เปลี่ยนมุมอับ ให้เป็นมุมสวยด้วยเทคนิคง่ายๆ

เปลี่ยนมุมอับ ให้เป็นมุมสวยด้วยเทคนิคง่ายๆ

ทริคดีๆ 10 วิธีในการจัดห้องนอนขนาดเล็กของเยอะยังไงไม่ให้รก และดูน่าอยู่ ซึ่งทริคพวกนี้สามารถใช้ได้ทั้งห้องคอนโดพร้อมอยู่ หอพัก หรือแม้กระทั่งอพาร์ทเม้นท์ขนาดเล็กอีกด้วยนะคะ ตามมาดูกันดีกว่าว่าจัดยังไงน๊าไม่ให้รก 

  1. การจัดห้องนอนขนาดเล็ก โดยการใช้พื้นที่ built-in ให้เกิดประโยชน์

ห้องคอนโดหรือพื้นที่ในบ้านจัดสรร สามารถจัดห้องนอนขนาดเล็กที่คอนโดพร้อมอยู่ของเรานั้นได้โดยการติดตั้งพื้นที่ built-in เพิ่มเติมเพื่อเอาไว้เก็บของต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบ สำหรับห้องนอนที่มีการ built-in ไว้อยู่แล้ว ควรนำพื้นที่ส่วนนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างเช่นหากเป็นบิ้วท์อินแบบเปิดและมีพื้นที่มากพอ ก็สามารถทำเป็นตู้เก็บเสื้อผ้าได้ นอกจากไม่ทำให้รกแล้วยังดูสวยงามอีกด้วย เก๋ไปอีกนะเจ้าคะ

  1. ชั้นเก็บของกิ๊บเก๋ ก็ช่วยจัดห้องนอนขนาดเล็กไม่ให้รกได้นะเออ

ห้องนอนขนาดเล็กนั้นส่วนใหญ่แล้วจะรวมส่วนที่ใช้ทำงานเอาไว้ด้วย งั้นเราลองหันไปสำรวจโต๊ะทำงานของตัวเองดูสิว่าเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วหรือยัง แต่หากว่ามองไปแล้วเจอแต่ของรกวางไม่เป็นระเบียบล่ะก็ นำเสนอเฟอร์นิเจอร์ประเภทหนึ่งที่จะช่วยจัดห้องนอนขนาดเล็กของเยอะไม่ให้ดูรกรุงรัง นั่นคือ ไอเทมชั้นวางของต่าง ๆ เก๋ๆ ไม่ว่าจะเป็นตั้งพื้นหรือติดผนังก็ทำให้ห้องนอนแลดูสะอาดสะอ้านและดูเรียบร้อยขึ้นเลยอ่ะจร้า

  1. จัดห้องนอนขนาดเล็กทำไงไม่ให้รกได้ด้วยการแบ่งสัดส่วน

การจัดห้องนอนขนาดเล็กให้เป็นสัดส่วนก็จะช่วยให้ห้องดูไม่รก ใช้เฟอร์นิเจอร์ให้น้อยชิ้น เลือกเฉพาะไอเทมที่สามารถจุของได้เยอะ อย่างเช่นชั้นวางของเล่นระดับที่วางได้ทั้งหนังสือและกล่องใส่ของจุกจิกขนาดเล็ก ก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ ดูน่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม

  1. ประยุกต์ใช้พื้นที่ส่วนหัวเตียง ช่วยจัดห้องนอนไม่ให้รก

ลองเปลี่ยนพื้นที่ส่วนหัวเตียงให้เป็นที่เก็บของกันดีกว่า ลองหาซื้อไอเทมวางจะเป็นชั้นหรือเป็นส่วน built-in ตามแต่งบประมาณ คนงบน้อยนั้นสามารถหาซื้อชั้นที่มีขนาดพอดีกับหัวเตียงมาใช้วางของได้ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้มีขายตามร้านเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำ ส่วนใครที่ไม่รู้จะเลือกจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้มุมไหน ลองหาตัวช่วยเช่นแอพออกแบบห้องก็น่าจะเป็นตัวช่วยอีกทางนะจ้ะ 

  1. เก้าอี้เอนกประสงค์ อีกหนึ่งตัวช่วยในการจัดห้องนอนขนาดเล็ก

ยุคนี้มีไอเทมหลากหลายชิ้นนั้นถูกดัดแปลงเพื่อให้ใช้สอยได้มากขึ้น อย่างเช่นเก้าอี้บุนวมนอกจากจะใช้นั่งเล่นแล้ว ยังสามารถใช้เก็บของได้อีกด้วย รูปทรงสวยงามและมีประโยชน์มากทีเดียว ช่วยเก็บของจุกจิกทำให้ห้องนอนขนาดเล็กของคุณดูโล่งกว้างกว่าเดิมเยอะเลยจ้า

  1. จัดห้องนอนขนาดเล็กด้วยเตียง 2 in 1 นอนก็ได้เก็บของก็ดีไปอีก

เราอยู่ในยุคที่เตียงนอนไม่ได้เอาไว้นอนอย่างเดียวแล้วนะจ้ะเธอ เพราะเตียงนอนนั้นก็มีช่องเก็บของอยู่ในพื้นที่ด้านล่างเตียง คนออกแบบเฟอร์นิเจอร์สุดล้ำทำให้เก็บของจุกจิกก็เก๋ไม่น้อยแถมประหยัดพื้นที่ไปอีก

  1. รวมไอเทมต่าง ๆ จัดห้องนอนขนาดเล็กไว้ที่เดียวกัน

การจัดห้องนอนขนาดเล็กของเยอะ ที่ไม่ต้องลงทุนมากนัก แต่อาจต้องใช้เวลาสักหน่อยโดยเฉพาะกับห้องที่มีของมาก ๆ เริ่มจากหาชั้นวางสักชั้นที่มีพื้นที่ใช้งานหลายระดับเพื่อวางของต่าง ๆ อย่างพวกโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หนังสือและกล่องใส่ของจุกจิกเป็นต้น การนำของตกแต่งเหล่านี้มารวมอยู่ในชั้นเดียวกัน นอกจากจะเป็นการประดับห้องนอนแล้วยังไม่ทำให้รกอีกด้วยต้องรีบหามาแล้ว

  1. การสร้างที่ใส่ของใต้เตียง

เป็นอีกเคล็ดลับของการจัดห้องนอนขนาดเล็กที่ได้ทั้งความสวยงามและความเป็นระเบียบ สำหรับใครที่มีพื้นที่ใต้เตียงเหลือเยอะ ก็สามารถเลือกซื้อไอเทมเก็บของแบบแนวนอนมาวางได้เพื่อเอาไว้ใส่ของจุกจิก ใช้สอยพื้นที่มุมอับให้คุ้มค่าเป็นการเพิ่มส่วนพื้นที่เปิดให้โล่งกว้างมากขึ้นว้าวๆๆๆๆ

  1. การกำหนดรัศมีการใช้สอยสำหรับห้องขนาดเล็ก

สำหรับการจัดห้องนอนขนาดเล็กที่มีพื้นที่น้อยมาก ๆ การใช้เตียงสองชั้นนั้นตอบโจทย์ได้มากที่สุด แต่เตียงสองชั้นในที่นี้หมายถึง ด้านบนเป็นเตียงนอนส่วนด้านล่างเป็นพื้นที่ใช้สอยอื่น ๆ เช่นห้องทำงานและที่เก็บเสื้อผ้าเป็นต้น เหมาะกับห้องที่เล็กและมีของเยอะมาก การเลือกใช้ไอเทมนี้จึงเหมาะที่สุด

  1. ปราบความรกด้วยกล่องอเนกประสงค์

การใช้ไอเทมกล่องเก็บของอเนกประสงค์ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี แม้จะไม่ได้ช่วยประหยัดพื้นที่มากนัก แต่ก็ช่วยจัดการกับข้าวของที่กระจัดกระจายได้ อีกทั้งราคาไม่แพงอีกด้วย

10 เทคนิคสุดเจ๋งเลย งานนี้ผู้เขียนคงจะต้องขอลองนำไปจัดห้อง คอนโดพร้อมอยู่ ของผู้เขียนบ้างซะแล้ว แล้วคุณๆ ละคะพอจะได้ไอเดียไปจัดห้องของคุณกันบ้างหรือยังเอ่ย ยังไงก็ลองปรับใช้กันดูได้นะคะ

 

เลือกสิ่งที่ดีให้ชีวิต เลือกลงทุนคอนโดพร้อมอยู่

เลือกสิ่งที่ดีให้ชีวิต เลือกลงทุนคอนโดพร้อมอยู่

อยากจะมีคอนโดพร้อมอยู่ แน่นอนว่าต้องทำให้ชีวิตดีขึ้นแน่ๆ ไม่ต้องลำบากรถติดนานเป็นชั่วโมง นั่งรถไฟฟ้าไปทำงานก็แสนจะสะดวก มีปาร์ตี้กับเพื่อนก็ไม่ต้องกลัวว่าเมาแล้วขับกลับไม่ถูก รถไฟฟ้าปรื้ดเดียวถึง

แน่นอนล่ะว่าปัจจุบันคอนโดติดรถไฟฟ้าก็มีเต็มไปหมด แถมยังมีราคาถูกๆ ผ่อนสบายกระเป๋า ให้พวกมนุษย์เงินเดือนได้มีโอกาสเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย เมื่อเราหาข้อมูลเรียบร้อยแล้ว คอนโดติดรถไฟฟ้าแน่นอนล่ะว่าราคาเฉลี่ยประมาณ 2 ล้านต้นๆแน่นอน ดูเป็นราคาที่พอจะเอื้อมถึงอยู่ แล้วระบบการเงินล่ะ คุณเตรียมความพร้อมไว้หรือยัง งั้นเรามาเตรียมความพร้อมเรื่องระบบการเงินกันดีกว่าค่ะ

รายได้ขั้นต่ำที่เราควรจะต้องมีหากต้องการซื้อคอนโดราคา 2 ล้านบาท มนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องมีรายได้คงที่อย่างน้อยก็ 1 ใน 60 ของราคาคอนโด ตามสูตรคิดง่ายๆ ดังนี้

ราคาคอนโด=เงินเดือนx60

เพราะหลังจากที่เราได้เป็นเจ้าของคอนโดติดรถไฟฟ้าสมใจแล้วล่ะก็ ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ตามอีกเพียบเลยจ้า

ไม่ว่าจะเป็น ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าทริปกับเพื่อนก๊วนสนิท

ซึ่งถ้าหากมีรายรับที่น้อยเกินไป แล้วต้องผ่อนคอนโดในราคาเกินตัว ก็อาจจะลำบากได้นะจ้ะ

“อัตราค่าผ่อนต่อเดือน”

ถ้าหากเราไม่ได้รวยขนาดซื้อคอนโดด้วยเงินสดแล้วละก็ ก็ต้องมีการผ่อนต่อเดือนใช่มะล่ะ ยิ่งผ่อนเยอะ ก็จะหมดไว

หนี้ก็จะหมดเร็ว แต่ถ้าผ่อนมากไป ก็อาจจะค่าใช้จ่ายไม่พอ รายได้กลายเป็นติดลบอีก

ถ้างั้นเรามาวางแผนการผ่อนชำระให้พอดี กับรายได้ของเรา กรณีที่ไม่มีภาระหนี้สินอื่นๆ นะ

ค่าผ่อนต่อเดือนก็ไม่ควรเกิน 40%ของเงินเดือน ซึ่งตัวเลขนี้เราประมาณการมาจากหลายปัจจัย เช่น การแบ่งใช้ในชีวิตประจำวัน 40-50% และที่ขาดไม่ได้คือควรออมเงินอีกสัก 10-20% เพื่อใช้ในยามเกษียณ หรือลงทุนต่อยอดให้มี Passive Income จะได้มีเงินใช้ในอนาคตนะจ้ะ

“แล้วเงินดาวน์จะเท่าไหร่ดีล่ะ”

ถ้ามีเงินดาวน์มาก แน่นอนเราก็จะผ่อนน้อยลง ผ่อนหมดเร็วขึ้น ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยมาก ประหยัดไปได้เยอะเลยแหละ แต่ถ้ามัวแต่เก็บเงินดาวน์นานไป ระวังจะแก่ก่อนได้อยู่เด้อ

คิดแบบง่ายๆ ว่าเราควรเก็บเงินให้ได้สัก 10% ของราคาเต็ม แล้วก็เอาไปวางดาวน์เลย

ถ้าคิดจะซื้อคอนโด 2 ล้าน เก็บเงินเพื่อดาวน์ให้ได้สัก 2 แสน ก็น่าจะกำลังโอเคนะ

แต่ทั้งนี้เราก็จะต้องดูเงื่อนไขของคอนโดหรือธนาคารด้วย ว่าเค้ามีบังคับขั้นต่ำเท่าไหร่

ถ้าลงเงินดาวน์เพิ่มจะได้ดอกเบี้ยลดไปอีกมากน้อยแค่ไหน ต้องเจรจากับเขาดูก่อนด้วยนะ

“ระยะเวลาการผ่อน”

การผ่อนด้วยระยะเวลายิ่งสั้นก็จะยิ่งดีใช่มั้ยหละ ยิ่งผ่อนนาน ดอกเบี้ยก็จะยิ่งบาน บางคนผ่อนกันไป 30 ปี ดอกเบี้ยดันแพงกว่าตัวคอนโดซะแล้ว แต่การผ่อนให้หนี้ยิ่งหมดเร็ว ค่าผ่อนต่องวดเราก็จะยิ่งเยอะขึ้น อาจจะต้องกินแกลบทุกเดือน  เรามาลองคำนวณเล่นๆกันดูค่ะ ว่า ราคาคอนโด 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4%ต่อปี

ผ่อน เดือนละ 10,000 บาท
เราต้องจ่ายเป็นเวลาประมาณ 28 ปี

และถ้าเราเพิ่มค่างวดแค่เดือนละ 3,000 บาท
จะลดเวลาในการผ่อนเหลือแค่ 18 ปี !!!

โอ้โห!!! คิดเองก็ตกใจเหมือนกันนะนี่  แค่เพิ่มเงินไปเดือนละแค่ 3,000 บาท เราจะสามารถลดเวลาในการผ่อนลงได้ถึง 10 ปี และถ้ามองในมุมของดอกเบี้ยด้วยแล้วล่ะก็น่าจะประหยัดไปได้อีกประมาณ 5 แสนบาทเลยทีเดียว ว้าวๆ

นอกจากเรื่องการเงินแล้ว ก็อย่าลืมดูอย่างอื่นด้วยนะคะ เช่น  ทำเล คุณภาพ สภาพแวดล้อมต่างๆ สิ่งอำนวยความสะดวก และหากถ้ายังไม่แน่ใจเรื่องหาซื้อคอนโดพร้อมอยู่ ลองดูไปหลายๆ ที่ก่อน เงินตั้งเป็นล้าน ค่อยๆ ตัดสินใจก็ได้ ถ้าเสียเครดิตการขอสินเชื่อไปแล้ว จะทำอะไรก็ลำบากนะจ้ะเธอ

 

คอนโดพร้อมอยู่ผ่อนสบายๆ การเดินทางสุดแสนสะดวก

คอนโดพร้อมอยู่ผ่อนสบายๆ การเดินทางสุดแสนสะดวก

4 ข้อควรรู้ คอนโดฯ แบบผ่อนดาวน์หรือพร้อมอยู่…เลือกแบบไหน

“การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง” คำๆ นี้อาจจะติดหูนักลงทุนทั้งหลายอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ควรใช้กับการซื้อคอนโดสักแห่ง เพราะการจะลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์เราต้องมั่นใจได้ว่าคุ้มค่า ทั้งราคา คุณภาพ รวมถึงเหมาะสมจะลงทุนในระยะยาว แต่ก็อาจจะมีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าแล้วเราควรจะเลือกซื้อคอนโดแบบไหนดี ระหว่างคอนโดใหม่เพิ่งเปิดขาย ซึ่งหากซื้อก็จะใช้วิธีผ่อนดาวน์ไปเรื่อยๆ จนกว่าตึกจะเสร็จ กับคอนโดที่สร้างเสร็จแล้วซึ่งถ้าจะซื้อก็ต้องจ่ายเงินก้อนแล้วโอนและเข้าอยู่ได้ทันที ทั้งนี้เพราะทั้งสองประเภทต่างก็มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดไม่ตกในเรื่องนี้ ลองดูการเปรียบเทียบประเด็นต่างๆ เหล่านี้แล้วค่อยตัดสินใจ

ความเสี่ยง

แบบผ่อนดาวน์ เป็นประเด็นที่ต้องประเมินดีๆ เพราะโอกาสที่ซื้อแล้วไม่สร้าง สร้างช้า สร้างไม่เสร็จ หรือสร้างแล้วโอนไม่ได้มีความเป็นไปได้เสมอ

แบบคอนโดพร้อมอยู่ ที่สร้างเสร็จแล้วแทบจะตัดเรื่องนี้ไปได้เลย

คุณภาพ

แบบผ่อนดาวน์ จินตนาการห้องสร้างเสร็จไม่ได้ อาจไม่เป็นตามคำบอกของโครงการ เช่น มีแดดเข้าหรือมีเสาโผล่มาตอนสร้างเสร็จ

แบบพร้อมอยู่ ทุกอย่างที่เห็นเป็นของจริง ไม่ต้องจินตนาการ

ราคา

แบบผ่อนดาวน์ ซื้อตอนเปิดขายใหม่ๆ แน่นอนว่าราคาย่อมถูกกว่าไปซื้อตอนตึกเสร็จ เพราะซื้อตอนพรีเซลมีความเสี่ยงมากกว่า ราคาจึงถูกดิสเคาน์ลงมาชดเชยกับความเสี่ยง

แบบพร้อมอยู่ บางครั้งมีโปรโมชั่นพิเศษ ซึ่งเปรียบเทียบดูแล้งบางตึกตอนพรีเซลกับตอนตึกเสร็จราคาแทบไม่ต่างกันเลย

ความยากง่ายในการซื้อ

แบบผ่อนดาวน์ แบบผ่อนดาวน์ง่ายกว่าซื้อตอนตึกเสร็จ เพราะสามารถผ่อนดาวน์ไปได้เรื่อยๆ 10-12 เดือนตามระยะเวลาก่อสร้าง

คอนโดพร้อมอยู่ หากจะซื้อคอนโดที่สร้างเสร็จแล้วต้องมีความพร้อมระดับหนึ่งหรือเรียกง่ายๆว่ามีเงินออมเก็บไว้

จากข้อคิดดีๆ 4 ข้อนี้คงทำให้หลายๆท่าน คงสามารถเปรียบเทียบและดูเงินในกระเป๋า หรือหน้าตักเรานั้นมีความพร้อมากเพียงใด จะผ่อนดาวน์ หรือคอนโดพร้อมอยู่ ก็สามารถตัดสินใจได้ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะ