เวลาเราเดินผ่านทางเท้า ถนน หรือสวนสาธารณะ เคยสังเกตไหมครับว่าขอบคันหินบางที่ดูเหมือนตัน แต่บางที่กลับ “กลวงข้างใน”?
ใช่แล้ว นั่นแหละคือ “ขอบคันหินแบบกลวง” วัสดุที่กำลังมาแรงในวงการงานถนนและงานภูมิทัศน์ เพราะเบากว่า เคลื่อนย้ายง่าย และราคาย่อมเยากว่าแบบตัน แต่ก็ยังมีคำถามคาใจจากหลายคนว่า…

“ของกลวงมันจะทนเหรอ?”
“มันแข็งแรงพอไหม?”
“หรือแค่ช่วยให้ผู้รับเหมาประหยัดปูน?”

วันนี้ Mr.Home จะพาไปเจาะลึกกันแบบไม่อวย ทั้งข้อดี ข้อจำกัด และเทรนด์การใช้งานของขอบคันหินกลวงในปัจจุบัน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ถูกก่อนลงมือทำจริงครับ

ขอบคันหินแบบกลวงคืออะไร?

“ขอบคันหิน” หรือที่หลายคนเรียกว่า “คันหินฟุตบาท” (👉อ่านเพิ่มเติม: ขอบคันหินคืออะไร พร้อมไอเดียการนำเอาไปใช้งาน) คือแนวกั้นระหว่างถนนกับทางเท้า ใช้เพื่อป้องกันการไหลของน้ำ ควบคุมแนวทางเดิน และช่วยให้พื้นที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

ขอบคันหินแบบกลวง มีลักษณะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กที่มี “ช่องว่างภายใน” คล้ายกล่องสี่เหลี่ยมที่ปิดหัวท้าย เพื่อให้ น้ำหนักเบา และ ใช้ปูนในปริมาณน้อยลง เมื่อเทียบกับแบบตันที่เป็นคอนกรีตเต็มก้อน

ฟังดูเหมือนลดวัสดุใช่ไหมครับ? แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้แปลว่า “ลดความแข็งแรง” เสมอไป
เพราะการออกแบบของขอบคันหินกลวงในยุคใหม่ มักใช้วิศวกรรมโครงสร้างที่คำนวณแรงรับน้ำหนักอย่างแม่นยำ เรียกว่า “เบาแต่แกร่ง” ก็ไม่เกินจริงนัก

โครงสร้างและคุณสมบัติที่ทำให้ “ของกลวง” ทนได้

หลายคนอาจเข้าใจว่าความแข็งแรงต้องมาจาก “ความตัน” แต่ในโลกของวัสดุก่อสร้างไม่เสมอไปครับ
ขอบคันหินแบบกลวงสมัยนี้ใช้หลักการเดียวกับ “เสาเข็มกลวง” หรือ “ท่อคอนกรีตแรงอัดสูง” คือใช้ โครงสร้างรับแรงจากผนังรอบนอก แทนการพึ่งคอนกรีตภายใน

สิ่งที่ทำให้มันยังคงแข็งแรง มีอยู่ 3 อย่างหลัก ๆ คือ

  1. วัสดุเกรดเดียวกับแบบตัน
    ใช้คอนกรีตอัดแรงเกรดเดียวกัน (เช่น กำลังอัด 240–280 กก./ตร.ซม.) ดังนั้นความทนทานต่อแรงกดและแรงกระแทกจึงแทบไม่ต่าง

  2. การออกแบบช่องกลวงแบบรับแรง
    ช่องภายในไม่ได้กลวงแบบโล่ง ๆ แต่มีการคำนวณให้กระจายน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอ เช่น ใช้ผนังหนา 5–7 ซม. รอบตัว และอาจมีเส้นเหล็กเสริมในแนวขวาง

  3. ผ่านการอบไอน้ำ (Steam Curing)
    ช่วยให้คอนกรีตเซตตัวเร็ว แข็งแรง และทนต่อสภาพอากาศ — ทำให้เหมาะกับงานนอกอาคารที่ต้องเจอแดดฝนตลอดปี

คำตอบคือ “ประหยัดแน่ ถ้าใช้งานถูกประเภท”
เพราะด้วยน้ำหนักที่เบากว่าแบบตันราว 20–30% ทำให้ขนส่งง่าย ติดตั้งเร็ว และลดต้นทุนแรงงานได้เยอะทีเดียว

ในแง่ของราคาวัสดุ ขอบคันหินแบบกลวงทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ
120–180 บาทต่อก้อน (ความยาว 1 เมตร)
ขณะที่แบบตันอยู่ราว 160–250 บาทต่อก้อน
ฟังดูส่วนต่างไม่มาก แต่ถ้าเป็นโครงการที่ต้องใช้หลายร้อยเมตร — ตัวเลขนี้อาจประหยัดได้หลักหมื่นเลยครับ

แล้วมันเหมาะกับงานแบบไหน?

ขอบคันหินแบบกลวงไม่ได้เหมาะกับทุกงานนะครับ แต่ถ้าใช่สถานที่ มันตอบโจทย์สุด ๆ
ต่อไปนี้คือประเภทงานที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน:

1. งานจัดสวนและพื้นที่บ้านพักอาศัย

เหมาะกับงานที่ไม่มีแรงกระแทกจากรถยนต์ เช่น ขอบสนามหญ้า ทางเดินในสวน หรือแนวระบายน้ำรอบบ้าน เพราะน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และดูเรียบร้อย

2. งานตกแต่งพื้นที่เชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก

เช่น ลานจอดรถจักรยานยนต์ ทางเท้ารอบอาคาร ร้านกาแฟ หรือคาเฟ่ที่ต้องการแนวขอบปูนสวย ๆ แต่ไม่ต้องรับแรงมาก

3. งานโครงการหมู่บ้านจัดสรร

ผู้รับเหมาหลายรายเริ่มหันมาใช้ขอบคันหินกลวงเพราะช่วยลดต้นทุนก่อสร้างโดยรวม และยังสามารถผลิตได้รวดเร็วในรูปแบบ “สำเร็จรูป” พร้อมติดตั้ง

แล้วแบบไหน “ไม่เหมาะ” ใช้กลวง?

ถึงจะมีข้อดีมาก แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรรู้ไว้ก่อนเลือกใช้ครับ

  • ไม่เหมาะกับถนนหลักที่รถยนต์วิ่งชิดขอบตลอดเวลา
    เช่น ถนนใหญ่ ลานจอดรถบรรทุก หรือทางลาดที่ต้องรับแรงเฉือนสูง

  • ไม่ควรใช้ในพื้นที่ที่น้ำกัดเซาะแรง
    เพราะหากติดตั้งไม่ดี อาจเกิดโพรงใต้คันหิน ทำให้เคลื่อนตัวได้

  • ห้ามเจาะทะลุหรือยึดโครงสร้างหนัก
    ช่องกลวงภายในออกแบบมาเพื่อรับแรงแนวตั้ง ไม่เหมาะกับแรงดึงหรือแรงบิด

พูดง่าย ๆ คือ ถ้าเป็นงาน “ตกแต่ง” ใช้ได้ดี
แต่ถ้าเป็นงาน “โครงสร้างหลัก” ควรเลือกแบบตันหรือแบบเสริมเหล็กเต็มครับ

เทรนด์ใหม่ ขอบคันหินกลวงสำเร็จรูปเพื่อภูมิทัศน์สีเขียว

น่าสนใจมากว่าช่วง 1–2 ปีหลังมานี้ โรงงานผลิตคันหินหลายแห่งเริ่มพัฒนา “ขอบคันหินกลวงแบบระบายน้ำได้”
โดยมีช่องด้านล่างเล็ก ๆ ให้ น้ำฝนซึมลงดิน แทนการไหลบนผิวถนน เหมาะกับแนวคิด “Green Infrastructure” ที่เน้นการบริหารจัดการน้ำฝนอย่างยั่งยืน

บางรุ่นยังใช้ปูนสูตรลดคาร์บอน (Low Carbon Concrete) และเพิ่มเส้นใยไฟเบอร์แทนเหล็กเสริม ช่วยลดสนิมและเพิ่มอายุการใช้งาน
เรียกว่าไม่ใช่แค่ “กลวง” แต่ยัง “ฉลาดขึ้น” ด้วยครับ

สรุป แข็งแรงจริงหรือแค่ประหยัดปูน?

ถ้าจะตอบสั้น ๆ

ขอบคันหินแบบกลวงแข็งแรงพอสำหรับงานที่เหมาะสม และประหยัดกว่าจริง!

แต่ต้องเลือกใช้ให้ถูกงานและติดตั้งอย่างถูกวิธี เช่น มีคอนกรีตรองพื้น (lean concrete) ที่ได้ระดับ และอัดแน่นดินข้างคันหินให้แน่นก่อนเทปูนยึดด้านหลัง

อย่าลืมว่า “กลวงไม่ได้แปลว่าอ่อนแอ”
เพราะโครงสร้างที่ดีคือการคำนวณรับแรง ไม่ใช่แค่การเทให้ตันครับ

สรุปส่งท้ายจาก Mr.Home

ขอบคันหินแบบกลวงอาจดูเรียบง่าย แต่ถือเป็นวัสดุที่ช่วยให้การทำงานหน้างานเร็วขึ้นมาก ประหยัดทั้งต้นทุนและแรงงาน เหมาะกับคนที่ต้องการความสวยเรียบในพื้นที่บ้านหรือสวน

หากคุณกำลังจะทำแนวทางเดิน ปรับภูมิทัศน์รอบบ้าน หรืองานตกแต่งพื้นที่
ลองพิจารณาขอบคันหินกลวงดูครับ
เบา ติดตั้งไว และที่สำคัญ… คุ้มค่ากว่าที่คิดจริง ๆ