ไม้ฝา วิธีการเลือกซื้อ

ไม้ฝา วิธีการเลือกซื้อ

ไม้ฝา หรือ ไม้เทียม คือวัสดุทดแทนไม้จริง ส่วนมากจะนำมาตกแต่งบ้าน เช่น ผนังบ้าน เชิงชาย พื้นบ้าน เป็นต้น
วัสดุพวกนี้ ปลวกไม่กิน ทนแดด กันน้ำ ทนฝน

ไม้ฝานำมาสร้างบ้าน สร้างผนัง อายุการใช้งาน ทนนาน อยู่ได้หลายปี
คุณสมบัติเด่น ของไม้ฝา มีความสวยงาม ลายไม้เสมือนจริง มีหลายสี

สภาพอากาศ : ดูแลรักษาง่าย ได้ทุกสภาพอากาศ

สรุป
ไม้ฝา อายุการใช้งาน ใช้งานได้ยาวนาน หากสีซีดสามารถทาสีทับใหม่ได้เลย
คุ้มมาก ต้องเลือกไม้ฝาเฌอร่า

ทำไมไม่กำหนดเป้าหมายในชีวิต โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ทำไมไม่กำหนดเป้าหมายในชีวิต โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์

ทำไมไม่กำหนดเป้าหมายในชีวิต
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
www.drsuthichai.com

หลายๆคน ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับความสำเร็จหรือได้ยินได้ฟังจากบรรดาผู้ประสบความ สำเร็จว่า การสร้างเป้าหมายในชีวิตเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ คนที่ประสบความสำเร็จทุกๆคนล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีเป้าหมายในชีวิต ถามว่าเมื่อรู้แล้วว่าการกำหนดเป้าหมายในชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญแต่ทำไมคน ส่วนใหญ่ถึงไม่ยอมที่จะกำหนดเป้าหมายในชีวิต อาจเป็นเพราะเหตุผลดังนี้

1.ไม่ได้เล็งเห็นความสำคัญของการกำหนดเป้าหมายอย่างแท้จริง หลายๆคนคงได้เคยเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของการวางเป้าหมายจากการอบรม การสัมมนา การอ่านหนังสือต่างๆ ฯลฯ แต่เมื่อเรียนรู้แล้วไม่ยอมลงมือทำ นี่คือจุดอ่อนของคนส่วนใหญ่ กล่าวคือเข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่างๆ แต่ไม่ยอมนำเอาความรู้ที่ได้รับการอบรมไปใช้ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง การเรียนรู้เรื่องการวางเป้าหมายก็เช่นกัน

2.มีความกลัวว่าเมื่อวางเป้าหมายไปแล้วจะทำไม่ได้ ความกลัวมักจะทำให้คนๆนั้นไม่กล้า เช่น กลัวจีบสาวไม่ติดก็ไม่กล้าที่จะไปจีบสาว , กลัวการพูดต่อหน้าที่ชุมชนเลยไม่กล้าที่จะพูดต่อหน้าที่ชุมชน , กลัวตกม้าเลยไม่กล้าขึ้นไปขี่ม้า ฯลฯ ฉะนั้น หลักในการวางเป้าหมายที่ดี เราไม่ควรวางเป้าหมายให้สูงเกินความเป็นจริงหรือเกินความสามารถของตนเอง และการวางเป้าหมายที่ดี ไม่ควรวางเป้าหมายให้ต่ำกว่าความเป็นจริง ควรวางเป้าหมายสูงกว่าความเป็นจริงสักเล็กน้อย

3.ไม่อยากเสียเวลาและเสียแรงในการวางเป้าหมาย หลายๆคนเมื่อวางเป้าหมายไปแล้วทำครึ่งๆกลางๆ ไม่มีความต่อเนื่อง จึงทำให้มีความรู้สึกว่าไม่อยากเสียเวลาและเสียแรงในการวางเป้าหมาย เช่น บางคนมีเป้าหมายว่าจะลุกขึ้นอ่านหนังสือทุกๆวัน ตั้งแต่เวลาตี 5 แต่พอทำไปได้ 3 วัน ก็เลิกทำ หรือ บางคนมีเป้าหมายว่าจะออกกำลังกายทุกๆตอนเย็นแต่ทำได้เพียงแค่ 7 วัน ก็เลิก สุดท้ายก็ไม่อยากกำหนดเป้าหมายในชีวิต
นี่คือสาเหตุบางประการที่ทำให้คนเราไม่ยอมที่จะกำหนดเป้าหมายในชีวิต ถามว่าทำไมจึงต้องกำหนดเป้าหมาย การกำหนดเป้าหมายมีประโยชน์หลายประการ เช่น

1.การมีเป้าหมายช่วยให้เรารู้ทิศทางในการก้าวไปข้างหน้า ทำให้ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย ไม่ทำให้เราเกิดความสับสนในชีวิตจนไม่รู้ว่าจะเดินไปในทิศทางไหนดี การรู้ทิศทางเดินของตนเองทำให้เราเกิดความตั้งใจ เกิดความมุ่งมั่น เกิดการพัฒนาตนเองเพื่อไปสู่เป้าหมาย
2.การกำหนดเป้าหมายจะทำให้เราพบวิธีการในการไปสู่เป้าหมาย ตัวอย่าง หากเราอยู่ต่างจังหวัด เรามีเป้าหมายว่าต้องการเดินทางไปกรุงเทพฯ เราสามารถมีวิธีการในการไปสู่เป้าหมายหลายวิธี เช่น นั่งรถโดยสารประจำทาง นั่งรถยนต์ส่วนตัว นั่งเครื่องบิน ปั่นจักรยาน ฯลฯ ทั้งนี้ เราสามารถรู้วิธีการในการไปสู่เป้าหมายว่ามีวิธีการใดที่มีความเหมาะสมกับ เรามากที่สุด
3.การกำหนดเป้าหมายจะทำให้มีความขยัน อดทนและความเพียรพยายาม คนที่มีเป้าหมายจะมีความขยัน อดทนและเพียรพยายามเพื่อนำพาตัวเองไปสู่จุดหมายปลายทาง แต่คนไม่มีเป้าหมาย ถึงแม้จะมีขยัน มีอดทนและมีเพียรพยายามอย่างไรก็ตามสุดท้ายก็ไปไม่ถึงไหน เพราะเนื่องจากไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางอยู่ตรงไหน เหมือนขยันพายเรือกลางทะเล ไม่รู้ว่าฝั่งอยู่ตรงไหน

จากข้อความข้างต้นจะทำให้เราทราบว่า ทำไมคนเราถึงไม่ยอมกำหนดเป้าหมายและทำให้ทราบเรื่องประโยชน์ของการกำหนดเป้า หมาย ดังนั้นหากท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต ขอให้ท่านได้กำหนดเป้าหมายในชีวิตตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป แล้วเริ่มเดินทางไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ท่านก็จะเป็นอีกคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอน

#image_title

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5628/2538แม้การกระทำของจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกจะเป็นกรณีที่ศาลอาจถอดถอนจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ก็ตาม แต่ตราบใดที่ยังมิได้มีคำสั่งถอดถอน จำเลยที่ 1 ก็ยังคงมีอำนาจในการจัดการมรดกได้ เมื่อทรัพย์มรดกมีเพียงที่ดินกับเงินฝากธนาคารและจำเลยที่ 1ได้โอนที่ดินดังกล่าวและถอนเงินออกมาทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี 2528จึงถือได้ว่าการจัดการมรดกได้สิ้นสุดแล้วตั้งแต่ปี 2528 โจทก์ฟ้องคดีนี้ในปี 2535 เกินกว่า 5 ปี นับแต่การจัดการมรดกเสร็จคดีจึงขาดอายุความทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทนายโทนี่https://www.facebook.com/profile.php?id=61570145816740

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5628/2538แม้การกระทำของจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกจะเป็นกรณีที่ศาลอาจถอดถอนจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ก็ตาม แต่ตราบใดที่ยังมิได้มีคำสั่งถอดถอน จำเลยที่ 1 ก็ยังคงมีอำนาจในการจัดการมรดกได้ เมื่อทรัพย์มรดกมีเพียงที่ดินกับเงินฝากธนาคารและจำเลยที่ 1ได้โอนที่ดินดังกล่าวและถอนเงินออกมาทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี 2528จึงถือได้ว่าการจัดการมรดกได้สิ้นสุดแล้วตั้งแต่ปี 2528 โจทก์ฟ้องคดีนี้ในปี 2535 เกินกว่า 5 ปี นับแต่การจัดการมรดกเสร็จคดีจึงขาดอายุความทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทนายโทนี่https://www.facebook.com/profile.php?id=61570145816740

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5628/2538แม้การกระทำของจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการมรดกจะเป็นกรณีที่ศาลอาจถอดถอนจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ก็ตาม แต่ตราบใดที่ยังมิได้มีคำสั่งถอดถอน จำเลยที่ 1 ก็ยังคงมีอำนาจในการจัดการมรดกได้ เมื่อทรัพย์มรดกมีเพียงที่ดินกับเงินฝากธนาคารและจำเลยที่ 1ได้โอนที่ดินดังกล่าวและถอนเงินออกมาทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี 2528จึงถือได้ว่าการจัดการมรดกได้สิ้นสุดแล้วตั้งแต่ปี 2528 โจทก์ฟ้องคดีนี้ในปี 2535 เกินกว่า 5 ปี นับแต่การจัดการมรดกเสร็จคดีจึงขาดอายุความทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทนายโทนี่https://www.facebook.com/profile.php?id=61570145816740

#image_title

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2523ผู้จัดการมรดกโอนขายทรัพย์มรดกให้แก่ผู้อื่นโดยไม่สุจริตหรือสมยอมกันดังนี้ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกอยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้และเป็นฝ่ายต้องเสียเปรียบ ขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 ได้ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทนายโทนี่https://www.facebook.com/profile.php?id=61570145816740

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2523ผู้จัดการมรดกโอนขายทรัพย์มรดกให้แก่ผู้อื่นโดยไม่สุจริตหรือสมยอมกันดังนี้ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกอยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้และเป็นฝ่ายต้องเสียเปรียบ ขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 ได้ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทนายโทนี่https://www.facebook.com/profile.php?id=61570145816740

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1494/2523ผู้จัดการมรดกโอนขายทรัพย์มรดกให้แก่ผู้อื่นโดยไม่สุจริตหรือสมยอมกันดังนี้ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกอยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้และเป็นฝ่ายต้องเสียเปรียบ ขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 ได้ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์ ทนายโทนี่https://www.facebook.com/profile.php?id=61570145816740

#image_title

อาการเสื่อมสภาพการได้ยิน

อาการเสื่อมสภาพการได้ยิน

 

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดหูแว่วควรรักษาอาการหูแว่วอย่างไร
การได้รับเสียงดังเป็นระยะเวลานาน
หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของหูแว่วคือการสัมผัสกับเสียงดังที่มีความเข้มข้นสูงเป็นระยะเวลานาน เช่น

การฟังเพลงในระดับเสียงสูงผ่านหูฟัง
การทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น โรงงาน, สนามบิน, หรือการใช้เครื่องมือที่มีเสียงดัง
การไปฟังดนตรีสดหรือคอนเสิร์ตที่มีเสียงดัง
เสียงดังเหล่านี้สามารถทำลายเซลล์ขนในหูชั้นใน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรับเสียง ทำให้ผู้ที่สัมผัสเสียงดังเป็นเวลานานมีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาหูแว่วในภายหลัง

การเสื่อมสภาพการได้ยิน (Presbycusis)
อายุที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้การได้ยินของคนเราเสื่อมสภาพ ซึ่งมักจะเริ่มเกิดขึ้นในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป การสูญเสียการได้ยินที่เกี่ยวข้องกับอายุ (Presbycusis) มักจะเป็นสาเหตุของหูแว่วในผู้สูงอายุ เนื่องจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ขนในหูที่ทำหน้าที่รับเสียงและส่งข้อมูลเสียงไปยังสมอง

การติดเชื้อในหูหรือการอักเสบ
การติดเชื้อหรือการอักเสบในหูชั้นกลางหรือหูชั้นในสามารถทำให้เกิดอาการหูแว่วได้
หูอักเสบ (Otitis Media): การติดเชื้อที่หูชั้นกลางทำให้เกิดการอักเสบและการบวม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดหูแว่ว
ภาวะหูชั้นในอักเสบ (Labyrinthitis): การติดเชื้อในหูชั้นในสามารถทำให้เกิดอาการหูแว่ว ร่วมกับอาการเวียนหัวและการสูญเสียการทรงตัว

ภาวะทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับหูและการได้ยิน
บางภาวะทางการแพทย์อาจเกี่ยวข้องกับหูแว่ว เช่น
ภาวะหูชั้นในเสื่อมสภาพ (Meniere’s Disease): โรคนี้ส่งผลต่อหูชั้นในและทำให้เกิดอาการเวียนหัว, สูญเสียการได้ยิน, และหูแว่ว
ภาวะหูหนวกหรือการสูญเสียการได้ยิน (Sensorineural Hearing Loss): การสูญเสียการได้ยินประเภทนี้มักจะเกี่ยวข้องกับความผิดปกติในหูชั้นใน หรือเส้นประสาทหูที่ส่งสัญญาณเสียงไปยังสมอง

การบาดเจ็บที่หูหรือศีรษะ
อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บที่หู, ศีรษะ, หรือกระดูกสันหลังส่วนคออาจส่งผลให้เกิดหูแว่วได้ เช่น:
การถูกกระทบกระแทกที่ศีรษะอย่างรุนแรงการบาดเจ็บที่หูทำให้เกิดความเสียหายที่หูชั้นในหรือเส้นประสาทหู

ภาวะเครียดและวิตกกังวล
ความเครียดและความวิตกกังวลสามารถกระตุ้นให้เกิดหูแว่วหรือทำให้อาการหูแว่วที่มีอยู่แล้วรุนแรงขึ้น การศึกษาพบว่าอาการหูแว่วบางครั้งเชื่อมโยงกับภาวะทางจิตใจและความเครียดทางอารมณ์ การจัดการกับความเครียดและภาวะทางจิตใจสามารถช่วยลดอาการหูแว่วได้ในบางกรณี

การใช้ยาบางประเภท
ยาบางชนิดอาจเป็นสาเหตุของการเกิดหูแว่ว ได้แก่
ยาในกลุ่มที่มีผลข้างเคียงเป็นพิษต่อตับหรือหู (Ototoxic drugs) เช่น ยาต้านจุลชีพ (Antibiotics) กลุ่ม Aminoglycosides, ยาต้านมะเร็งบางชนิด, ยาขับปัสสาวะที่มีผลต่อการทำงานของหู
ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคหลอดเลือดสมอง, ความดันโลหิตสูง หรือภาวะทางจิตเวช อาจทำให้เกิดอาการหูแว่วได้

การเปลี่ยนแปลงในความดันภายในหู
การเปลี่ยนแปลงในความดันในหูสามารถทำให้เกิดอาการหูแว่ว เช่น
การบิน: การเปลี่ยนแปลงของความดันเมื่อขึ้นเครื่องบินอาจทำให้เกิดการอุดตันในหูและเกิดหูแว่ว
การดำน้ำ: ความดันน้ำที่เพิ่มขึ้นในระหว่างการดำน้ำสามารถทำให้เกิดอาการหูแว่วได้

ปัญหาสุขภาพทั่วไป
บางโรคและปัญหาสุขภาพทั่วไปอาจเชื่อมโยงกับหูแว่วได้ เช่น:
โรคเบาหวาน: ความผิดปกติในระบบหลอดเลือดที่เกิดจากโรคเบาหวานอาจส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดในหูและทำให้เกิดหูแว่ว
โรคความดันโลหิตสูง: ความดันโลหิตสูงอาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนเลือดในหู ทำให้เกิดอาการหูแว่ว

สรุป
รักษาอาการหูแว่วอย่างไรสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งบางครั้งอาจเป็นผลจากการได้รับเสียงดังเป็นระยะเวลานาน, การเสื่อมสภาพการได้ยินตามอายุ, หรือภาวะทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับหู การวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการหูแว่วจึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม การตรวจหูและปรึกษาแพทย์จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้

 

Dr.Manit Sripot

doctorforyou.biz

รับคนไข้ป่วยเรื้อรัง คนไข้สิ้นหวัง คนไข้ผิดหวังจากการักษามาในอดีต คนไข้อ่อนแรง
คนไข้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง คนไข้แพ้สาร-ยาเคมี
ติดต่อปรึกษาหมอทางโทรหรือไลน์ รักษาอาการเครียดนอนไม่หลับ
รักษาอาการประสาทหูเสื่อม และ รักษาอาการหูแว่วอย่างไร

โทรปรึกษา : 082 387 7288
ID LINE : YAFORYOU
website : doctorforyou.biz

ตกแต่งบ้าน ทาสี ทาหลังคาให้คัลเลอร์ฟูลเหมือนบ้านฝรั่ง มาดูมีฮาวทู!

ตกแต่งบ้าน ทาสี ทาหลังคาให้คัลเลอร์ฟูลเหมือนบ้านฝรั่ง มาดูมีฮาวทู!

ตกแต่งบ้าน ทาสี ทาหลังคาให้คัลเลอร์ฟูลเหมือนบ้านฝรั่ง มาดูมีฮาวทู!

หากคุณกำลังมองหาวิธีการตกแต่งบ้านให้ดูสดใสและเป็นเอกลักษณ์เหมือนกับ Meme “colorful house” ที่เห็นในอินเทอร์เน็ต ลองมาดูวิธีการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มความน่าสนใจให้กับบ้าน แต่ยังช่วยให้บ้านของคุณโดดเด่นในสายตาคนอื่น

The Story Behind The Viral “Barbie” Beach House, News In Progress

5 ขั้นตอนการทาสีบ้านให้ colorful บ่งบอกลุคเจ้าของบ้าน

  1. เริ่มต้นด้วยการเลือกสีที่ใช่ การเลือกสีทาภายในและภายนอกบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในสไตล์นี้ โดยการเลือกใช้สีสดใสและหลากหลายจะทำให้บ้านของคุณดูมีชีวิตชีวา สีที่ได้รับความนิยมในสไตล์นี้คือ สีเหลืองสด ฟ้าอมเขียว และชมพูพาสเทล ให้เลือกสีที่ตัดกันได้ดี เช่น สีฟ้าและเหลือง หรือสีเขียวและชมพู ซึ่งจะทำให้บ้านดูสดใสและมีความสนุกสนาน
  2. ใช้สีแบบ Block Color การทาสีบ้านในรูปแบบ Block Color หรือการทาสีเป็นส่วนๆ ให้แต่ละพื้นที่มีสีต่างกัน จะช่วยให้บ้านดูมีความหลากหลายและสนุกสนานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทาผนังห้องต่างๆ ด้วยสีที่แตกต่างกัน หรือการสร้างจุดเด่นด้วยการทาสีในพื้นที่ที่คุณต้องการดึงดูดความสนใจ เช่น การทาสีในมุมห้องหรือผนังบางส่วน
  3. เพิ่มลวดลายและกราฟิก การใช้ลวดลายกราฟิกหรือการทาสีในลักษณะ Geometric Pattern จะช่วยให้บ้านดูมีมิติและความน่าสนใจมากขึ้น ลองเลือกใช้ลวดลายที่เป็นรูปทรงง่ายๆ เช่น สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม หรือวงกลม ที่ทาสีด้วยโทนสีที่ตัดกันหรือแมทช์กันให้ดูน่าสนใจ
  4. ใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่เข้ากับธีม นอกจากการทาสีบ้านแล้ว เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความสดใสให้กับบ้าน เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันสดใสหรือมีลวดลายที่ตัดกันกับสีบ้าน เช่น โซฟาสีสันสดใส หรือพรมลายกราฟิกที่จะช่วยเสริมลุคของบ้านให้ดูเหมือน Meme colorful house
  5. หลังคาเมทัลชีท เพิ่มลุคให้บ้าน หลังจากตกแต่งภายในและภายนอกบ้านเสร็จแล้ว อย่าลืมคิดถึงการตกแต่งหลังคาบ้านด้วย หลังคาเมทัลชีทเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับบ้านในสไตล์นี้ เนื่องจากหลังคาเมทัลชีทมีความทนทานและสามารถให้รูปลักษณ์ที่ทันสมัยและเรียบง่าย เหมาะกับบ้านที่ต้องการความโดดเด่นและความมั่นคง เพิ่มหลังคาเมทัลชีทสีที่ตัดกับสีบ้าน เช่น สีเทาหรือสีดำเพื่อให้ดูมีมิติและสมดุล

Free Stylish living room featuring modern furniture and creative decor elements. Stock Photo

ภายนอกปังแล้ว ภายในก็ต้องปัง!

  • ผนัง ทาสีผนังด้วยสีสันสดใสที่แตกต่างกันในแต่ละห้อง หรือจะเลือกใช้สีเดียวกันแต่มีเฉดสีที่แตกต่างกันก็ได้
  • ประตูและหน้าต่าง ทาสีประตูและหน้าต่างด้วยสีที่ตัดกับสีผนัง
  • เฟอร์นิเจอร์ เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันสดใส หรือจะตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ด้วยสีสันต่างๆ ก็ได้
  • ของตกแต่ง เพิ่มความสนุกสนานให้กับบ้านด้วยของตกแต่งที่มีสีสันสดใส เช่น หมอนอิง พรม หรือภาพวาด

 

สรุป

การตกแต่งบ้านในสไตล์ Meme colorful house ไม่ยากเลย เพียงแค่เลือกใช้สีสันสดใส การทาสีแบบ Block Color และเพิ่มลวดลายกราฟิกจะทำให้บ้านของคุณดูมีชีวิตชีวาและสนุกสนาน ส่วนหลังคาเมทัลชีทจะช่วยเพิ่มความทันสมัยและความทนทานให้กับบ้านของคุณ ทำให้บ้านในฝันของคุณเป็นจริงในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร.