมาก เช่น ซื้อต่ำกว่าราคาปกติมาก อาจมีข้อพิรุธว่าจำเลยรู้ว่าทรัพย์มาจากการกระทำความผิด(ราคาตลาด 130,000บาทรับซื้อแค่ 3,500 บาท) 4.ผู้ขายมีข้อพิรุธหรือไม่ เช่น อายุ อาชีพ รายได้ รูปลักษณ์ลักษณะ บุคลิกภาพ ไม่ได้ขายของเป็นอาชีพ ฯลฯ (ตัวอย่าง เด็กเอาทองไปขายให้ห้างทอง) 5.ลักษณะทรัพย์สิน มีข้อพิรุธ มีทะเบียนของทรัพย์สิน หรือไม่เช่น มีร่องรอยการ ขูด เขียน ลบ ต่อเติม เสริมแต่ง หรือหากว่าเป็นทรัพย์สินที่มีทะเบียน แต่จำเลยไม่ได้ตรวจสอบ อาจแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ไม่ดี (หากเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีทะเบียนอาจจะยากต่อการตรวสอบ เช่น พระเครื่อง ) 6.มีการออกหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ ในการรับซื้อทรัพย์สิน หรือไม่เช่น เอกสาร สัญญา บัญชี ใบเสร็จรับเงิน ทะเบียน อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า มีการรับซื้อด้วยความสุจริต แต่หากไม่มีการออกหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ อาจส่อให้เห็นถึงความมีพิรุธหรือเจตนารมณ์ที่ไม่ดีได้7.การกระทำของจำเลยที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ เช่น การไม่หลบหนี การให้การที่เป็นประโยชน์ ตรงไปตรงมา ไม่ปกปิด ส่อให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจ แต่หากมีการกระทำในลักษณะไม่ให้ความร่วมมือ เช่น ปกปิด หลบเลี่ยง ไม่พูดความจริง อาจแสดงให้เห็นข้อพิรุธทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทนายโทนี่

คำพิพากษาฎีกา 700 / 2517 จำเลยเป็นภรรยาของผู้ตาย โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส จำเลยจึงไม่ใช่ภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย อันจะถือว่าเป็นทายาทโดยธรรมที่จะมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายได้ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของผู้ตายจึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1737 ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์(ทนายโทนี่)

คำพิพากษาฎีกา 700 / 2517 จำเลยเป็นภรรยาของผู้ตาย โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส จำเลยจึงไม่ใช่ภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย อันจะถือว่าเป็นทายาทโดยธรรมที่จะมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายได้ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของผู้ตายจึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1737 ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์(ทนายโทนี่)

คำพิพากษาฎีกา 700 / 2517 จำเลยเป็นภรรยาของผู้ตาย โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส จำเลยจึงไม่ใช่ภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย อันจะถือว่าเป็นทายาทโดยธรรมที่จะมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายได้ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของผู้ตายจึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1737 ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์(ทนายโทนี่)

สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดพะเยา   จัดโครงการพัฒนาพฤตินิสัยผู้กระทำผิดในระบบงานคุมประพฤติ  เรื่อง “กฎหมายจราจรที่ควรทราบและผลกระทบของการขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุรา”             กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพะเยา วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 นาฬิกา เรื่อง “กฎหมายจราจรที่ควรทราบและผลกระทบของการขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุรา” โดยได้รับเกียรติวิทยากรให้ความรู้จาก ดร.สุทธิชัย  ปัญญโรจน์ โดยมีผู้ถูกคุมความประพฤติเข้าร่วม จำนวน 89 คน ณ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพะเยา ชั้น 3 อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดพะเยา

สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดพะเยา จัดโครงการพัฒนาพฤตินิสัยผู้กระทำผิดในระบบงานคุมประพฤติ เรื่อง “กฎหมายจราจรที่ควรทราบและผลกระทบของการขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุรา” กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพะเยา วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 นาฬิกา เรื่อง “กฎหมายจราจรที่ควรทราบและผลกระทบของการขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุรา” โดยได้รับเกียรติวิทยากรให้ความรู้จาก ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ โดยมีผู้ถูกคุมความประพฤติเข้าร่วม จำนวน 89 คน ณ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพะเยา ชั้น 3 อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดพะเยา

สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดพะเยา

จัดโครงการพัฒนาพฤตินิสัยผู้กระทำผิดในระบบงานคุมประพฤติ

เรื่อง “กฎหมายจราจรที่ควรทราบและผลกระทบของการขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุรา”

กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพะเยา วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 นาฬิกา เรื่อง “กฎหมายจราจรที่ควรทราบและผลกระทบของการขับขี่ยานพาหนะขณะเมาสุรา” โดยได้รับเกียรติวิทยากรให้ความรู้จาก ดร.สุทธิชัย  ปัญญโรจน์ โดยมีผู้ถูกคุมความประพฤติเข้าร่วม จำนวน 89 คน ณ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพะเยา ชั้น 3 อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดพะเยา