การหมั่นใส่ใจดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอช่วยเสริมสร้างสุขภาพและภาพลักษณ์ที่ดี โดยเฉพาะช่องปากก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ไม่ควรมองข้าม หลายคนเชื่อว่าหากไม่ได้มีปัญหาด้านทันตกรรมที่รุนแรงอันก่อให้เกิดความลำบากในการดำรงชีวิตอย่างฟันคุดหรือปัญหาโรคปริทันต์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปพบทันตแพทย์ แต่รู้หรือไม่ว่าฟันซ้อนเก หรือฟันสบลึก เป็นจุดเริ่มต้นของโรคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นจุดบอดที่ทำให้เศษอาหารเข้าไปติดได้ง่าย หรือการสบฟันที่ผิดธรรมชาติอาจทำให้การบดเคี้ยวอาหารไม่มีประสิทธิภาพเกิดเป็นอาการท้องอืด ดังนั้นการเริ่มแก้ไขฟันให้เป็นระเบียบตั้งแต่เนิ่นๆจึงช่วยป้องกันปัญหาอื่นๆตามมา การจัดฟันในเด็กวัยรุ่นเริ่มเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองหลายคนคำนึงถึงมากขึ้นเพื่อสุขภาพฟันที่ดีในระยะยาวของบุตรหลาน ทางการแพท์จึงพัฒนาเทคโนโลยีการจัดฟัน Invisalign Teen เป็นโปรแกรมการจัดฟันที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างฟันให้เหล่าวัยรุ่นโดยเฉพาะ

การจัดฟัน Invisalign Teen คืออะไร?
การจัดฟัน Invisalign เป็นเทคโนโลยีการจัดฟันแบบใส อำพรางการมองเห็นเครื่องมือจัดฟันระหว่างการรักษา ที่ช่วยแก้ไขปัญหาโครงสร้างฟันตั้งแต่แบบง่ายไปจนซับซ้อน ถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามจุดประสงค์การรักษา Invisalign Teen เป็นการจัดฟันใสสำหรับเด็กและวัยรุ่น 8-18 ปี ที่ซึ่งส่วนมากในวัยนี้มักมีปัญหาฟันห่าง ฟันซ้อน และขากรรไกรบนคร่อมส่วนล่าง ช่วยปรับการเจริญของรูปหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมต้อง Invisalign Teen?
1.Invisalign ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยคาดการณ์การเคลื่อนฟัน และสร้างเครื่องมือที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล จึงมีความแม่นยำสูง
2.เนื่องจากพฤติกรรมของวัยรุ่นเป็นวัยที่มีการทำกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้เยอะ การระมัดระวังตัวอาจมีไม่มาก การจัดฟันแบบใสจึงลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บในช่องปากระหว่างการเล่นเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบโลหะ
3.ตัวเครื่องมือจะแนบติดกับผิวฟันไม่ทำให้เกิดการออกเสียงผิดเพี้ยน
4.การถอดเครื่องมือช่วยให้ผู้ป่วยวัยรุ่นสามารถทำความสะอาดฟันได้ง่ายและครอบคลุมยิ่งขึ้น
5.ช่วยหลีกเลี่ยงการล้อเลียนเรื่องภาพลักษณ์ในสังคมวัยรุ่น
6.ชุดเครื่องมือจะมีตัวบอกระยะการสวมใส่ คือหากสีฟ้าที่เครื่องมือกลายเป็นสีใสแปลว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนชุดเครื่องมือชิ้นใหม่ ทำให้เด็กๆสามารถจัดการดูแลตัวเองได้อย่างง่ายดาย

Invisalign Teen มีขั้นตอนการรักษาอย่างไร?
1.พบแพทย์เพื่อประเมินพื้นฐานโครงสร้างฟัน
2.เอ็กซเรย์ พิมพ์ฟัน และทำการสแกนฟันแบบ 3 มิติ เพื่อประเมินการเคลื่อนตัวของฟัน รวมทั้งการออกแบบเครื่องมือเพื่อสภาพฟันแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ
3.ผู้ป่วยลองใส่เครื่องมือ ขั้นตอนนี้แพทย์จะมีการแนะนำวิธีการดูแลรักษา ทั้งนี้อาจมีการติดตั้งเครื่องมือเสริมอื่นๆหากเห็นว่าสมควรตามแต่ละกรณี
4.ผู้ป่วยมาพบแพทย์เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าของการรักษาทุกๆ 1.5-2 เดือน
5.เมื่อการรักษาเสร็จสิ้น ผู้ป่วยก็สามารถเผยรอยยิ้มได้อย่างมั่นใจ