ไม้จาโตบา: สร้างบ้านสวย ทนทาน ป้องกันปลวก พื้นแข็งแรง ยืนยาว

ไม้จาโตบา: สร้างบ้านสวย ทนทาน ป้องกันปลวก พื้นแข็งแรง ยืนยาว

ไม้จาโตบา (Jatoba Wood) นับเป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการสร้างบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความสวยงาม ความแข็งแรงทนทาน และที่สำคัญคือความสามารถในการป้องกันปลวกและแมลง ทำให้บ้านของคุณปลอดภัยจากปัญหาเหล่านี้ได้อย่างยาวนาน

ป้องกันปลวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของไม้จาโตบาคือความสามารถในการป้องกันปลวกและแมลงได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไม้จาโตบามีสารธรรมชาติที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของปลวกและแมลง ทำให้บ้านที่สร้างจากไม้จาโตบาสามารถป้องกันปัญหาปลวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความกังวลเรื่องการซ่อมแซมและค่าใช้จ่ายที่ตามมา

พื้นไม้จาโตบา แข็งแรง ทนทาน สวยงาม

นอกจากการป้องกันปลวกแล้ว ไม้จาโตบายังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำพื้นบ้าน เนื่องจากมีความแข็งแรงทนทานต่อการสึกหรอและการขีดข่วน ทำให้พื้นไม้จาโตบามีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สีสันของไม้จาโตบาที่เป็นธรรมชาติและมีลวดลายที่สวยงาม ยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านของคุณได้อีกด้วย

เหตุผลที่ควรเลือกไม้จาโตบาสำหรับพื้นบ้าน

  • ความแข็งแรง: ทนทานต่อแรงกดและแรงกระแทก เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก
  • ความทนทาน: ทนต่อการสึกหรอและการขีดข่วน ทำให้อายุการใช้งานยาวนาน
  • ความสวยงาม: สีสันและลวดลายของไม้ที่เป็นธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน
  • ป้องกันปลวก: สารธรรมชาติในไม้ช่วยป้องกันปลวกและแมลง
  • เสถียรภาพ: ไม่บวมหรือหดตัวง่ายเมื่อสัมผัสกับความชื้น

สรุป

ไม้จาโตบาเป็นวัสดุที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้านที่สวยงาม ทนทาน และปลอดภัยจากปัญหาปลวก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านความแข็งแรง ความทนทาน และความสวยงาม ทำให้ไม้จาโตบากลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการสร้างบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการทำพื้นบ้าน ไม้จาโตบาจะช่วยให้บ้านของคุณดูสวยงามและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

หากคุณกำลังมองหาวัสดุที่นำมาสร้างบ้านและต้องการความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์พร้อมความแข็งแรงทนทาน และป้องกันปลวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม้จาโตบาคือคำตอบที่คุณกำลังมองหา

กอนซาโล: ไม้แข็งแกร่งที่ยืนหยัดเคียงข้างบ้านคุณ

กอนซาโล: ไม้แข็งแกร่งที่ยืนหยัดเคียงข้างบ้านคุณ

กอนซาโล ไม้เนื้อแข็งจากป่าเขตร้อนชนิดหนึ่ง ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงทนทานเป็นอย่างมาก จึงเป็นที่นิยมนำมาใช้ในการก่อสร้างและตกแต่งบ้านมาช้านาน ความแข็งแกร่งของไม้กอนซาโลนั้นเปรียบเสมือนป้อมปราการที่คอยปกป้องบ้านของคุณให้คงอยู่ได้นานหลายปี

ทำไมไม้กอนซาโลถึงแข็งแรงทนทาน

  • เนื้อไม้ละเอียดแน่น: โครงสร้างของเนื้อไม้กอนซาโลมีความละเอียดและแน่นหนา ทำให้มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อแรงกระแทก และไม่ง่ายต่อการบิดเบี้ยว
  • ความชื้นไม่เข้าถึงง่าย: ธรรมชาติของไม้กอนซาโลมีความสามารถในการป้องกันความชื้นได้ดี ทำให้ไม่เกิดปัญหาเรื่องการบวมหรือการหดตัวเมื่อสัมผัสกับความชื้น
  • ทนต่อแมลงและเชื้อรา: ไม้กอนซาโลมีสารธรรมชาติที่ช่วยป้องกันการกัดกินของแมลงและเชื้อรา ทำให้ไม้คงสภาพเดิมได้นาน
  • ทนต่อสภาพอากาศ: ไม่ว่าจะเป็นแดด ฝน หรือลม ไม้กอนซาโลก็สามารถทนทานได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร

ความลับที่ทำให้ไม้กอนซาโลเป็นที่นิยม

นอกจากความแข็งแรงทนทานแล้ว ไม้กอนซาโลยังมีเสน่ห์ดึงดูดใจอีกมากมาย ทำให้เป็นที่นิยมใช้ในการตกแต่งภายใน

  • ลวดลายสวยงาม: ไม้กอนซาโลมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ สวยงาม และมีความหลากหลาย ทำให้สามารถนำไปออกแบบตกแต่งได้หลากหลายสไตล์
  • สีสันอบอุ่น: สีของไม้กอนซาโลมักจะเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีแดงอมน้ำตาล ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ
  • เพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน: การใช้เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งที่ทำจากไม้กอนซาโล จะช่วยเพิ่มความหรูหราและมูลค่าให้กับบ้านของคุณ
  • ความคงทนยาวนาน: ด้วยความแข็งแรงทนทาน ไม้กอนซาโลจึงสามารถใช้งานได้ยาวนานหลายปี ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนใหม่บ่อยครั้ง

การนำไม้กอนซาโลมาใช้ในบ้าน

ไม้กอนซาโลสามารถนำมาใช้ในการตกแต่งบ้านได้หลากหลายรูปแบบ เช่น

  • เฟอร์นิเจอร์: โต๊ะ เก้าอี้ เตียง ตู้ โซฟา หรือแม้แต่ชั้นวางของ
  • พื้น: ปูพื้นห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องทำงาน
  • ผนัง: ทำผนังตกแต่ง หรือทำเป็นหัวเตียง
  • เคาน์เตอร์: เคาน์เตอร์ครัว หรือเคาน์เตอร์ห้องน้ำ

สรุป

ไม้กอนซาโลเป็นไม้ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นทั้งในด้านความแข็งแรงทนทานและความสวยงาม ทำให้เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในการตกแต่งบ้าน หากคุณกำลังมองหาวัสดุที่สามารถสร้างความแข็งแกร่งและความสวยงามให้กับบ้านของคุณ ไม้กอนซาโลคือคำตอบที่คุณกำลังมองหา

สู่ความสำเร็จ

สู่ความสำเร็จ

สู่ความสำเร็จ…ด้วยความสม่ำเสมอ มากพอ นานพอ
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com

เคยมีคนไปถาม อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ บุคคลที่โลกยกย่องให้เป็นอัจฉริยะว่า คนที่ประสบความสำเร็จเขามีสูตรอย่างไรในการทำงาน อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ให้ข้อแนะนำมา 3 ข้อ สั้นๆคือ “ สม่ำเสมอ มากพอ นานพอ” ซึ่งกระผมขอขยายความดังนี้
สม่ำเสมอ คือ บุคคลที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าอาชีพอะไร เขาจะทำงานด้วยความสม่ำเสมอ ไม่หยุดยั้ง แม้ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้อง แดดจะร้อนสักเพียงใด เขาจะไม่หยุดทำงาน แต่ในทางตรงกันข้าม เขาจะทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการทำงาน คนที่มีความสม่ำเสมอ มักถือว่าเป็นบุคคลที่มีความขยันขันแข็ง เขาจะทำงานจนวันสุดท้ายและท้ายสุดของชีวิตเลยทีเดียว
มากพอ คือ เขาจะมีการตั้งเป้าหมายในการทำงาน เช่น งานเขียนหากตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเขียนให้ได้เพียงวันละ 1 หน้า กับอีกคนตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเขียนให้ได้วันละ 5 หน้า เวลาผ่านไป 1 เดือน สรุปคนแรกเขียนได้ 30 หน้า กับอีกคนเขียนได้ 120 หน้า ท่านคิดว่า ใครจะมีโอกาสเป็นนักเขียนที่เก่งกว่ากันครับ แน่นอนครับคนที่สอง เพราะเขาทำสิ่งนั้น “มากพอ” ครับ
นานพอ คือ คนที่ประสบความสำเร็จมักทำงานในอาชีพที่เขารัก นานพอ ไม่ใช่ทำแค่ วันสองวันถอดใจเสียแล้ว หรือทำแค่ 1 เดือน ก็หยุดทำอย่างนี้คงประสบความสำเร็จได้ยาก แต่คนที่ประสบความสำเร็จในระดับสูงสุด เขาจะทำงานนั้น ตลอดชีวิตของเขา จนกระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้าย
ดังนั้น การทำงาน ด้วยความสม่ำเสมอ มากพอ และนานพอ เป็นแง่คิดของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งท่านได้เสียชีวิตไปนานแล้ว แต่หลักการดังกล่าวยังคงใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

#image_title

วิธีสร้างศักยภาพในตัวเอง

วิธีสร้างศักยภาพในตัวเอง

วิธีปลุกและปลดล็อคศักยภาพในตัวคุณ

โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์

www.drsuthichai.com

 

มนุษย์เราเกิดมาบนโลกนี้มีร่างกายเหมือนกัน ยกเว้นคนพิการ แต่มนุษย์เรามีศักยภาพไม่เหมือนกัน คนพิการบางคนมีศักยภาพมากยิ่งกว่าคนที่มีร่างกายสมบูรณ์ก็มีให้เห็นมาแล้ว   อะไรเป็นตัวกำหนดให้มนุษย์เรา  เกิดการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เพราะหากว่าเราทราบ  เราก็จะสามารถปลุกมันออกมาใช้งานได้

ก่อนอื่นเรามาดูความหมายของคำว่า “ ศักยภาพ ” กันก่อน ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายของคำว่า “ ศักยภาพ ” คือ ภาวะแฝง,อำนาจหรือคุณสมบัติที่มีแฝงอยู่ในสิ่งต่างๆ อาจทำให้พัฒนาหรือให้ปรากฏเป็นสิ่งที่ประจักษ์ได้ เช่น เขามีศักยภาพในการทำงานสูง น้ำตกขนาดใหญ่มีศักยภาพในการให้พลังงานได้มาก เป็นต้น

มนุษย์มีพลังแฝงกันทุกๆคน แต่คนส่วนใหญ่ในโลกน้อยคนนักที่จะปลุกมันออกมาใช้งาน หรือสร้างมันขึ้นมา ตรงกันข้ามคนที่ประสบความสำเร็จมักเป็นคนที่ปลุกพลังแฝงออกมาใช้งาน ในตอนนี้เราจะมาเรียนรู้ หลักการเพื่อที่จะได้นำเอาไปปฏิบัติ หลักการบางประการที่ทำให้คนประสบความสำเร็จในการปลุกศักยภาพมีดังนี้

1.จงสร้างเป้าหมายขึ้นมาในชีวิต คนส่วนใหญ่ในโลกนี้ มักดำเนินชีวิตไปตามเวรตามกรรม ไม่ทราบว่าตนเองต้องการอะไร ตนเองชอบอะไร ตนเองเกิดมาเพื่อที่จะทำสิ่งใด หรือ ไม่ทราบว่าตนเองทำสิ่งนั้นแล้วเกิดความสุขมากที่สุดในชีวิต แต่มนุษย์เราในโลกนี้ กลับดำเนินชีวิตอย่างไม่ค่อยมีความสุข เรามักจะเห็นคนจำนวนมากพร่ำบ่นถึงเรื่องงานที่หนัก เครียด เบื่อ อยากที่จะเปลี่ยนงาน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น คือ เราไม่มีเป้าหมายในชีวิต เราไม่รู้ว่าทิศทางของชีวิตจะไปหนทางไหน เปรียบเสมือน เรือที่ลอยอยู่กลางทะเล ไม่มีเป้าหมายว่าจะไปทิศทางไหน ดังนั้น หากท่านต้องการเพิ่มศักยภาพในตัวท่าน กระผมขอให้ท่านจงเริ่มกำหนด เป้าหมายของชีวิตไว้ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป จงหาเป้าหมายที่ท่านต้องการจริงๆในชีวิต จงหาความต้องการที่แท้จริงของตนเอง

2.จงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า มีคนหลายคนเคยถามกระผมว่า เขาก็มีเป้าหมายในชีวิตแล้ว แต่ทำไม ถึงไม่ประสบความสำเร็จ ผมก็ตอบเขาไปว่า “คุณขาดความปรารถนาอย่างแรงกล้า” เพราะหากท่านมีความต้องการอยากจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้จริงๆ ท่านก็จะคิดถึงมันตลอดเวลา ท่านจะฝันถึงมันตลอดเวลา ท่านก็จะหาวิธีการใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ตนเองได้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้  ผมขอเปรียบเทียบ หากว่าท่านต้องการที่จะขับรถจากกรุงเทพไปภูเก็ตในเวลากลางคืน ท่านไม่เห็นภูเก็ต แต่ไฟด้านหน้ารถส่องไปได้แค่ไม่เกิน 200 เมตร แต่เป้าหมายของท่านคือภูเก็ต ท่านมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะไปภูเก็ตให้ได้ รถก็จะพาท่านเคลื่อนไปจนถึงภูเก็ตในที่สุด  ดังนั้น หากท่านต้องการไปถึงเป้าหมายจงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าต่อเป้าหมายที่ได้วางไว้ จงหมกมุ่นต่อเป้าหมายนั้น

3.ปลุกพลังในตัวคุณอยู่ตลอดเวลา หลายคนมีเป้าหมาย มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าแล้ว แต่เมื่อลงมือทำงานเพื่อไปตามความฝันตนเอง เวลาเกิดปัญหา เกิดอุปสรรค มักท้อแท้ ท้อถอย ดังนั้น หากท่านต้องการประสบความสำเร็จ ท่านควรหล่อเลี้ยงกำลังใจของตนเองตลอดเวลา เช่น ท่านต้องหมั่นคิดบวก พูดบวก กับตนเองบ่อยๆ , ฝึกจินตนาการถึงความสำเร็จบ่อยๆ ,ฝึกสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นต้น

ท้ายนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและเกิดผลลัพธ์ กระผมจึงขอแนะนำให้ท่านทำแบบฝึกหัดดังต่อไปนี้

  1. จงเขียนเป้าหมายเป็นลายลักษณ์อักษร มีการกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน เขียนรายละเอียดต่างๆ ลงไปในกระดาษหรือสมุดบันทึก
  2. หมั่นทบทวนเป้าหมายบ่อยๆ ท่านอาจนำรูปภาพสิ่งต่างๆ ที่ท่านต้องการ โดยตัดภาพนั้นแล้วติดตามห้องที่ท่านสังเกตเห็นได้ง่ายหรือเป็นประจำ
  3. หมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเองตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่ง โดยเข้ารับการอบรม อ่านหนังสือ ฟังการบรรยาย สัมมนา เพื่อที่จะได้นำเทคนิคต่างๆ ไปใช้ได้

#image_title

เหนื่อยไม่ท้อ

เหนื่อยไม่ท้อ

สู้ไม่ถอย…เหนื่อยไม่ท้อ…
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com
บุคคลสำคัญๆในประวัติศาสตร์หรือบุคคลที่ประสบความสำเร็จ พวกเขาเหล่านั้นมักมีคุณสมบัติหลายประการ แต่มีอยู่ประการหนึ่งที่คนสำคัญหรือบุคคลที่ประสบความสำเร็จมีเหมือนๆกันก็คือ การสู้ไม่ถอย
คนเรามีสิทธิ์ท้อได้ แต่คนที่สู้ไม่ถอยเท่านั้น จึงจะนำพาตัวเองผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ ถ้าท่านเป็นบุคคลหนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต ท่านจำเป็นจะต้องปลูกฝังอุปนิสัย “ สู้ไม่ถอย ” ไว้กับตัวของท่านเอง
– โคลัมบัส นักเดินทาง นักเสี่ยงภัย ได้เดินทางท่ามกลางทะเลมหาสมุทร แอตแลนติก เพื่อหาทาง
ไปยังประเทศอินเดีย ซึ่งคนในยุคนั้นไม่เชื่อว่าเขาจะทำได้ เขาต้องต่อสู้กับคำสบประมาท การถูกดูถูก อีกทั้งต้องต่อสู้กับกลาสีเรือที่ต้องการเดินทางกลับบ้านในระหว่างการเดินทางอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร แอตแลนติก จากความเด็ดเดี่ยวและหัวใจที่สู้ไม่ถอย ทำให้เขาค้นพบดินแดนใหม่ ก็คือ ทวีปอเมริกา
– แลนซ์ อาร์มสตรอง นักปั่นจักรยานมืออาชีพ เมื่อเขาทราบว่าเขาเป็นโรคมะเร็งในปอด เขาเข้า
รับการรักษาและรับคีโม แม้ร่างกายตอนนั้นเขาจะย่ำแย่ แต่สภาพจิตใจของเขา “ สู้ไม่ถอย” การปั่นจักรยานเป็นกีฬาและอาชีพที่เขารัก เขาจึงตัดสินใจเข้าแข่งขันในสนามที่โหดที่สุดหรือยากที่สุด เขาทุ่มเทกำลังในการซ้อม ซ้อม และซ้อม อย่างหนัก จนในที่สุดเขาเป็นแชมป์และได้รับรางวัลต่างๆจากการแข่งขันจักรยานอีกหลายสนาม
– หลวงวิจิตรวาทการ ท่านเป็นนักเขียน นักการเมือง นักการทูต นักคิด นักอะไรอีกมากมาย เคย
มีคนไปถามท่านว่า ตอนที่ท่านอยู่ในคุกเพราะเจอวิกฤตชีวิตทางด้านการเมือง “ ท่านทำไมอยู่ได้ตั้งนาน ท่านไม่ทุกข์บ้างหรือ ” ท่านตอบกลับว่า “ ท่านจะทุกข์ได้อย่างไรเพราะภายในคุกมีงานให้ท่านทำตั้งมากมาย” ท่านจึงสามารถผลิตผลงานต่างๆได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะงานเขียนหนังสือ ก็ด้วยหัวใจที่ “สู้ไม่ถอย” ขนาดคุกยังไม่สามารถมาปิดกั้นในการทำงานของท่านได้
– ยายไฮ ขันจันทา นักต่อสู้แห่งจังหวัดอุบลราชธานี ยายไฮได้ต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม ที่ถูก
ทางการเวนคืนที่ดินที่เป็นสิทธิทำกินของเธอไปสร้างเขื่อน เป็นเวลาถึง 27 ปี ด้วยความมีหัวใจที่ “สู้ไม่ถอย” ยายไฮ จึงเป็นผู้ชนะในที่สุด
– สตีฟ จอบส์ คนบ้าอะไรสู้ไม่ถอย เป็นอีกคนหนึ่งที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยว เขาตัดสินใจลาออกจาก
มหาวิทยาลัย แล้วเลือกทำในสิ่งที่เขารักโดยเขาตั้งบริษัท แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ จนสร้างความร่ำรวยได้อย่างมากมาย ตอนเขาอายุ 30 ปี เขาถูกไล่ออกจากบริษัทแอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ ที่เขาก่อตั้งขึ้นมาเอง เนื่องจากผู้บริหารที่เขาจ้างและเชิญมาให้ทำงานร่วมกับเขารวมหัวกับกรรมการบริษัทไล่เขาออก แต่ด้วยความมีหัวใจที่ “ สู้ไม่ถอย” เขาก่อตั้งบริษัท Next และ Pixar สร้างการ์ตูนแอนิเมชั่น จนประสบความสำเร็จมากมาย ในที่สุด บริษัท แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ ได้ซื้อบริษัท Next จึงทำให้เขาได้กลับไปยังบริษัทแอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์อีกครั้ง
ดังนั้น การสู้ไม่ถอย จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนๆหนึ่งประสบความสำเร็จ และเช่นกัน การสู้ไม่ถอย ได้ทำให้คนจำนวนมากเกิดความล้มเหลวเพราะการเลิกล้ม ไม่ยอมเดินหน้าต่อ ไปยังจุดมุ่งหมายปลายทาง
เอเมอร์สัน นักปราชญ์ชาวอเมริกา กล่าวไว้ว่า “ ผู้ที่เชื่อว่าตนเองสามารถทำได้นั้น จะเป็นผู้ชนะเสมอ” และ “จงทำงานที่ท่านกลัวเถิด แล้วเจ้าความกลัวก็จะหายไปอย่างแน่นอน”

 

#image_title

กล้าที่จะเริ่มต้น

กล้าที่จะเริ่มต้น

ความกล้าเท่ากับความสำเร็จ…แล้วคุณกล้ามั้ยที่จะเริ่ม….
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.om
คนที่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะอยู่ในแวดวงใด เขามักเริ่มต้นจากความกล้าก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งความกล้าในที่นี้มีหลายประการที่คนประสบความสำเร็จจะต้องกล้าเริ่มต้น คือ
กล้าคิด Idea คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะเป็นคนที่กล้าคิด และคนที่ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มักจะคิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น เขาเหล่านั้นจะกล้าคิดต่าง คิดแปลก จากคนทั่วไป เช่น
– สมัยอดีต รถยนต์สมัยแรกๆ มักใช้แกนเหล็กหมุนเวลาที่จะสตาร์ทเครื่อง ไม่เหมือนกันปัจจุบันที่สตาร์ทรถยนต์ง่ายๆ ด้วยการใช้มือหมุนกุญแจบิดสตาร์ท เช้าวันหนึ่ง นายชาร์ลส ได้ยืนสตาร์ทรถยนต์ด้วยแกนเหล็กที่หน้าบ้าน
แต่ปรากฏว่ากระบอกสูบไม่หมุน นายชาร์ลส จึงออกแรงสะบัดแกนเหล็กเพื่อให้กระบอกสูบหมุนปรากฏว่า แกนเหล็กนั้นไปดีดใส่แขนของเขาจนหัก เขาลงไปนอนข้างล่างกับพื้นด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้น เขาก็กล้าที่จากคิดแตกต่างจากคนอื่นๆ เขาคิดว่าจะทำอย่างไรให้การสตาร์ทรถยนต์ง่ายขึ้น เพราะหากเป็นเช่นนี้ อาจเกิดอุบัติเหตุเหมือนกับเขากับคนอื่นๆได้ จึงเป็นที่มาของการสตาร์ทรถยนต์ ด้วยการใช้กุญแจบิดสตาร์ท นี่ก็เพราะการกล้าคิดของ นายชาร์ลส จึงทำให้พวกเราได้สตาร์ทรถยนต์ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการสตาร์ทรถยนต์อีกด้วย
กล้าจินตนาการ Imagine อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวไว้ว่า “ จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ” คนปกติธรรมดาในยุคปัจจุบันได้เรียนหนังสือกันเกือบทุกคน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าการทำงาน หน้าที่ สาเหตุหนึ่งเกิดจาก การขาดจินตนาการ คนปกติธรรมดา มักจะทำอะไรเหมือนคนอื่นๆ ไม่กล้าที่จะลองจินตนาการ ไม่กล้าที่จะคิดสร้างสรรค์สิ่งแปลกๆใหม่ๆขึ้นมาในชีวิต
กล้าลงมือทำ Action เมื่อมีความคิดแล้ว มีจินตนาการแล้ว แต่ขาดซึ่งการลงมือทำ สิ่งต่างๆที่คิด ที่จินตนาการก็ไม่สามารถเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ ดังนั้นจงกล้าที่จะลงมือทำ ลงมือปฏิบัติ สิ่งต่างๆจึงจะเกิดขึ้น เหมือนดังที่เราคิดและเราจินตนาการ
กล้าพัฒนา Develop เมื่อลงมือทำไปแล้ว แน่นอนว่าจะต้องเกิดการผิดพลาด บกพร่องในสิ่งที่เราทำ บุคคลที่ประสบความสำเร็จมักกล้าที่จะพัฒนา กล้าเปลี่ยนแปลง แผนต่างๆที่คิดไว้ ที่จินตนาการไว้ เพื่อให้การทำงานนั้นเกิดความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
กล้าที่จะควบคุม Control คนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากแล้ว มักจะเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ ควบคุมตนเอง อยู่เสมอ เขาจะเป็นคนที่มีวินัยในการทำสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะวินัยในการทำงาน เช่น นักเขียนที่ประสบความสำเร็จเขาจะจัดสรรเวลาในการทำงานเขียน แล้วเขาก็จะลงมือเขียนตามแผนการที่เขาวางไว้ โดยที่ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
ฉะนั้น เขาจึงมีผลงานการเขียนออกมาสู่สายตาผู้อ่านอย่างสม่ำเสมอ
กล้าเปลี่ยนแปลง Change คนเราโดยมากมักไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่คนเราจะเจริญก้าวหน้าก็ด้วยเพราะการเปลี่ยนแปลง หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จท่านต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง แล้วท่านจะประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางความคิด เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน
หากว่าท่านมีความกล้าตามข้อความข้างต้น กระผมเชื่อว่า ท่านจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน จงเดินทางเข้าไปหาความสำเร็จ แทนการที่จะนั่งรอความสำเร็จมาหาท่าน หากว่าท่านต้องการไปเที่ยวภูเขาที่สวยงามสักลูก ขอให้ท่านจงเริ่มต้นออกเดินทาง แทนที่ท่านจะนั่งรอ นอนรอ ให้ภูเขาลูกนั้น เคลื่อนตัวมาหาท่าน จงกล้าที่จะเริ่มต้นแล้วท่านจะประสบความสำเร็จ