by Y | Oct 24, 2024 | ข่าวสารเว็บไซต์, ข่าวโปรโมชั่น, ทั่วไป อื่นๆ, ออนไลน์น่ารู้, แนะนำสินค้าและบริการ
ข้อดีของประตูไฮสปีด: เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงการเข้าถึงและความปลอดภัย
ประตูไฮสปีด (High-Speed Door) เป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมในหลายอุตสาหกรรม เช่น โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า และสถานที่จัดเก็บสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ที่ต้องการการเข้าถึงรวดเร็วและความปลอดภัยสูง
นี่คือข้อดีหลักๆ ของประตูไฮสปีดที่ควรพิจารณา

ความเร็วในการเปิด-ปิด
ประตูไฮสปีดมีการออกแบบให้เปิดและปิดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยลดเวลารอคอยและเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายสินค้าและบุคคลภายในพื้นที่ การมีประตูที่เปิดปิดเร็วช่วยให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ประหยัดพลังงาน
การใช้ประตูไฮสปีดช่วยในการควบคุมอุณหภูมิและลดการสูญเสียพลังงาน โดยเฉพาะในสถานที่ที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิ เช่น โรงงานผลิตอาหารหรือห้องเย็น ประตูที่เปิด-ปิดอย่างรวดเร็วจะช่วยลดการสูญเสียอากาศเย็นหรือต้องร้อน
ความปลอดภัยสูง
ประตูไฮสปีดมักมีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการเปิด-ปิดประตู นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบให้ทนทานต่อการชนจากรถบรรทุกหรือยานพาหนะอื่นๆ
การเข้าถึงที่สะดวก
การออกแบบให้ประตูเปิดได้อย่างรวดเร็วช่วยให้บุคคลหรือยานพาหนะสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างสะดวก ทำให้การขนส่งสินค้าหรือการดำเนินงานในพื้นที่ต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ลดเสียงรบกวน
ประตูไฮสปีดสามารถลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ เนื่องจากสามารถปิดสนิทได้อย่างรวดเร็ว ช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่เงียบสงบและมีสมาธิมากขึ้น
การบำรุงรักษาต่ำ
ประตูไฮสปีดมักมีโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทาน ทำให้ต้องการการบำรุงรักษาน้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับประตูประเภทอื่น การลงทุนในระบบประตูนี้จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
สรุป
ประตูไฮสปีดเป็นเทคโนโลยีที่มีข้อดีมากมาย ทั้งในด้านความเร็ว ความปลอดภัย และการประหยัดพลังงาน การเลือกใช้ประตูไฮสปีดในธุรกิจหรือโรงงานจึงสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และทำให้การเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว
JEERAWAT S.C.GROUP CO.,LTD.
บริษัท จีระวัฒน์ เอส.ซี.กรุ๊ป จำกัด เราเป็นผู้นำทางด้านระบบขนถ่ายสินค้าภายในโรงงานอุตสหกรรมที่ครบวงจร รวมทั้งยังเป็นผู้ให้บริการ จำหน่าย ออกแบบและติดตั้ง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบขนถ่ายสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ อันได้แก่ , ประตูไฮสปีด High speed door, ประตูโหลดสินค้า Overhead sectional door, ประตูห้องเย็น Cold storage door, สะพานปรับระดับโหลดสินค้า Loading dock leveler, อุโมงค์โหลดสินค้าคลุมท้ายรถ Loading dock shelter, พัดลมยักษ์ขนาดใหญ่ HVLS fan, ประตูอุตสาหกรรม Industrial doors พร้อมทีมงานติดตั้งที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 15 ปี เราคัดสรรสินค้าคุณภาพดีจากฝั่งยุปโรปและเอเซีย มาให้ลูกค้าได้เลือกใช้งานตามความต้องการและความเหมาะสมโรงงานของลูกค้า
Project Dept. : 093 7896416, 061 8793236
Sales Dept. : 094 7829361, 098 6323235
by SompitMekmok | Oct 24, 2024 | ทั่วไป อื่นๆ, แนะนำสินค้าและบริการ
ไม้บัว: เติมเต็มความสวยงามและฟังก์ชันให้บ้าน
ไม้บัว หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อบัวพื้น นั้นไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่เป็นขอบหรือเส้นแบ่งระหว่างผนังกับพื้นเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการตกแต่งและเสริมสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับการออกแบบภายในบ้านอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงฟังก์ชันที่ซ่อนอยู่ของไม้บัว และวิธีการเลือกใช้ไม้บัวให้เข้ากับสไตล์บ้านแต่ละแบบ เพื่อให้บ้านของคุณดูสวยงามและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
ไม้บัว…มากกว่าแค่ขอบ: ฟังก์ชันที่คุณอาจคาดไม่ถึง
นอกจากการตกแต่งให้บ้านดูมีมิติและสวยงามแล้ว ไม้บวยังมีฟังก์ชันที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น
- ปกปิดรอยต่อ: ไม้บัวช่วยปกปิดรอยต่อระหว่างผนังกับพื้น ทำให้บ้านดูเรียบร้อยและสวยงามมากขึ้น
- ป้องกันผนัง: ช่วยป้องกันผนังจากความเสียหายที่อาจเกิดจากการกระแทกหรือการทำความสะอาด
- ป้องกันความชื้น: ไม้บัวบางชนิดสามารถช่วยป้องกันความชื้นไม่ให้ซึมเข้าไปในผนังได้
- แบ่งโซนพื้นที่: ไม้บัวสามารถใช้แบ่งโซนพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้าน เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร หรือห้องนอน
- เพิ่มความอบอุ่น: ไม้บัวทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ ทำให้บ้านดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
เสริมเสน่ห์ให้บ้านด้วยไม้บัว: เลือกให้เข้ากับสไตล์
การเลือกใช้ไม้บัวให้เข้ากับสไตล์บ้านเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บ้านของคุณดูสวยงามและลงตัวมากยิ่งขึ้น โดยสามารถพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- วัสดุ: ไม้บัวมีหลากหลายวัสดุให้เลือก เช่น ไม้จริง ไม้สังเคราะห์ หรือ PVC แต่ละวัสดุจะมีลักษณะและความเหมาะสมแตกต่างกันไป
- สี: สีของไม้บัวควรเลือกให้เข้ากับสีของผนังและเฟอร์นิเจอร์ในห้อง
- ลวดลาย: ไม้บัวมีทั้งแบบเรียบและแบบมีลวดลาย การเลือกแบบที่มีลวดลายควรเลือกให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งของบ้าน
- ขนาด: ขนาดของไม้บัวควรเลือกให้เหมาะสมกับความสูงของผนังและขนาดของห้อง
เทคนิคการเลือกไม้บัวให้เข้ากับสไตล์บ้านแต่ละแบบ
- สไตล์โมเดิร์น: เลือกไม้บัวที่มีเส้นสายเรียบง่าย สีขาวหรือสีเทา และวัสดุที่ดูทันสมัย เช่น สแตนเลส หรืออะคริลิก
- สไตล์วินเทจ: เลือกไม้บัวที่มีลวดลายดอกไม้ หรือลายเส้นโค้งมน สีโทนอบอุ่น เช่น สีครีม สีน้ำตาล หรือสีทอง
- สไตล์ลอฟท์: เลือกไม้บัวที่มีผิวสัมผัสดิบๆ สีเทาเข้ม หรือสีดำ วัสดุที่ดูแข็งแรง เช่น เหล็ก หรือคอนกรีต
- สไตล์คลาสสิก: เลือกไม้บัวที่มีลวดลายปราณีต สีขาว สีครีม หรือสีทอง วัสดุที่ดูหรูหรา เช่น ไม้จริง หรือไม้สังเคราะห์ที่มีลายไม้
สรุป
ไม้บัวไม่ใช่แค่ขอบที่ใช้ตกแต่งบ้าน แต่ยังมีฟังก์ชันที่หลากหลายและสามารถช่วยเพิ่มความสวยงามและความสมบูรณ์แบบให้กับการออกแบบภายในบ้านได้ การเลือกใช้ไม้บัวให้เหมาะสมจะช่วยให้บ้านของคุณดูมีสไตล์และน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
by Y | Oct 24, 2024 | ข่าวสารเว็บไซต์, ข่าวโปรโมชั่น, ทั่วไป อื่นๆ, สุขภาพ, ออนไลน์น่ารู้, แนะนำสินค้าและบริการ
รถป๊อปไฟฟ้า (Electric Pop Car) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับการเดินทางในพื้นที่เมืองและเขตที่มีการจราจรหนาแน่น เนื่องจากความสะดวกในการขับขี่และการจอดรถที่ง่ายดาย รถป๊อปไฟฟ้ามีลักษณะพิเศษที่ทำให้เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้ต่าง ๆ
ซึ่งข้อดีเหล้าดีรวมไปถึงการรับเทิร์นรถไฟฟ้า

ผู้สูงอายุ
ความสะดวกสบายในการขับขี่ รถป๊อปไฟฟ้ามีการควบคุมที่ง่ายและสะดวก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่อาจมีทักษะการขับขี่ที่จำกัด
การขึ้น-ลงรถง่าย การออกแบบที่ทำให้การขึ้นและลงรถง่าย เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่อาจมีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว
ความปลอดภัย ระบบเบรกและการออกแบบที่มั่นคงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
ผู้ที่อาศัยในเมือง
การเดินทางในพื้นที่แคบ รถป๊อปไฟฟ้าสามารถเคลื่อนที่ในพื้นที่แคบและสามารถจอดได้ง่ายในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด
ประหยัดเวลา ด้วยขนาดที่เล็กและการจัดการที่ง่าย รถป๊อปไฟฟ้าช่วยให้การเดินทางในเมืองสะดวกและรวดเร็ว
นักศึกษา
ค่าใช้จ่ายที่ต่ำ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการใช้งานของรถป๊อปไฟฟ้าต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไป เหมาะสำหรับนักศึกษาที่มีงบประมาณจำกัด
การจอดรถที่สะดวก ขนาดเล็กทำให้การจอดรถในพื้นที่จอดรถของมหาวิทยาลัยหรือหอพักสะดวกขึ้น
คนทำงาน
การเดินทางระยะสั้น รถป๊อปไฟฟ้าสำหรับการเดินทางระยะสั้น เช่น การเดินทางจากบ้านไปที่ทำงานหรือการไปยังสถานที่ใกล้เคียง
การใช้พลังงานที่ประหยัด การขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
คนที่สนใจในเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถป๊อปไฟฟ้าช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 และมลพิษทางอากาศ เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
เทคโนโลยีล้ำสมัย ผู้ที่สนใจในเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าจะพบว่ารถป๊อปไฟฟ้ามีคุณสมบัติที่น่าสนใจ
ผู้ที่มีความต้องการพิเศษ
ความสะดวกในการเข้าถึง รถป๊อปไฟฟ้าบางรุ่นมีการออกแบบที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการพิเศษ เช่น การติดตั้งอุปกรณ์เสริมสำหรับผู้ที่มีความต้องการพิเศษด้านการเคลื่อนไหว
ข้อพิจารณาในการเลือกใช้รถป๊อปไฟฟ้า
ระยะทางการขับขี่ ตรวจสอบว่ารถป๊อปไฟฟ้าสามารถเดินทางได้ตามระยะทางที่ต้องการในแต่ละวัน
ความจุของแบตเตอรี่ เลือกขนาดของแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
พื้นที่การจัดเก็บ พิจารณาความสะดวกในการจัดเก็บและการชาร์จไฟของรถป๊อปไฟฟ้าและการรับเทิร์นรถไฟฟ้า
สรุป
รถป๊อปไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับกลุ่มผู้ใช้หลากหลายประเภท รวมถึงผู้สูงอายุ, ผู้ที่อาศัยในเมือง, นักศึกษา, คนทำงาน, และผู้ที่สนใจในเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ด้วยการออกแบบที่เหมาะสมและประสิทธิภาพที่ดี รถป๊อปไฟฟ้าจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นและมีข้อจำกัดด้านพื้นที่การจอดรถ
เนื่องด้วยจากความสะดวกในการขับขี่และการจอดรถที่ง่ายดาย รถสามล้อไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเดินทางในเมืองและการใช้งานประจำวัน โดยเฉพาะในยุคที่ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการประหยัดค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งสำคัญโดยมีการรับเทิร์นรถไฟฟ้า
รถสามล้อไฟฟ้า UPOP
รถสามล้อไฟฟ้า ใช้ได้ทั้งผู้สูงอายุและใช้งานทั่วไป มีหลายรูปแบบให้เลือก รถสามล้อไฟฟ้านำเข้าหลายแบบ หลายขนาด รับประกันคุณภาพ ส่งถึงบ้าน พร้อมสอนการใช้งานรับเทิร์นรถไฟฟ้า
ข้อมูลการติดต่อ
LINE ID : 0993407776
เบอร์โทรศัพท์ : 099-340-7776
by drsuthichai | Oct 24, 2024 | การศึกษา, ทั่วไป อื่นๆ
ตั้งเป้าหมายในชีวิต…สู่ความสำเร็จ
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
ชาวประมงเดินเรือยังต้องมีเข็มทิศ คุณจะดำเนินชีวิตคุณจำเป็นจะต้องมีเป้าหมาย
เป้าหมายมีความสำคัญมากในการดำเนินชีวิต คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตกับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น มีความแตกต่างกันหลายประการ แต่สิ่งหนึ่งที่คนประสบความสำเร็จมีเหมือนกันเกือบทุกคนนั้นก็คือ “ เป้าหมาย”
จากงานวิจัยของนักวิชาการชาวสหรัฐหลายท่าน ได้ระบุตรงกันว่า การที่คนจำนวน 90-95 เปอร์เซ็นต์ มีความล้มเหลวในชีวิตเนื่องจาก การไม่มีเป้าหมายในชีวิตนั้นเอง แต่ตรงกันข้ามกับคนจำนวนเพียงแค่ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ที่ประสบความสำเร็จ ก็เนื่องจากบุคคลเหล่านี้มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าตนเองมีความต้องการอะไร อีกทั้งยังมีแผนการที่แน่นอนในการทำงาน
จากงานวิจัยยังระบุเพิ่มเติมว่า จำนวนคนที่ล้มเหลว 90-95 เปอร์เซ็นต์ นั้นมักไม่ผูกพันกับงานที่ตนเองทำหรือทำงานที่ตนเองไม่ชอบ แต่ในขณะที่คนจำนวน 5-10 เปอร์เซ็นต์ มักผูกพันในงานที่ตนเองทำหรือทำงานที่ตนเองชอบที่สุด
จากงานวิจัยข้างต้น จึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสียใจ ที่คนส่วนใหญ่ในโลก ใช้ชีวิตโดยปราศจากเป้าหมายชีวิต อีกทั้งยังไม่มีความสุขในการทำงานเนื่องจาก คนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำงานในงานที่ตนเองรัก
สำหรับหลายท่านมีเป้าหมายในชีวิตแล้ว แต่ทำไมไม่มีพลังในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายในชีวิต จากการอ่านค้นคว้าและศึกษา ของกระผม ได้ข้อสรุปดังนี้
1.ท่านขาดความจริงจัง ท่านขาดการหมกมุ่น ท่านขาดความปรารถนาอย่างแรงกล้าในเป้าหมายที่ท่านวางไว้
2.ท่านขาดความถี่ในการคิดหรือฝันในเป้าหมายของท่าน จงคิดและฝันทุกๆวันและบ่อยๆ
3.ท่านขาดการเขียนมันออกมาให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น จงเขียนลงในกระดาษ จงสร้างภาพฝันโดยการ หารูป บุคคลหรือสิ่งที่ท่านต้องการเป็นมาติดตามผนังบ้าน ประตู เพื่อย้ำความทรงจำ
4.ความฝันหรือเป้าหมายของท่านเล็กเกินไป การตั้งเป้าหมายเล็กเกินไป ทำให้ท่านไม่อยากที่จะลงมือทำ เช่น ตั้งเป้าหมายว่าอยากมีเงิน 100,000 บาท กับตั้งเป้าหมายว่าอยากมีเงิน 1,000,000 บาท ทำให้ความตั้งใจและการมีพลังในการทำต่างกัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องตั้งเป้าหมายให้ใหญ่มากๆ เช่น ตั้งเป้าหมายว่าอยากได้เงิน 100,000,000 บาท อย่างนี้อาจทำให้ท่านหมดกำลังใจ เลิกทำแล้วทำให้ไม่ประสบความสำเร็จได้
5.ท่านขาดความเชื่อมั่นในตนเองหรือคิดว่าท่านทำไม่ได้ การคิดลบมักทำให้หมดพลัง แต่การคิดบวก ว่าตนเองทำได้ ทำให้เกิดพลัง จงคิดบวกบ่อยๆและสม่ำเสมอ
6.ท่านจะต้องประกาศให้คนอื่นๆได้รู้ถึงเป้าหมาย ถึงความฝันของท่าน จงกล้าที่จะประกาศ เพราะ การกล้าที่จะประกาศจะทำให้มีคนค่อยเตือนท่าน หรือ หากท่านทำไม่ได้ท่านก็จะอาย ท่านจะเกิดพลังเพิ่มมากขึ้น
ทั้ง 6 ประการข้างต้น จึงเป็นเทคนิคที่ทำให้ท่านเกิดพลังขึ้นในการทำงานเพื่อไปสู่เป้าหมายชีวิต จงลงมือปฏิบัติแล้วท่านจะเห็นผลที่เกิดขึ้น

#image_title
by drsuthichai | Oct 24, 2024 | การศึกษา, ทั่วไป อื่นๆ
ใจมีฝัน ใจมีหวัง ใจยังสู้….ดังนั้นมันจึงสู้ตาย
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
“ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ” เนื้อหาบางตอนของเนื้อเพลง “ ศรัทธา ” ของวงหินเหล็กไฟ ยังก้องอยู่ในหัวใจของกระผม เมื่อกระผมรู้สึก ท้อแท้ หมดกำลังใจในบางช่วงของชีวิต
หลายๆคนมีความฝัน แต่คนที่มีความฝันส่วนใหญ่มักไปไม่ถึงความฝัน ก็เนื่องมาจากหลายสาเหตุคือ
1.บางคนเป็นคนไม่มีเป้าหมายของชีวิต การมีเป้าหมายในชีวิตเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก เป้าหมายในชีวิตจะทำให้เราสามารถกำหนดทิศทางในชีวิตของเราได้ ว่าเราต้องการอะไรอย่างแท้จริง
2.บางคนไม่มีวิธีการที่จะนำไปสู่ความฝัน เมื่อมีเป้าหมายในชีวิตแล้ว การวางแผน การกำหนดวิธีการเป็นขั้นเป็นตอน มีความสำคัญมากเพราะจะทำให้เราใช้เวลาในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือน ปี ตามเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง
3.บางคนไม่มีความหวังและไม่มีความศรัทธาในตนเอง หลายคนไม่มีความศรัทธาในตนเอง คิดว่าตนเองทำไม่ได้ คิดว่าตนเองเป็นเด็กต่างจังหวัดสู้เด็กกรุงเทพฯไม่ได้ หลายคนคิดว่าไม่ได้เรียนมาสูง หลายคนคิดว่าไม่มีทุน แต่ความจริงสิ่งต่างๆนั้น เป็นข้ออ้างทั้งนั้น เมื่อเรามีเป้าหมาย เรามีการวางแผนแล้ว เราจะต้องมีความเชื่อมั่นว่าเราทำได้
4.บางคนไม่ยอมที่จะต่อสู้เพื่อได้ฝันนั้น หลายคนเมื่อมีปัญหา มักจะจดจ่ออยู่กับปัญหาหรืออุปสรรคเป็นเวลานานๆ จนทำให้ตนเอง หมดกำลังใจหรือหมดพลังไป คนเราเกิดมาทุกคนย่อมมีปัญหา แต่อาจมีความแตกต่างในเรื่องที่ประสบพบเจอ ทั้งนี้คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะอดทน ต่อสู้ กับปัญหาต่างๆที่เขาได้เจอ
5.บางคนเมื่อมีฝันแล้วไม่ยอมที่จะลงทุน หลายคนมีความฝันแต่ไม่กล้าที่จะลงทุน ความฝัน เป้าหมายในชีวิต เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ หากคุณต้องการ คุณต้องยอมที่จะลงทุน ลงแรง เช่น คุณจะต้องย่อมลงทุนที่จะพัฒนาตนเอง คุณจะต้องย่อมลงทุนในการอ่านหนังสือ ฟังวิชาการ ไปอบรม คุณจะต้องยอมลงทุนในการทำมันสร้างมันให้เกิดขึ้น คุณจะต้องยอมลงทุนกับการเสียเวลาไปกับมัน
สำหรับวิธีการที่จะนำเราไปสู่ความฝันให้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ท่านสามารถทำได้ดังนี้
1.แสวงหาบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวคุณเอง บางคนอยากเป็นนักร้องอย่างพี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ คุณก็สามารถทำได้โดยการศึกษาวิธีการ ประวัติชีวิตของพี่เบิร์ด แล้วนำเอาเทคนิคต่างๆ ของพี่เบิร์ด มาใช้ , บางคนอยากจะเป็นนักเขียน ก็ลองค้นหาดูว่า ท่านชอบวิธีการเขียน ของใคร แล้ว นำแนวทางการเขียนของเขามาเป็นแบบอย่าง
2.ฝึกพูดให้กำลังใจกับตัวเองในทุกๆวัน และทุกๆโอกาส เช่น ฉันทำได้ , ฉันเก่งที่สุด , ฉันมีความเชื่อมั่น, ฉันเต็มทีกับเป้าหมาย, ฉันยอดเยี่ยม ฯลฯ การพูดให้กำลังใจกับตัวเองทุกๆวัน จะทำให้ท่านเกิดพลังในการต่อสู้กับเหตุการณ์ต่างๆ
3.ฝึกเดิน ฝึกท่าทาง เลียนแบบผู้ที่ประสบความสำเร็จ หากท่านลองสังเกตดูบุคคลที่ประสบความสำเร็จมักมีท่าทางที่กระตือรือร้น กระฉับกระเฉง ยิ้มแย้มแจ่มใส ดูแล้วมีพลัง ตรงกันข้ามกับบุคคลธรรมดาโดยทั่วไป มักมีท่าทาง ที่ไม่กระตือรือร้น เดินช้า ไม่มีความกระฉับกระเฉง ดังนั้น หากว่าคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จ ท่านควรถอดแบบท่าทางการเดิน การยืน การพูดของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับตัวของคุณเอง
4.ฝึกคิดในแง่ดี แง่บวก ให้มากขึ้น หลายๆคน มีความคิดที่ลบอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตนเองไม่เกิดความเชื่อมั่น และไม่กล้าที่จะสร้างสรรค์งานแปลกๆ ใหม่ๆ ขึ้น บุคคลที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ เขาจะมีความคิดที่บวกมากกว่าความคิดในเชิงลบ
5.ฝึกฟังเพลง อ่านหนังสือ ฟังเทป ฟังการพูด ที่เกี่ยวข้องกับการให้กำลังใจ ให้แง่คิด ซึ่งจะทำให้เราเกิดพลังในตนเองขึ้นมา เช่น ฟังเพลง ขออย่ายอมแพ้ , รางวัลแด่คนช่างฝัน , กำลังใจ , ฝันมีชีวิต , ความฝันอันสูงสุด หรือ ฟังเทปวิชาการของบันดาลนักพูดที่เขาประสบความสำเร็จในชีวิตในระดับที่สูง เป็นต้น
หากท่านมีความฝัน ท่านจำเป็นจะต้องมีความหวัง ท่านจำเป็นจะต้องต่อสู้ เพื่อไปให้ถึงฝัน สุดท้ายนี้กระผมเชื่อว่า ท่านทำได้อย่างแน่นอน ขอให้ท่านประสบความสำเร็จในชีวิตและไปให้ถึงฝั่งฝันทุกๆคนครับ

#image_title
by drsuthichai | Oct 24, 2024 | ทั่วไป อื่นๆ
ก้าวเดินคลานไปให้ถึงจุดสุดยอดของชีวิต
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
วิลเลี่ยม เจมส์ นักจิตวิทยาชื่อดังของสหรัฐ กล่าวว่า “ คนโดยทั่วไปใช้ศักยภาพอันโดดเด่นของตนเองเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”
นั่นหมายความว่า คนเราส่วนใหญ่ใช้ความสามารถ ใช้ขุมทรัพย์ที่มีอยู่ในร่างกายและจิตใจของเรา เพียงน้อยนิด แล้วเราจะทำอย่างไรถึงจะเรียกใช้ ศักยภาพในตัวของเราให้มากยิ่งขึ้น คำตอบก็คือ ท่านสามารถเรียกใช้ศักยภาพของตนเองให้มากขึ้นด้วยเทคนิคดังนี้
1.ท่านจะต้องรู้จักตั้งเป้าหมายชีวิต เป้าหมายชีวิตมีความสำคัญมาก คนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตเปรียบเสมือนเรือที่ไม่มีหางเสือ เรือลำนั้นก็มักจะลอยอยู่กลางทะเล มักไปไม่ถึงฝั่ง การตั้งเป้าหมายชีวิตจะทำให้เรานำศักยภาพมาใช้ได้มากยิ่งขึ้น เช่น ผู้นำในประวัติศาสตร์โลกในหลายประเทศ บางท่านตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นประธานาธิบดี จึงทำให้เขาเหล่านั้นพัฒนาตนเองในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพูด การเขียน การพัฒนาบุคลิกภาพ การพัฒนาความคิดการศึกษาหาความรู้จากการฟัง การอ่านหนังสือต่างๆ เป็นต้น
2.ท่านจะต้องปลุกตัวเองให้มีความกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา ฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายให้เคลื่อนไหวร่างกายให้เร็วขึ้น ฝึกพัฒนาความคิด ฝึกการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนมีชีวิตชีวา ฝึกยิ้มเยอะๆ ยิ้มเก่งๆ ฝึกทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง
3.ท่านจะต้องกล้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาดหรือกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง หากว่าท่านมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าจะลดน้ำหนัก ท่านจะสามารถลดน้ำหนักได้ การตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังหมายถึง การตัดสิ่งที่คุณสนใจอย่างอื่นๆทิ้งให้หมด ให้เหลืออยู่เฉพาะสิ่งที่คุณสนใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจังเท่านั้น
4.ท่านจะต้องมีการวางแผนที่ดี แฟรงค์ เบทเจอร์ นักขายประกันชีวิตแนวหน้าของอเมริกา เขาได้เตรียมแผนการหรือวางแผนการทำงานตอนกลางคืนว่าจะทำอะไร จะติดต่อใคร แล้วก็ออกไปทำงานตามแผนการที่วางเอาไว้ในตอนเช้า
5.ท่านจะต้องหาบุคคลที่เป็นต้นแบบ หากว่าท่านต้องการประสบความสำเร็จด้านใด ท่านควรหาต้นแบบและทำการศึกษาประวัติ เทคนิค วิธีการต่างๆ ที่เขาใช้ แล้วท่านลองทำตาม ท่านก็จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
6.ท่านจะต้องฝันหรือจินตนาการ สิ่งที่ท่านต้องการที่จะประสบความสำเร็จในทุกๆวัน การจินตนาการจะดึงดูดสิ่งที่ท่านปรารถนาเข้ามาในชีวิต เคยมีการทดลองในสหรัฐอเมริกา โดยเอานักบาสเกตบอลมา 3 คน คนแรกให้ซ้อมตามปกติ คนที่สองไม่ให้ซ้อมและคนที่สาม ให้ฝึกซ้อมในจินตนาการ โดยมีการกำหนดเวลาทดลอง 2 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า คนที่หนึ่งกับคนที่สาม ทำคะแนนได้ใกล้เคียงกัน ส่วนคนที่สอง คะแนนแย่ลงกว่าเดิมมาก ดังนั้น ท่านจึงควรฝึกจินตนาการให้บ่อยๆ
7.ท่านจะต้องฝึกพูด ฝึกให้กำลังใจตนเอง ในแง่บวกอยู่เสมอ การฝึกพูดในแง่บวกกับตนเองจะเป็นการโปรแกรมสิ่งต่างๆ ที่เราพูดลงไปในสมอง เช่น ฉันทำได้ , ฉันมีพลัง , ฉันเก่ง , ฉันสุดยอด , ฉันยอดเยี่ยม ฯลฯ เมื่อท่านฝึกพูดกับตัวเองบ่อยๆ ด้วยเสียงที่ดังๆกับตัวเอง จะทำให้ท่านเกิดความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น
ปัจจัยข้างต้นเหล่านี้ เป็นปัจจัยบางส่วนที่ทำให้ท่านดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้และเกิดการพัฒนาตนเองได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่มีความสำคัญที่สุดก็คือ อย่ามัวแต่อ่าน แต่ขอให้จงลงมือทำอย่างจริงจัง เมื่อเวลาผ่านไป ท่านก็จะพบว่าตนเอง ก้าวมาได้ไกลมากแล้ว จงฝึกฝน ฝึกฝนและฝึกฝน อย่างต่อเนื่องแล้วท่านจะยืนอยู่บนจุดสุดยอดของชีวิตของท่าน

#image_tit