WebsiteGang Blog

เขียนบทความฟรี ประชาสัมพันธ์ฟรี ข่าวสารโปรโมชั่นฟรี เพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา หรือทำ  SEO 

คำแนะนำ : การทำเพจของคุณให้น่าติดตามน่าสนใจ ควรใส่ภาพประกอบ

จำเลยเป็นตัวแทนโดยบริสุทธิ์ (Innocent Agent) คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2030/2537จำเลยใช้ให้เด็กหญิงป.ไปรับยาเสพติดให้โทษเฮโรอีน โดยเด็กหญิงป.ไม่ทราบข้อเท็จจริง การที่เด็กหญิงป. ครอบครองยาเสพติดให้โทษเฮโรอีนก็ถือว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองยาเสพติดให้โทษเฮโรอีนเอง#ทนายโทนี่  #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

จำเลยเป็นตัวแทนโดยบริสุทธิ์ (Innocent Agent) คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2030/2537จำเลยใช้ให้เด็กหญิงป.ไปรับยาเสพติดให้โทษเฮโรอีน โดยเด็กหญิงป.ไม่ทราบข้อเท็จจริง การที่เด็กหญิงป. ครอบครองยาเสพติดให้โทษเฮโรอีนก็ถือว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองยาเสพติดให้โทษเฮโรอีนเอง#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

จำเลยเป็นตัวแทนโดยบริสุทธิ์ (Innocent Agent) คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2030/2537...

read more
การถูกหลอกให้กระทำความผิด (Innocent Agent ตัวแทนโดยบริสุทธิ์)คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14213/2557จำเลยที่ 1 และที่ 2 ใช้บัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายเบิกถอนเงินของผู้เสียหายจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารโดยสำคัญผิดว่าจำเลยที่ 3 ผู้มอบบัตรเอทีเอ็มและใช้ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 นำไปเบิกถอนเงินมีสิทธิที่จะใช้บัตรเอทีเอ็มนั้นได้ แม้ข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยที่ 3 มีสิทธิใช้บัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายไปเบิกถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารจะไม่มีอยู่จริง แต่จำเลยที่ 1 และที่ 2 สำคัญผิดว่ามีอยู่จริง จำเลยที่ 1 และที่ 2 ย่อมไม่มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 62 วรรคแรก จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำความผิดตามฟ้อง แต่ต้องถือว่าจำเลยที่ 3 เป็นผู้กระทำผิดโดยอ้อมโดยใช้จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นตัวแทนโดยบริสุทธิ์ (Innocent Agent) เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดของจำเลยที่ 3 เอง และแม้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 3 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำผิด แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยที่ 3 เป็นผู้กระทำผิดโดยอ้อมโดยใช้จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นตัวแทนโดยบริสุทธิ์เป็นเครื่องมือในการกระทำผิด ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อแตกต่างกับฟ้องในสาระสำคัญ เพราะไม่ว่าจำเลยที่ 3 จะกระทำผิดด้วยตัวเอง หรือเป็นการกระทำผิดโดยอ้อม จำเลยที่ 3 ก็มีสถานะเป็นผู้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้องเหมือนกัน เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 3 ได้หลงต่อสู้ ศาลฎีกาจึงย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 3 ตามที่พิจารณาได้ความตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

การถูกหลอกให้กระทำความผิด (Innocent Agent ตัวแทนโดยบริสุทธิ์)คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14213/2557จำเลยที่ 1 และที่ 2 ใช้บัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายเบิกถอนเงินของผู้เสียหายจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารโดยสำคัญผิดว่าจำเลยที่ 3 ผู้มอบบัตรเอทีเอ็มและใช้ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 นำไปเบิกถอนเงินมีสิทธิที่จะใช้บัตรเอทีเอ็มนั้นได้ แม้ข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยที่ 3 มีสิทธิใช้บัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายไปเบิกถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารจะไม่มีอยู่จริง แต่จำเลยที่ 1 และที่ 2 สำคัญผิดว่ามีอยู่จริง จำเลยที่ 1 และที่ 2 ย่อมไม่มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 62 วรรคแรก จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำความผิดตามฟ้อง แต่ต้องถือว่าจำเลยที่ 3 เป็นผู้กระทำผิดโดยอ้อมโดยใช้จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นตัวแทนโดยบริสุทธิ์ (Innocent Agent) เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดของจำเลยที่ 3 เอง และแม้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 3 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 กระทำผิด แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยที่ 3 เป็นผู้กระทำผิดโดยอ้อมโดยใช้จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นตัวแทนโดยบริสุทธิ์เป็นเครื่องมือในการกระทำผิด ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อแตกต่างกับฟ้องในสาระสำคัญ เพราะไม่ว่าจำเลยที่ 3 จะกระทำผิดด้วยตัวเอง หรือเป็นการกระทำผิดโดยอ้อม จำเลยที่ 3 ก็มีสถานะเป็นผู้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้องเหมือนกัน เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 3 ได้หลงต่อสู้ ศาลฎีกาจึงย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 3 ตามที่พิจารณาได้ความตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

การถูกหลอกให้กระทำความผิด (Innocent Agent ตัวแทนโดยบริสุทธิ์) คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14213/2557 จำเลยที่ 1 และที่ 2...

read more
วันตรวจพยานหลักฐาน ในคดีอาญา ( ปวิอ.ม.173/1)วันตรวจพยานหลักฐานก่อนการสืบพยานนั้น เป็นกระบวนพิจารณาในคดีอาญาอย่างหนึ่ง ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสเห็นพยานวัตถุหรือพยานเอกสารของฝ่ายตรงข้ามก่อนวันนัดสืบพยาน อีกทั้งยังทำให้ทราบแนวทางการนำสืบของอีกฝ่าย ว่าจะสืบพยานบุคคลกี่ปากยื่นบัญชีระบุพยาน1.ยื่นครั้งแรก : คู่ความต้องยื่นก่อนวันตรวจพยานหลักฐานไม่น้อยกว่า 7 วัน2. ยื่นเพิ่มเติม :คู่ความต้องยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาล ก่อนการตรวจพยานหลักฐานเสร็จสิ้น โดยไม่ต้องขออนุญาตจากศาล 3. ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม  : หลังจากมีการตรวจพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว  คู่ความต้องขออนุญาตจากศาล โดยยื่นคำร้องขอต่อศาลโดยแสดงเหตุผลอันสมควร#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

วันตรวจพยานหลักฐาน ในคดีอาญา ( ปวิอ.ม.173/1)วันตรวจพยานหลักฐานก่อนการสืบพยานนั้น เป็นกระบวนพิจารณาในคดีอาญาอย่างหนึ่ง ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสเห็นพยานวัตถุหรือพยานเอกสารของฝ่ายตรงข้ามก่อนวันนัดสืบพยาน อีกทั้งยังทำให้ทราบแนวทางการนำสืบของอีกฝ่าย ว่าจะสืบพยานบุคคลกี่ปากยื่นบัญชีระบุพยาน1.ยื่นครั้งแรก : คู่ความต้องยื่นก่อนวันตรวจพยานหลักฐานไม่น้อยกว่า 7 วัน2. ยื่นเพิ่มเติม :คู่ความต้องยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาล ก่อนการตรวจพยานหลักฐานเสร็จสิ้น โดยไม่ต้องขออนุญาตจากศาล 3. ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม : หลังจากมีการตรวจพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว คู่ความต้องขออนุญาตจากศาล โดยยื่นคำร้องขอต่อศาลโดยแสดงเหตุผลอันสมควร#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

วันตรวจพยานหลักฐาน ในคดีอาญา ( ปวิอ.ม.173/1)วันตรวจพยานหลักฐานก่อนการสืบพยานนั้น เป็นกระบวนพิจารณาในคดีอาญาอย่างหนึ่ง...

read more
ไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ของผู้อื่น, ขาดเจตนาคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 4423/2564การกระทำอันจะถือเป็นตัวการร่วมกันกระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 83 ได้นั้น บุคคลผู้ร่วมกระทำความผิดจะต้องรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด และมีการกระทำโดยเจตนาที่จะร่วมกันกระทำความผิดนั้น จึงจะเป็นตัวการตามบทบัญญัติดังกล่าว แต่ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิดจะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้ ตาม ป.อ. มาตรา 59 วรรคสาม เมื่อพวกของจำเลยที่ขับรถแบ็กโฮเข้าขุดดินในที่ดินของผู้เสียหาย มิได้รู้เท็จจริงว่าดินที่ขุดออกไปเป็นของผู้เสียหายโดยเข้าใจว่าเป็นการขุดดินของจำเลย ก็ย่อมจะถือไม่ได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้อง แต่ต้องถือว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความเองโดยอ้อมโดยใช้พวกของจำเลยเป็นตัวแทนโดยบริสุทธิ์ (Innocent Agent) เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดของจำเลยเอง เมื่อพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบยังไม่ได้ความกระจ่างชัดว่าพวกของจำเลยรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิดและมีเจตนาร่วมกันกระทำความผิดกับจำเลยอันจะถือเป็นการลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป กรณีจึงต้องฟังข้อเท็จจริงเป็นคุณแก่จำเลยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะ#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ของผู้อื่น, ขาดเจตนาคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 4423/2564การกระทำอันจะถือเป็นตัวการร่วมกันกระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 83 ได้นั้น บุคคลผู้ร่วมกระทำความผิดจะต้องรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด และมีการกระทำโดยเจตนาที่จะร่วมกันกระทำความผิดนั้น จึงจะเป็นตัวการตามบทบัญญัติดังกล่าว แต่ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิดจะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้ ตาม ป.อ. มาตรา 59 วรรคสาม เมื่อพวกของจำเลยที่ขับรถแบ็กโฮเข้าขุดดินในที่ดินของผู้เสียหาย มิได้รู้เท็จจริงว่าดินที่ขุดออกไปเป็นของผู้เสียหายโดยเข้าใจว่าเป็นการขุดดินของจำเลย ก็ย่อมจะถือไม่ได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้อง แต่ต้องถือว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความเองโดยอ้อมโดยใช้พวกของจำเลยเป็นตัวแทนโดยบริสุทธิ์ (Innocent Agent) เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดของจำเลยเอง เมื่อพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบยังไม่ได้ความกระจ่างชัดว่าพวกของจำเลยรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิดและมีเจตนาร่วมกันกระทำความผิดกับจำเลยอันจะถือเป็นการลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป กรณีจึงต้องฟังข้อเท็จจริงเป็นคุณแก่จำเลยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะ#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ของผู้อื่น, ขาดเจตนา คําพิพากษาศาลฎีกาที่ 4423/2564...

read more
ไม่มีเจตนาทุจริตลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 24/2500คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์ โดยฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตลักทรัพย์จึงเป็นคดีที่ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ดังนั้น โจทก์จะฎีกาว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตลักทรัพย์ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ไม่มีเจตนาทุจริตลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 24/2500คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์ โดยฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตลักทรัพย์จึงเป็นคดีที่ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ดังนั้น โจทก์จะฎีกาว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตลักทรัพย์ซึ่งเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้#ทนายโทนี่ #ทนายสุทธิชัย ปัญญโรจน์

ไม่มีเจตนาทุจริตลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงคำพิพากษาศาลฎีกาที่...

read more
รักษาอาการหูแว่วอย่างไร ให้ปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ด้วยศาสตร์แผนไทย

รักษาอาการหูแว่วอย่างไร ให้ปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ด้วยศาสตร์แผนไทย

แนวทางการรักษาแพทย์แผนไทยสำหรับโรคที่รักษาไม่หาย...

read more

จดโดเมนเนม .com เพียง 380 บาท ฟรี! ระบบบริหารจัดการโดเมนด้วยตัวคุณเอง

กรอกชื่อโดเมนเนมที่ต้องการจด:

บทความล่าสุด